'ครูวีระ' โต้เขมรยุคฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไทยเคยช่วยเหลือ ล่าสุดฆ่าคนไทยอย่างอำมหิตไม่เห็นมีมนุษยธรรม

'ครูวีระ' ย้อนเขมรยุคฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แตกทะลักเข้ามาในแผ่นดินไทยนับแสนคน คนไทยแสดงมนุษยธรรมช่วยเหลือใช้งบฯไม่น้อยและยังให้เงินกู้ยืมอีก แต่สงครามตั้งแต่24ก.ค.ทหารกัมพูชายิงใส่รพ.-ผูับริสุทธิ์ล้มตายบาดเจ็บไม่เห็นแสดงออกถึงมนุษยธรรม โต้คนที่ไม่พอใจรพ.ไม่รักษาเขมร หรือมนุษยธรรมมีไว้สำหรับทุกคนแม้คนๆนั้นจะทำร้ายเราก็ตาม

1 ส.ค.2568 - นายวีระ สุดสังข์ หรือ "ฟอน ฝ้าฟาง" ศิลปินมรดกอีสาน ปี 2558 อดีตครูสอนภาษาไทย นักเขียนอิสระ ผู้ก่อตั้งกลุ่มวรรณกรรมลำน้ำมูลและสโมสรนักเขียนภาคอีสาน โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ มนุษยธรรมสำหรับกัมพูชา!? มีเนื้อหาดังนี้

ปี พ.ศ. 2521 - 22 สงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชา ทำให้ชาวกัมพูชาแตกทะลักเข้ามาในแผ่นดินของไทยนับแสนคน "คนไทยแสดงมนุษยธรรม"โดยตั้งศูนย์อพยพให้เป็นผู้ลี้ภัย เลี้ยงอาหาร รักษาโรค ช่วยเหลือดูแลให้ชาวเขมรไปยังประเทศที่ 3 และบางส่วนที่กลับคืนกัมพูชา หลังจากสงครามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สงบลง ไทยใช้จ่ายงประมาณจำนวนไม่น้อย แต่ก็ถือว่า เพื่อมนุษยธรรม

หลังจากนั้นประเทศไทยได้ช่วยเหลือกัมพูชาตลอดมา เช่น งบประมาณให้เปล่า การให้กู้ยืมเงิน การสร้างถนนหนทางในกัมพูชา การรับนักเรียนกัมพูชามาเรียนในประเทศไทย การรักษาพยาบาลคนกัมพูชา ซึ่งจ่ายงบประมาณไปถึง 3,000 กว่าล้านบาท เนื่องจากชาวกัมพูชาไม่มีเงินจ่าย แต่ไทยก็ให้การรักษาเพื่อมนุษยธรรม

สงครามระหว่างไทยกับกัมพูชา ในช่วงวันที่ 24 ถึง 28 กรกฎาคม 2568 เราไม่เห็นสิ่งใดที่ทหารกัมพูชาแสดงออกถึงมนุษยธรรม เช่น ทหารกัมพูชายิงโรงพยาบาล ยิงโรงเรียน ยิงศูนย์พัฒนาชุมชน ยิงบ้านเรือนของชาวบ้าน ยิงร้านสะดวกซื้อ ยิงปั๊มน้ำมัน ทำให้คนไทยล้มตายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก มีทั้งเด็ก สตรี คนชราและผู้คนทั่วไป ผู้คนอพยพหนีตายประเจิดกระเจิง ทิ้งไร่นาบ้านเรือน สัตว์เลี้ยง ส่วนวัวควายโดนกระสุนก็ตายเป็นจำนวนมาก "สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทหารกัมพูชาหรือทหารประเทศใดๆไม่ควรกระทำ เพราะประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่ใช่เป้าหมายของการรบ แต่ทหารกัมพูชาก็กระทำลงได้อย่างอำมหิต"

การสู้รบดำเนินต่อไป จนกระทั่งทหารกัมพูชาได้รับบาดเจ็บ และขอรักษาตัวที่โรงพยาบาลของประเทศไทย

คำว่า "มนุษยธรรมสำหรับกัมพูชา" จึงรู้สึกผะอืดผะอมมาก กระแสนี้คนไทยส่วนใหญ่ ไม่ต้องให้มนุษยธรรมแก่ชาวกัมพูชาอีกแล้ว นั่นเพราะภาพฝังใจที่ทหารกัมพูชาทำร้ายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทยผู้บริสุทธิ์ "เขาฆ่าเรา แต่เราจะรักษาดูแลเขา" มันเป็นความเจ็บปวดที่ฝังลึก แต่ก็เป็นธรรมดาที่มีคนไทยอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ญาติของผู้บริสุทธิ์ที่สูญเสียชีวิต ซึ่งไม่มีสิ่งใดสูญหายเสียหายจากการกระทำของทหารกัมพูชา ซึ่งไม่ได้รับความเดือดร้อนใดๆจากการกระทำของทหารกัมพูชา ต่างรู้สึกไม่พอใจที่โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งงดรับผู้ป่วยจากกัมพูชา

มนุษยธรรมมีไว้สำหรับผู้มีมนุษยธรรมเท่านั้นหรือว่ามนุษยธรรมมีไว้สำหรับทุกคน แม้คนๆนั้นจะทำร้ายเราก็ตาม จงพิจารณาดูเถิด !

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

อัยการวัชรินทร์ ตั้งทีมงานชุดใหญ่สอบคดีกัมพูชายิงถล่มไทย เอาผิดฮุนเซน-ฮุนมาเนต

ผบช.ภ.3 ส่งสำนวนเขมรยิงระเบิดใส่ไทย ให้ อสส.เเล้ว "วัชรินทร์" อธ.อัยการสอบสวน เตรียมตั้งคณะทำงานเกือบยกสำนักงาน ลุยคดีให้ 2 พ่อลูกตระกูลฮุนรับผิดชอบความสูญเสีย

ทำอะไรไม่ได้ ! กองทัพภาค 2 แฉกัมพูชาขโมยลวดหนาม คาดล่อทหารไทยเข้าเขตสังหารซุกระเบิด

กองทัพภาค 2 แฉพบทหารเขมรขโมยลวดหนามออกจากพื้นที่ชายแดน บริเวณช่องระยี–ช่องเปรอ อ.กาบเชิง จว.สุรินทร์

ชายแดนระอุ! ทภ. 2 ส่องทหารกัมพูชา 4 พื้นที่เสี่ยง สร้างกระเช้าขึ้นเนิน ส่งรถถังประชิด วางทุ่นระเบิดล้อมรอบ

กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ 4 พื้นที่เสี่ยง ทหารกัมพูชาตรึงกำลัง-วางทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ ใช้ปราสาทตาควาย เป็นบังเกอร์ สร้างกระเช้าขึ้นเนิน 350 ด้านทิศตะวันตก ภูมะเขือ มีรถถัง10คัน ส่วนช่องอานม้าเนิน 677ถูกยึด ช่องบก มีกำลัง 800 นาย

กองทัพเรือ ซัดกัมพูชาป่วนเก็บกู้ทุ่นระเบิด โยนประทัดสร้างสถานการณ์ ป้ายสีไทยใช้อาวุธ

พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่าตามที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเผยแพร่รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2025 ว่าคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนของกัมพูชา (ASEAN Observer Team: AOT) ได้ยุติภารกิจตรวจสอบการหยุดยิงบริเวณช่องทาง

'ครูวีระ' อบรมพวกโลกสวย แยกไม่ออก 'รักชาติ' กับ 'ชาตินิยม' แตกต่างกันอย่างไร

'ครูวีระ' ชี้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คนไทยเพียงต้องการรักษาแผ่นดินไทยเท่านั้น มิได้ต้องการรุกรานชาติกัมพูชา แต่หลายกลุ่มแยกไม่ออก 'รักชาติ' กับ 'ชาตินิยม' แตกต่างกันอย่างไร จึงมีคนโลกสวยเป็นจำนวนมาก