ฝ่ายกฎหมายการรถไฟฯ หอบเอกสารร้องทุกข์ “ดีเอสไอ” เอาผิด ”กลุ่มบุคคล-จนท.รัฐ“ ซึ่งได้ยึดที่เขากระโดง ต.อิสาณ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ทั้งหมด 4,414 ไร่ ตามกฎหมายเกี่ยวข้อง ยืนยัน กรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของการรถไฟฯ แย้ม ที่ผ่านมา รฟท.ได้ดำเนินการขับไล่คนรุกที่ไปบ้างแล้ว การันตีรักษาผลประโยชน์แผ่นดิน อุบตอบกรณี “จนท.รฟท.“ เซ็นรับรองกรณีอ้างไม่ใช่พื้นที่การรถไฟฯ ชี้ ขอให้เป็นเรื่องในสำนวนดีเอสไอ
5 กันยายน 2568 - จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม ดำเนินการสืบสวนเรื่องข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐและเกี่ยวข้องกับกลุ่มคณะบุคคลหลายฝ่าย เป็นเรื่องสืบสวนที่ 97/2568 พร้อมให้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวบรวมและตรวจสอบพยานหลักฐาน ประสานเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ การรถไฟแห่งประเทศไทย แขวงการทางรถไฟลำปลายมาศ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่บุรีรัมย์ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ต่อมา การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายเป็นผู้รับมอบอำนาจเตรียมเข้าดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ย. เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจะเข้ามอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งความประสงค์ดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ แต่ได้แจ้งเลื่อนไร้กำหนด ก่อนประสานเข้าพบเจ้าหน้าที่ดีเอสไออีกครั้งในวันที่ 5 ก.ย. ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
เวลา 13.50 น. วันนี้ ที่กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายกฎหมายของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หรือเจ้าหน้าที่สำนักงานอาณาบาล ได้เดินทางมาถึงกองคดีฯ รวมทั้งสิ้น 3 ราย โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปสอบถามขอสัมภาษณ์ประเด็นการร้องทุกข์กล่าวโทษคณะบุคคลที่เข้ายึด รุก ครอบครอง ที่ดินเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ในฐานะหน่วยงานผู้เสียหาย แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่อาณาบาล การรถไฟแห่งประเทศไทย ตอบสั้น ๆ ว่า วันนี้ตนมาตามหนังสือเชิญของดีเอสไอ ก่อนรีบเดินออกจากวงสัมภาษณ์สื่อมวลชน เพื่อตรงไปยังห้องกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระหว่างเดินก็ตอบว่า “ตนมาตามหนังสือเชิญของดีเอสไอ เพราะดีเอสไอเชิญตนมาวันนี้” และเมื่อถามต่อว่า “ก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่า รฟท. ต้องมาตั้งแต่เมื่อวาน (4 ก.ย.) ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร” โดยเจ้าหน้าที่อาณาบาล รฟท. ตอบว่า “ตามหนังสือคือเชิญมาวันนี้ ไม่มีการเลื่อน“ และเมื่อถามว่า ”วันนี้จะมีการร้องทุกข์ใครบ้าง“ เจ้าหน้าที่อาณาบาล รฟท. ตอบว่า ”อาจต้องขอดูรายละเอียดกับทางดีเอสไอก่อน เพราะเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน“ ส่วนเมื่อถามว่า ”กรณีที่พบว่ามีการไปเซ็นรองรับว่าที่ดินไม่ได้อยู่ในการรถไฟฯ นั้น“ , ”มีคนบุกรุกที่หลวง รฟท. จะร้องทุกข์กล่าวโทษอย่างไรบ้าง“ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่อาณาบาล รฟท. ได้ขออนุญาตยุติการให้สัมภาษณ์ และเดินเข้าห้องกองคดีฯ ทันที
ต่อมาเวลา 14.35 น. ภายหลังเจ้าหน้าที่อาณาบาล สำนักงานอานาบาล การรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าให้ข้อมูล รวมถึงการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเป็นเวลาประมาณ 1 ชม. ก็ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนเพียงสั้น ๆ ว่า วันนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยมาตามนัดหมาย ตามหนังสือเชิญของดีเอสไอส่วนการร้องทุกข์กล่าวโทษและฐานความผิดนั้น เรื่องฐานความผิดคงเป็นเรื่องของดีเอสไอที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนมา ทางเราเพียงแต่มาให้ถ้อยคำในส่วนที่เกี่ยวข้องของการรถไฟฯ ซึ่งเรายืนยันในเรื่องของกรรมสิทธิ์ที่ดินตามคำพิพากษาศาลฎีกา และคำพิพากษาศาลปกครองทุกส่วน ก็ยืนยันสิทธิหน้าที่ของการรถไฟ ส่วนเรื่องของผู้เกี่ยวข้องก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดีเอสไอที่จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
เมื่อถามว่าหากมีกลุ่มบุคคลร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการครอบครองยึดถือที่ดินนั้น เจ้าหน้าที่อาณาบาล ระบุว่า คงเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ส่วนให้ข้อมูลอย่างไรและเจอกี่คนนั้น อันนี้ให้เป็นเรื่องของสำนวน ทางการรถไฟฯ แค่มายืนยันกรรมสิทธิ์ในส่วนของการรถไฟและการได้มา ส่วนกรรมสิทธิ์ดังกล่าวเป็นเรื่องของช่วงปีใดนั้น ก็ตั้งแต่ในหลวงท่านพระราชทานให้เป็นที่ดินของการรถไฟ
เมื่อถามว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ทราบว่ามีกลุ่มคนบุกรุกที่ดินเขากระโดงของทางการรถไฟตั้งแต่เมื่อไรนั้น เจ้าหน้าที่อาณาบาล ระบุว่า หากเป็นเรื่องรายละเอียดขอให้ไปสอบถามกับดีเอสไอแทน ส่วนเหตุใดจึงเพิ่งเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีในตอนนี้ ตนต้องเรียนว่าเราดำเนินการมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มแรก เพียงแต่ไม่ได้เป็นข่าว สิ่งที่เราดำเนินการคือขับไล่
เมื่อถามว่า กรณีว่ามีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟไปเกี่ยวข้องอย่างไร หรือไปเซ็นรับรองว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่พื้นที่ของการรถไฟฯ จนสามารถออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินได้นั้น เจ้าหน้าที่อาณาบาล ระบุว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนแทน ซึ่งทราบว่าในสำนวนมีรายชื่อของเจ้าหน้าที่ที่เซ็นรับรองไว้อยู่แล้ว และตนต้องขออนุญาตให้รายละเอียดอยู่ในสำนวนของพนักงานสอบสวน
ต่อข้อถามว่าพื้นที่ดังกล่าวมีตระกูลดังรวมอยู่ด้วย แต่ทางนั้นก็ยืนยันว่าได้เอกสารโฉนดมาโดยชอบ และผ่านเวลามาเนิ่นนานแล้ว รวมทั้งเมื่อสอบถามว่าเรื่องกรรมสิทธิ์การครอบครองที่ดิน มีการออกโฉนดทับที่การรถไฟ ได้มีการตรวจสอบอย่างไรบ้าง และเมื่อถามว่าในพื้นที่เขากระโดงก็มีการตั้งอยู่ของ 12 หน่วยงานราชการ สรุปแล้วเป็นที่ดินราชพัสดุหรืออย่างไร ปรากฏว่าทุกคำถามที่ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนั้น เจ้าหน้าที่อาณาบาล ได้ขออนุญาตยุติการให้สัมภาษณ์ และกล่าวขอบคุณสื่อมวลชน แต่เมื่อถามว่าท่านเป็นเจ้าหน้าที่อาณาบาล ดูเรื่องกฎหมาย พอจะให้ข้อมูลสังคมได้หรือไม่เพราะมันจะต้องรักษาสิทธิประโยชน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาณาบาล ได้ตอบสั้น ๆ ว่า “ดูแลอยู่ครับ ดูแลกับดีเอสไอ” ก่อนตอบปิดท้ายว่า “ขอให้ดีเอสไอดำเนินการตามกฏหมาย” ก่อนยกมือไหว้ขอบคุณสื่อมวลชนและเข้าลิฟต์ลงจากอาคาร
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่อาณาบาล การรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าพบคณะพนักงานสืบสวนดีเอสไอ โดยประสงค์ขอให้ดีเอสไอดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มบุคคลที่ได้มีการบุกรุก ยึดถือ ครอบครองที่ดินบริเวณเขากระโดงทั้งหมด 4,414 ไร่ รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ตามประมวลกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดใจ‘ปัฐตพงษ์ บุญแก้ว’วิศวกรสร้างทางคู่ สุดหินสายเหนือสร้างอุโมงค์เจาะภูเขาฝ่าภัยพิบัติและความเชื่อ
ท่ามกลางแนวเขาสลับซับซ้อนของพื้นที่ภาคเหนือ ที่ปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ช่วง “เด่นชัย–เชียงราย–เชียงของ” กำลังค่อยๆ เผยให้เห็นภาพความคืบหน้างานก่อสร้าง คงต้องบอกว่า
DSIประเดิมเชือด8ราย ส่งอัยการฟ้องคดีฮั้วสว.
"ดีเอสไอ" สรุปสำนวน "คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว." ให้อัยการคดีพิเศษเชือดล็อตแรก 8 ราย
เชือดล็อตแรก 8 ราย 'อั้งยี่-ฟอกเงิน' คดีฮั้ว สว. ดีเอสไอสรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว
"ดีเอสไอ" สรุปสำนวน "คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว." ให้อัยการคดีพิเศษเชือดล็อตแรก "8 ผู้ต้องหา" ประกอบด้วย 2 สว.ตัวจริง และ 6 เครือข่ายพรรคใหญ่ หลังสอบสวนนาน 9 เดือน เหตุคำชี้แจงแก้กล่าวหาไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานได้
ดีเอสไอส่งฟันแก๊งคุกVIP ‘ปปช.’เร่งสอบล่าตัวการ
“ดีเอสไอ" สรุปสำนวนสืบสวน “คดีคุกวีไอพีจีนเทา” ส่ง ป.ป.ช.ดำเนินคดี ม.157
ป.ป.ช. ขยายผล 'กลุ่มคนนอก' คดีคุกวีไอพีจีนเทา ยันไม่จบแค่ ผบ.เรือนจำ-เลขาฯ
ผู้ช่วยเลขา ป.ป.ช. ยืนยันพร้อมตรวจสอบ-ขยายผล "กลุ่มคนนอก" ในคดีคุกวีไอพีจีนเทา มีพฤติการณ์สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดหรือไม่ หลัง "ดีเอสไอ" สรุปสำนวนสืบสวนส่ง ป.ป.ช. เชือดก่อน 2 ราย อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ - เลขา ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระบุ อำนาจของ ป.ป.ช.
ดีเอสไอ สรุปสำนวนคดีคุกวีไอพีจีนเทา ส่ง ป.ป.ช. เชือด ’ผบ.เรือนจำ’ ม.157 - ค้าประเวณี
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 พ.ย. เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีความมั่นคง คณะกรรมการตรวจสอบข้

