กองทัพภาคที่ 2 เปิดโปง "กัมพูชา" เร่งปั่นเฟกนิวส์บิดเบือนข่าวสาร หวังปูทางเพื่อเตรียมการเผชิญหน้าทางทหารครั้งใหม่ เผยทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวาลงพื้นที่ เข้าใจในข้อเท็จจริง พร้อมนำข้อมูลรายงานต่อรัฐบาลของตนเอง รวมถึงเผยแพร่ความจริงต่อไป
16 สิงหาคม 2568 - ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 14.00 น. โดยระบุว่า สถานการณ์โดยรวม ฝ่ายไทยเชิญคณะทูตต่างประเทศลงพื้นที่ชายแดนกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับ กองทัพบก และกองทัพภาคที่ 2 ได้นำคณะทูตจากประเทศภาคีอนุสัญญาฯ ตลอดจนประเทศ และองค์กรผู้สนับสนุนการเก็บกู้ทุ่นระเบิด 33 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนด้านกองทัพภาคที่ 2 เพื่อให้ได้รับทราบข้อเท็จจริง และเห็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ฝ่ายกัมพูชามีการใช้ทุ่นระเบิดทำร้ายฝ่ายไทย และมีความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้ คณะทูตต่างประเทศได้แสดงความเข้าใจในข้อเท็จจริง และจะนำข้อมูลไปรายงานต่อรัฐบาลของตน รวมถึงเผยแพร่ความจริงต่อสาธารณชนต่อไป
กรณีกัมพูชานำผู้ช่วยทูตทหารเข้าพื้นที่เสี่ยงภัยช่องอานม้าพื้นที่ช่องอานม้าเป็นพื้นที่ที่มีความล่อแหลมและยังคงมีอันตรายจากสรรพาวุธที่ยังไม่ระเบิดของฝ่ายกัมพูชา โดยฝ่ายไทยได้จัดชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) ปฏิบัติการตรวจสอบและเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชามิได้ให้ความร่วมมือ อีกทั้งเมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 ยังได้นำคณะผู้ช่วยทูตทหารเข้ามาในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการนำบุคคลต่างชาติไปเผชิญอันตราย และอาจเข้าข่ายการใช้คณะผู้ช่วยทูตทหารเป็นโล่มนุษย์
กรณีข่าวอ้างการยึดพื้นที่ซำแตและปลดธงชาติไทย ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อออนไลน์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าสามารถ ยึดพื้นที่ ทำลายถนน และปลดธงชาติไทยในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้นั้น จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่บริเวณหมู่บ้าน เดโช เบาะสะเบา อยู่ตรงข้ามช่องซำแต ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 500 เมตร ฐานเสาธงที่ปรากฏในสื่อนั้นคาดว่าเป็นเสาธงของหน่วยทหารกัมพูชาเอง แต่มีการตัดต่อภาพให้คล้ายเป็นธงชาติไทย จึงขอยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่เป็น “ข่าวปลอม (Fake News)” ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและลดกระแสกดดันภายในประเทศเท่านั้น
สำหรับ ประเด็น fake news ที่มีการอ้างว่าฝ่ายไทยใช้สารพิษ ตามที่ปรากฏข้อมูลบิดเบือนจากสื่อกัมพูชา กล่าวหาว่าฝ่ายไทยมีการใช้อาวุธเคมีและสารพิษในการปฏิบัติการทางทหาร โดยมีการเผยแพร่ภาพเครื่องบินที่ถูกกล่าวหาว่าปล่อยสารพิษ ภาพทหารกัมพูชาสวมหน้ากากป้องกันสารเคมีประเภทต่าง ๆ รวมทั้งภาพปลอกกระสุนฟอสฟอรัส ภาพศพทหาร ในสภาพเน่าเปื่อย ตลอดจนการอ้างอิงนักวิชาการต่างชาติด้านสารพิษเข้ามาตรวจสอบ กองทัพภาคที่ 2 ขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นความเท็จโดยสิ้นเชิง ไทยมิได้และจะไม่มีวันใช้อาวุธเคมีหรือสารพิษใด ๆ เนื่องจากประเทศไทยเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention : CWC) และให้ความเคารพต่อหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศมาโดยตลอด
“การกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่เผยแพร่ข่าวปลอมอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นพฤติกรรมที่มุ่งหวังบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อสร้างความหวาดกลัวในหมู่ประชาชนตนเอง และใช้เป็นเหตุผลอ้างอิงในการอพยพ พลเรือนออกจากพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ เหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ได้ปรากฏให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกครั้ง ก่อนที่กัมพูชาจะดำเนินการทางทหารกับฝ่ายไทย จึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่า การบิดเบือนข่าวสารในครั้งนี้ มิใช่เพียงการสร้างกระแสในสังคม แต่เป็นการ ปูทางเพื่อเตรียมการเผชิญหน้าทางทหาร ซึ่งกองทัพไทยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอยืนยันว่าประเทศไทยพร้อมปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติอย่างถึงที่สุด”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปิดด่าน 5 เดือน การค้าชายแดนคลองใหญ่เสียหาย 5 พันล้าน สินค้าเถื่อนทะลัก วอนรัฐบาลเยียวยา
เศรษฐกิจการค้าชายแดนคลองใหญ่ทรุดหนัก เสียหาย 5 พันล้าน ท่องเที่ยววูบปิดท่าเรือหนี ผู้ประกอบการจี้รัฐเยียวยา หลังปิดด่าน 5 เดือน ขณะสินค้าเถื่อนทะลักเข้า-ออก
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่
นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล
นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน
นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี
โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน
รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568
หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้
กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่


