'เครือข่ายกัญชา' ยื่นครม.ค้านกฎกระทรวงบังคับร้านขายกัญชาต้องเป็นสถานพยาบาล

'เครือข่ายกัญชา' ยื่นหนังสือครม. ค้านกฎกระทรวงบังคับร้านขายกัญชาต้องเป็นสถานพยาบาล ชี้ เสี่ยงผูกขาด-ขัดเจตนารมณ์กฎหมาย

15 ส.ค.2568- นางสาวช่อขวัญ ช่อผกา ประธานเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่14 สิงหาคม ตนพร้อมด้วย นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการฯ และผู้แทนจากเครือข่ายฯ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อขอให้ยับยั้งกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตให้ศึกษาวิจัย ส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า (ฉบับที่....) พ.ศ.... ตามที่ กระทรวงสาธารณสุขได้รับฟังความเห็นของประชาชนในระบบออนไลน์ต่อร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว ซึ่งจะมีผลต่อการกำหนดรูปแบบการจำหน่ายกัญชากล่าวคือกฎกระทรวงฉบับนี้กำหนดให้สถานที่จำหน่ายกัญชาต้องเป็นสถานพยาบาล เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยไม่เห็นด้วยต่อกฎกระทรวงฉบับนี้ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1.กัญชาจัดเป็นสมุนไพรควบคุมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ซึ่งพระราชบัญญัตินี้มิได้กำหนดว่าร้านจำหน่ายสมุนไพรควบคุมต้องเป็นสถานพยาบาล

2.ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มิได้มีเป้าหมายในการจัดตั้งสถานพยาบาลเพื่อการจำหน่ายสมุนไพรควบคุมแต่มีเจตนาที่ระบุอย่างชัดแจ้งในพระราชบัญญัติฉบับนี้ว่ามีไว้เพื่อการประกอบโรคศิลปะตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ

3.กฎกระทรวงดังกล่าวปรับปรุงมาจากกฎกระทรวงฉบับเดิม พ.ศ.2559 ซึ่งกฎกระทรวงฉบับเดิมมิได้ระบุให้ร้านจำหน่ายสมุนไพรควบคุมต้องเป็นสถานพยาบาล การที่กฎกระทรวงฉบับใหม่ระบุให้ร้านจำหน่ายสมุนไพรควบคุมต้องเป็นสถานพยาบาลนั้นเป็นการตีความเกินเลยเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542

4.การทำให้ร้านขายกัญชาต้องเป็นสถานพยาบาลนั้นเกินเลยจากข้อเท็จจริงที่ควรปฏิบัติและจะนำไปสู่การผูกขาดกัญชาแก่บุคคลบางกลุ่มเท่านั้น โดยการกำหนดรูปแบบร้านจำหน่ายกัญชาควรมีรูปแบบเฉพาะ

นางสาวช่อขวัญ กล่าวว่า ดังนั้นจึงขอให้คณะรัฐมนตรีได้ยับยั้งกฎกระทรวงดังกล่าวและให้จัดทำกฎกระทรวงเพื่อกำหนดรูปแบบการจำหน่ายสมุนไพรควบคุม(กัญชา)ใหม่โดยยึดหลักเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ซึ่งรัฐมนตรีสามารถประกาศหลักเกณฑ์สำหรับการจำหน่ายสมุนไพรควบคุมได้ ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ตรงต่อข้อเท็จจริงที่ควรปฏิบัติ ตลอดจนเป็นหลักเกณฑ์ที่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

ด้านนายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยอาศัยกฎกระทรวงชื่อ 'การอนุญาตให้ศึกษาวิจัยหรือส่งออกสมุนไพรควบคุมหรือจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า (ฉบับที่...)พ.ศ....' ในการบังคับให้ร้านขายกัญชาเป็นสถานพยาบาล กฎกระทรวงฉบับดังกล่าวเป็นการแก้ไขจากของเดิมคือกฎกระทรวงดังกล่าว ทั้งที่ไม่มีข้อบังคับว่า ร้านขายสมุนไพรควบคุมต้องเป็นสถานพยาบาล เมื่ออ่านกฎหมายแม่ คือ พ.ร.บ.ส่งเสริมภูมิปัญญาฯ ซึ่งกฎกระทรวงอ้างตามมาตรา 4 มาตรา46 มาตรา 49 มาตรา50 ก็ไม่มีระบุว่าร้านขายกัญชาต้องเป็นสถานพยาบาล

เลขาธิการเครือข่ายฯ กล่าวด้วยว่า เมื่ออ่าน พ.ร.บ.สถานพยาบาล พบว่าการมีสถานพยาบาลนั้นไม่ได้มีเป้าหมายในการตั้งขึ้นเพื่อขายสมุนไพร แต่ระบุชัดเจนว่า สถานพยาบาลคือ 'สถานที่รวมตลอดถึงยานพาหนะซึ่งจัดไว้เพื่อการประกอบโรคศิลปะตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ'' เป้าหมายของ พ.ร.บ.สถานพยาบาลไม่ใช่มีไว้เพื่อการขายสมุนไพรควบคุม กฎกระทรวงเดิมปี 2559 ไม่มีบังคับว่าร้านขายสมุนไพรควบคุมต้องเป็นสถานพยาบาลอีกทั้งกฎหมายแม่บทของกฎกระทรวงดังกล่าวก็มิได้ระบุว่าร้านขายสมุนไพรต้องเป็นสถานพยาบาล รวมถึง พ.ร.บ.สถานพยาบาลก็มีเป้าหมายเพื่อการรักษาคนของผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่มีไว้เพื่อการขายสมุนไพร

“ดังนั้นการที่กรมการแพทย์แผนไทย นำเงื่อนไขนี้มาใส่ไว้ด้วยเหตุใด นอกจากเจตนาเพื่อผูกขาด เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจึงต้องไปยื่นหนังสือต่อคณะรัฐมนตรีไม่ให้ผ่านร่างกฎกระทรวงดังกล่าว เนื่องด้วยเหตุผลที่กล่าวมา” นายประสิทธิ์ชัย ย้ำ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอาแล้ว! ม็อบกัญชายกระดับชุมนุมอดข้าวประท้วง

สุดทน! 'เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย' ยกระดับการชุมนุม ประกาศอารยะขัดขืนอดข้าวประท้วง จนกว่ารัฐบาลจะยอมไต่สวนก่อนพิพากษา ส่งกัญชาไปเป็นยาเสพติด

'ประสิทธิ์ชัย' กังขาถึงยุค นายทุนมาบัญชาการ เอากัญชาไปสู่ยาเสพติด

นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย และเพื่อภาคีชาวกัญชาประเทศไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า

'ประสิทธิ์ชัย' การันตี วงการกัญชามีศักยภาพมากมาย มิใช่ขี้ยาอย่างที่ปลุกปั่น

นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย และเพื่อภาคีชาวกัญชาประเทศไทย โพสต์ข้อความพร้อมภาพคนรุ่นใหม่ในเฟซบุ๊กว่า