
3 ก.ค.68 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า. จาก Smith Sutibut ที่ถ่ายภาพนกและสัตว์ป่ามานาน และเป็นคนที่ผมเชื่อครับ
วันนี้เห็นคนเอาภาพฝูงแร้งและอีกามาเชื่อมโยงกับเรื่องศพทหารกัมพูชาตามแนวชายแดน นี่คือการมั่วข้อมูลโดยแท้ ผมขอกล่าวเป็นข้อๆ ตามนี้ละกัน
1 เอาภาพฝูงแร้งสีน้ำตาลหิมาลัยที่ถ่ายจากเทือกหิมาลัยมามั่วนิ่มเป็นแร้งลงกินซากศพทหารที่ภูมะเขือ
2 จริงๆ แร้งประจำถิ่นในกัมพูชายังมีอยู่ 3 ชนิด คือ พญาแร้ง อีแร้งสีน้ำตาล และอีแร้งเทาหลังขาว แต่ประชากรไม่ได้เยอะมากนัก ถึงจะพบอยู่หลายจุด แต่รวมฝูงก็แค่หลักสิบ
3 ส่วนแร้งประจำถิ่นในเมืองไทย (ชนิดเดียวกับที่พบในกัมพูชา) ถือเป็นศูนย์ เพราะทั้ง 3 ชนิดสูญพันธุ์จากธรรมชาติเมืองไทยนานแล้ว ที่ยังมีรายงานพบอยู่เป็นกลุ่มแร้งอพยพเข้ามาในช่วงฤดูหนาว ได้แก่ อีแร้งสีน้ำตาลหิมาลัย และอีแร้งดำหิมาลัย
4 ยังมีภาพฝูงนกขนาดใหญ่บนท้องฟ้าอ้างว่าถ่ายมาจากจังหวัดทางอีสานใต้ เกือบทั้งหมดคือนกปากห่าง ซึ่งมีลักษณะปีกกว้าง ปลายปีกแตกเป็นรูปมือคล้ายนกล่าเหยื่อ พฤติกรรมตอนบินวนเป็นวงเช่นเดียวกับเหยี่ยวและแร้ง
5 บางภาพเป็นฝูงนกยางควายรวมฝูงบินกลับมาตามแหล่งนอน และบางข่าวแตกช็อตเป็นฝูงอีกา ฝูงค้างคาว
6 ข่าวที่นำเสนอด้วย “ความไม่รู้” บวกกับมโนมั่วข่าวเพื่อเชื่อมโยงกับสถานการณ์ ก็คือ “เฟคนิวส์” คนที่พอมีความรู้ วิเคราะห์ด้วยเหตุและผลบนพื้นฐานของความจริงจะบอกได้ว่าเป็นข่าวปลอม แต่ปัญหาคือ ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ไม่รู้ รู้ไม่เท่าทัน และหลายคนพร้อมจะเชื่อ ข่าวแบบนี้กระจายเร็วซะด้วย
ปล. ภาพพญาแร้งและอีแร้งสีน้ำตาลนี้ผมถ่ายจากภัตตาคารแร้งที่ Tmatboey Forest เมื่อสิบกว่าปีก่อน จุดนี้อยู่ห่างจากเขาพระวิหารเพียงไม่กี่สิบกิโลเมตร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน
รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568
ทำอะไรไม่ได้ ! กองทัพภาค 2 แฉกัมพูชาขโมยลวดหนาม คาดล่อทหารไทยเข้าเขตสังหารซุกระเบิด
กองทัพภาค 2 แฉพบทหารเขมรขโมยลวดหนามออกจากพื้นที่ชายแดน บริเวณช่องระยี–ช่องเปรอ อ.กาบเชิง จว.สุรินทร์
ชายแดนระอุ! ทภ. 2 ส่องทหารกัมพูชา 4 พื้นที่เสี่ยง สร้างกระเช้าขึ้นเนิน ส่งรถถังประชิด วางทุ่นระเบิดล้อมรอบ
กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ 4 พื้นที่เสี่ยง ทหารกัมพูชาตรึงกำลัง-วางทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ ใช้ปราสาทตาควาย เป็นบังเกอร์ สร้างกระเช้าขึ้นเนิน 350 ด้านทิศตะวันตก ภูมะเขือ มีรถถัง10คัน ส่วนช่องอานม้าเนิน 677ถูกยึด ช่องบก มีกำลัง 800 นาย
กองทัพเรือ ซัดกัมพูชาป่วนเก็บกู้ทุ่นระเบิด โยนประทัดสร้างสถานการณ์ ป้ายสีไทยใช้อาวุธ
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่าตามที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเผยแพร่รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2025 ว่าคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนของกัมพูชา (ASEAN Observer Team: AOT) ได้ยุติภารกิจตรวจสอบการหยุดยิงบริเวณช่องทาง
'บ้านหนองหญ้าแก้ว' ตึงเครียด กัมพูชายิงใส่ก่อน ทหารไทยโต้กลับร่วม 10 นาที
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังบูรพาว่า เกิดเหตุทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนยิงเข้ามายังฝั่งไทย ในพื้นที่ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว
'ห้วยตามาเรีย' ปลดแอกสันติภาพจอมปลอม กับ สด.43 ของ สส.คนนั้น
เสียงระเบิดดังขึ้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เหตุการ


