โดรนกัมพูชาบินล้ำแดนกว่า 100 ลำ พื้นที่ตอนใน 5 จังหวัดอีสาน

ภาพประกอบ

โดรนเขมรบินล้ำแดนกว่า 100 ลำในพื้นที่ ตอนใน จว.สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี นครราชสีมา และจังหวัดร้อยเอ็ด พยายามเกาะรั้วลวดหนามเข้ามาเขตไทย

14 สิงหาคม 2568 - ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ประจำวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 14.00 น. โดยสถานการณ์โดยรวม เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ(โดรน) ในพื้นที่ตอนใน จว.สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี นครราชสีมา และจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 94 ลำ และในพื้นที่ตามแนวชายแดน 5 พื้นที่ จำนวน 25 ถึง 30 ลำ บินเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย และตรวจพบความเคลื่อนไหวทหารกัมพูชา พยายามเข้ามาเกาะแนวลวดหนามหีบเพลงบริเวณฐานปฏิบัติการฝ่ายเรา และพยายามที่จะข้ามลวดหนามเข้ามา

ฝ่ายเราได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎการปะทะ ทหารกัมพูชาจึงได้ถอยออกไปจากพื้นที่

ปัจจุบันไม่มีการปะทะ ฝ่ายเรายังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในเขตอธิปไตยของไทย มีการเตรียมพร้อมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยึดมั่นตามข้อตกลงของการประชุม GBC ที่ผ่านมา

ส่วนการทำพื้นที่ให้ปลอดภัย จัดชุดทำลายล้างวัตถุระเบิด หรือชุด EOD เข้าตรวจสอบพื้นที่ เพื่อทำลายวัตถุระเบิดที่ยังตกค้าง โดยได้ตรวจสอบแล้ว 269 พื้นที่ รอการตรวจสอบ 43 พื้นที่ และอยู่ระหว่างดำเนินการรอทำลาย 9 พื้นที่ โดยเน้นย้ำ ประชาชนหากพบวัตถุต้องสงสัยให้รีบดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทันที เพื่อทำการเข้าตรวจสอบต่อไป

งานด้านกิจการพลเรือน การประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน กองทัพภาคที่ 2 โดย กองกำลังสุรนารี ได้จัดชุดปฏิบัติการด้านกิจการพลเรือน กองกำลังสุรนารีที่ 216 ถึง 222 จำนวน 7 ชุด ลงพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เพื่อประชาสัมพันธ์และ สร้างความเข้าใจกับประชาชน ป้องกันการเกิดความเข้าใจผิดและความตื่นตระหนก จากกระแสข่าวปลอม (Fake News) ที่อ้างว่าจะมีการปะทะรอบที่ 2 โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนที่ได้อพยพเข้ามาในพื้นที่ เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐ กองทัพบก และกองทัพภาคที่ 2

การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ จากการสำรวจความเสียหายในพื้นที่ 4 จังหวัด พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 256 หลังคาเรือน แบ่งเป็น
- ความเสียหายเล็กน้อย จำนวน 185 หลังคาเรือน
- ความเสียหายมาก จำนวน 29 หลังคาเรือน
- ความเสียหายทั้งหลัง (เกินร้อยละ 70) จำนวน 42 หลังคาเรือน

ปัจจุบันทางจังหวัดได้รวบรวมข้อมูลความเสียหาย และวางแผนให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยบางส่วนได้เข้าดำเนินการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหลายภาคส่วน อาทิ งบกลางเพื่อบรรเทาสาธารณภัย งบจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจังหวัด สภากาชาดไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รวมถึงการสนับสนุนกำลังพลจากหน่วยทหาร ในพื้นที่เพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง

การดำเนินงานด้านจิตอาสา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้ นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นำแจกันดอกไม้ กระเช้าสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่กำลังพล ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 นาย ณ รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธิน อ.เมืองสุรินทร์ จว.สุรินทร์

ติดตามความคืบหน้าการสร้างบ้าน ให้ อาสาสมัครทหารพราน ประวิทย์ งามแสน โดยกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน ชุดช่าง 4 นาย และประชาชน จิตอาสา ตำบลชานุมาน รวมทั้งสิ้น 15 นาย ร่วมการก่อสร้าง และได้มีการสร้างต่อเติมเพิ่มขนาดบ้านออกไป จำนวน 2 ห้อง พร้อมมุขด้านหน้าเพื่อให้บ้านมีความกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

กองทัพภาคที่ 2 ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางอย่างเป็นทางการเท่านั้น อาทิ เช่น เพจ “กองทัพบก” เพจ “กองทัพภาคที่ 2” หรือเพจประชาสัมพันธ์ของแต่ละจังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงต่อสถานการณ์ในพื้นที่ และสามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้อง และทันเวลา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปิดด่าน 5 เดือน การค้าชายแดนคลองใหญ่เสียหาย 5 พันล้าน สินค้าเถื่อนทะลัก วอนรัฐบาลเยียวยา

เศรษฐกิจการค้าชายแดนคลองใหญ่ทรุดหนัก เสียหาย 5 พันล้าน ท่องเที่ยววูบปิดท่าเรือหนี ผู้ประกอบการจี้รัฐเยียวยา หลังปิดด่าน 5 เดือน ขณะสินค้าเถื่อนทะลักเข้า-ออก

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้

กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่

‘คนจีน’ถึงคราวซวย! เหยียบทุ่นระเบิดเขมร

กองทัพภาคที่ 1 เผยชาวจีนเหยียบทุ่นระเบิดเขมรที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังลักลอบเข้าเมือง ด้านสถานทูตจีนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ระบุชายชาวจีนอาการทรงตัว