รัฐบาลย้ำไทยเดินหน้าประจานให้โลกรู้ ปมกัมพูชาวางกับระเบิดใหม่ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บเป็นครั้งที่ 3 ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงหลังข้อตกลงหยุดยิง เผยทูตไทยร้อง UN เข้าพบประธานประชุมอนุสัญญาออตตาวา พร้อมจะยื่นหลักฐานต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC เอาผิดฮุนเซน-ฮุนมาเนต อาชญากรสงคราม
11 สิงหาคม 2568 - เวลา 15.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยกรณีกำลังพลเหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวนบริเวณรอยต่อ ช่องโดนเอาว์-กฤษณา (บริเวณภูมะเขือ) อ. กันทรลักษ์ จ. ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 3 นาย ซึ่ง 1 ในนี้ได้รับบาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด
ล่าสุด เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ได้มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 (ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2568) ร้องเรียนการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชาในพื้นที่บริเวณช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเรียบร้อยแล้ว และจากการตรวจสอบหลักฐานพบว่าเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังจากการประชุม GBC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งในการประชุมฯ ฝ่ายไทยได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกันแต่กัมพูชาปฏิเสธ ทั้งนี้ ได้ขอให้ประธานอนุสัญญาฯ เวียนหนังสือแจ้งรัฐภาคีอื่น ๆ เพื่อทราบต่อการละเมิดอนุสัญญาฯ ของฝ่ายกัมพูชา
นายจิรายุ กล่าวว่า นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา และนครนิวยอร์ก ได้เข้าพบประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 และเลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงผู้แทนระดับสูงของรัฐภาคีต่าง ๆ ของอนุสัญญาฯ ตลอดจนองค์กรภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ดำเนินการต่อการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชา และชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ ของกรอบอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง ขอย้ำว่าไทยประกาศไม่ยอมรับในเขตอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice: ICJ) หรือ ศาลโลก มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 จนถึงปัจจุบัน แต่ไทยจะยื่นหลักฐานต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) เอาผิดกัมพูชา เป็นอาชญากรรมสงคราม มีการทำร้ายพลเรือนอย่างชัดเจน
“รัฐบาลขอแสดงความเสียใจต่อกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว และขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการกระทำของกัมพูชา ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ที่กองกำลังไทยประสบเหตุการณ์เช่นนี้ในเวลาเพียงไม่ถึง 1 เดือนจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้“ นายจิรายุ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่
นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล
นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน
นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี
โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน
รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568
หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้
กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่
‘คนจีน’ถึงคราวซวย! เหยียบทุ่นระเบิดเขมร
กองทัพภาคที่ 1 เผยชาวจีนเหยียบทุ่นระเบิดเขมรที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังลักลอบเข้าเมือง ด้านสถานทูตจีนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ระบุชายชาวจีนอาการทรงตัว
เผยผลตรวจ 'ทุ่นระเบิด' ชาวจีนเหยียบขาขาด ขณะลอบข้ามชายแดนบ้านหนองจาน
จากเหตุการณ์ชาวจีนลักลอบข้ามแดนเหยียบทุ่นระเบิดที่ บ.หนองจาน หน่วยปฏิบัติการเพื่อระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 ร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้ลงเพื้นที่ในช่วงบ่ายวันนี้ (29 พ.ย.) ซึ่งผลการพิสูจน์ทราบ พบเข็มแทงชนวน


