'บิ๊กเต่า' นำทีม 'ป.ป.ท.-ป.ป.ช.' จับนายกเทศบาลส่องดาวเรียกรับเงินต่อสัญญาจ้างงาน
03 ก.ย.2568 - พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก, พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.,พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.3 บก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช., นายจรงค์ เกราะเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ, นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 สำนักสืบสวนแลละกิจการพิเศษ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่
ร่วมกันจับกุม 1. นายมานะฯ อายุ 46 ปี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าศิลา อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 ที่ 22/2568 ลงวันที่ 21 ส.ค. 2568 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการ อย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่”
2. นายวินัยฯ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 ที่ 23/2568 ลงวันที่ 21 ส.ค. 2568โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อํานาจ ในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่”
สถานที่จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา เทศบาลตำบลท่าศิลา อ.ส่องดาว จ.สกลนคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพนักงานจ้างเหมาบริการของเทศบาลตำบลท่าศิลา อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร ว่านายมานะฯ นายกเทศมนตรีตำบลท่าศิลา มีพฤติการณ์เรียกรับเงิน จากพนักงานจ้างเหมาบริการและลูกจ้างภารกิจ เพื่อแลกกับการต่อสัญญาการจ้างงานตลอดระยะเวลา ในวาระการดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีฯ ของนายมานะฯ โดยเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2568 นายมานะฯ ได้เรียกประชุมลูกจ้างเหมาบริการของเทศบาลตำบลท่าศิลาประมาณ 50–60 คน ซึ่งก่อนการประชุม ได้มีการเก็บเครื่องมือสื่อสารของทุกคนที่เข้าร่วมประชุม โดยนายมานะฯ ได้แจ้งผู้เข้าร่วมประชุมว่า เทศบาลมีงบประมาณไม่เพียงพอในการจ้างพนักงาน จึงจะขอลดอัตราการจ้างพนักงานลง โดยถ้าผู้ใดต้องการจะต่อสัญญาจ้างให้เข้าพบนายมานะฯ เป็นการส่วนตัว ซึ่งต่อมาก็ได้มีการมอบหมายให้หัวหน้าสายงานประปามาแจ้งลูกจ้างในสายงานอีกครั้งว่าถ้าต้องการต่อสัญญาจ้าง ต้องชำระค่าต่อสัญญาคนละ 25,000 บาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ร่วมกันวางแผนกับผู้เสียหาย โดยจัดให้มีการบันทึกภาพเคลื่อนไหวในระหว่างการนำเงินค่าต่อสัญญาจ้างไปจ่ายให้กับนายมานะฯ เมื่อได้พบกับนายมานะฯ ได้มีการพูดคุยเจรจาเพื่อขอแบ่งจ่ายและจะจ่ายงวดแรกเป็นเงิน 15,000 บาท ซึ่งนายมานะฯ ได้แจ้งให้ผู้เสียหายนำเงินจำนวนดังกล่าวไปมอบให้กับนายวินัยฯ เจ้าของร้านค้าใกล้ๆ กับเทศบาลตำบลท่าศิลา ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดของนายมานะฯ จำนวน 15,000 บาท และหลังจากจ่ายงวดแรกไปประมาณ 10 วัน ผู้เสียหายก็ได้ไปพบนายมานะฯ เพื่อไปจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก 10,000 บาท โดยนายมานะฯ ก็ให้ไปฝากไว้กับนายวินัยฯ ที่ร้านค้า เหมือนกับครั้งแรก
ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เขต 4 จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา จากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย จนกระทั่งวันนี้ (3 ก.ย.68) บก.ปปป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช., ป.ป.ท. วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหาในเขตพื้นที่ จ.สกลนคร และนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คดีค้างอื้อ! เบรกสว.สีน้ำเงินลงมติห็นชอบ ชี้ขัดกันแห่งผลประโยชน์
สว.อิสระค้าน พุธนี้สภาสูงลงมติเห็นชอบป.ป.ช.-ตั้งกมธ.สอบประวัติว่าที่กกต. ยกเหตุเพื่อป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์ หลังสว.เกินครึ่งมีเรื่องค้างที่ตึกป.ป.ช.-กกต.
สภาสูงโหวต ป.ป.ช.ใหม่ 2 ชื่อพุธนี้ วัดใจ 'สว.สีน้ำเงิน' ชี้รอดหรือร่วง
สภาสูงโหวต ป.ป.ช.ใหม่สองชื่อพุธนี้ วัดใจ สว.สีน้ำเงิน ให้ผ่านหรือตีตก สองบิ๊กตุลาการ พ่วงตั้งกมธ.สอบประวัติฯ ว่าที่กกต.ใหม่สองคน พบแบ็คกราวด์ไม่ธรรมดา แน่นปึ๊กสีน้ำเงิน
ดีเอสไอ สรุปสำนวนคดีคุกวีไอพีจีนเทา ส่ง ป.ป.ช. เชือด ’ผบ.เรือนจำ’ ม.157 - ค้าประเวณี
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 พ.ย. เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีความมั่นคง คณะกรรมการตรวจสอบข้
ป.ป.ช. ฟันจริยธรรมร้ายแรง 'จิรพงษ์' อดีต สส.เพื่อไทย
ป.ป.ช. ชี้มูล 'จิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์' อดีต สส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ผิดจริยธรรมร้ายแรง ถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ตราด ส่งศาลฎีกาวินิจฉัย
เด้งจนท.สรรพากรรีดเงิน1แสน
สรรพากรเด้งเจ้าหน้าที่เอี่ยวรีดเงินผู้ประกอบการ 1 แสน
งามไส้!จับคาสำนักงานเจ้าหน้าที่สรรพากรตบทรัพย์บริษัทเลี่ยงเก็บภาษี
ตำรวจ ปปป.ร่วมกับบุกจับคาสำนักงานเจ้าหน้าที่สรรพากรรีดเงินบริษัท เลี่ยงเก็บภาษีเข้ารัฐ

