
15 ก.ย.2568- นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “ลุ้น ปชป.กลับมาเป็นหัวแถวอนุรักษ์นิยม” เนื้อหาระบุ วันนี้จะขออนุญาตวิเคราะห์ผลการสำรวจของสวนดุสิตโพล ที่ได้สำรวจความนิยมของประชาชนต่อพรรคการเมืองต่างๆ หัวข้อ เรื่องความคาดหวังต่อพรรคการเมืองไทย โดยตั้งคำถามว่า ถ้าสมมติว่า วันนี้เป็นวันเลือกตั้ง ประชาชนจะเลือกพรรคการเมืองใด ผลปรากฏว่า 1.พรรคประชาชน ได้รับความนิยมสูงสุด 23.94% 2.คือผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจ 21.35% 3.พรรคภูมิใจไทย 14.20% 4.พรรคเพื่อไทย 11.61% 5.พรรคพลังประชารัฐ 10.39%
ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆ ก็มีเลือกกันประปรายประมาณ 3% กว่าๆ (เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ 3.25%, พรรคประชาธิปัตย์ 3.17%, พรรคไทยสร้างไทย 1.79%, พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1.79%, พรรคไทยก้าวหน้า 1.70% ฯลฯ) รวมกัน 18.51%
จะเห็นได้ว่าคะแนนนิยมของพรรคประชาชน เป็นอันดับ1ก็จริง แต่ยังไม่สูงมากเพียงพอที่จะแลนด์สไลด์ได้ ส่วนกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองใด ยังมีสูงถึง 21.35% นั่นแสดงให้เห็นว่า คนกลุ่มนี้ยังสับสน ไม่มีพรรคการเมืองที่เป็นตัวเลือก ซึ่งสามารถประเมินได้ว่า น่าจะเป็นกลุ่มฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ยังลังเล เพราะ พรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมยังไม่มีพรรคการเมืองใดโดดเด่น แม้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีคะแนนนิยมขยับขึ้นมานำพรรคเพื่อไทยก็ตาม แต่พรรคภูมิใจไทยไม่ใช่เนื้อแท้ของกลุ่มอนุรักษ์นิยม
เมื่อเป็นเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าฝ่ายกลุ่มอนุรักษ์นิยม ต้องการที่จะหาพรรคการเมืองที่ฝ่ายตัวเองสนับสนุน ซึ่งจากเดิมหัวขบวน คือพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีคะแนนเสียงจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมสนับสนุนสูงถึง 12 ล้านเสียง แต่ปัจจุบันหรือการเลือกตั้งเมื่อ ปี 2566 ลดเหลือไม่ถึง 1ล้านเสียง
วันนี้เมื่อหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ลาออก และกำลังที่จะเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ถ้าหัวหน้าพรรคคนใหม่ สามารถครองใจหรือเป็นความหวังของฝ่ายอนุรักษ์นิยมได้ คะแนนฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็จะเทกลับมายังพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งความนิยมในขณะนี้อยู่ที่ 3.17% เมื่อรวมกับกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจซึ่งประเมินว่าเป็นฝ่ายกลุ่มอนุรักษ์นิยม ความนิยมจะอยู่ที่ 24.52% ถือว่ามีคะแนนสูสีกับความนิยมของพรรคประชาชน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์รีแบรนด์ รีเซ็ค หรือรีโนเวทใหม่ ทำให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมคาดหวังได้ ก็มีโอกาสสูงที่ พรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นมาเป็นพรรคหลักในฝ่ายอนุรักษ์นิยมได้
ส่วนพรรคภูมิใจไทยที่มีคะแนนนิยม (Popular Vote) ค่อนข้างต่ำมาโดยตลอด ตอนนี้เมื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทำให้คะแนนขยับขึ้นมาเป็นอันดับ2 รองจากพรรคประชาชน และแซงพรรคเพื่อไทยไป
สรุปได้ว่าถ้ามีการเลือกตั้งในวันนี้ หรืออีก4เดือนข้างหน้า ซึ่งระยะเวลาไม่ห่างกันมาก 1.พรรคประชาชน ยังได้เปรียบอยู่ 2.พรรคประชาธิปัตย์ ถ้าหากปรับปรุงโครงสร้างพรรคใหม่ เปลี่ยนผู้นำใหม่ จนเป็นที่พอใจของฝ่ายอนุรักษ์นิยม คะแนนก็จะตีตื้นขึ้นมาได้ 3.พรรคเพื่อไทย ยังอยู่ในอาการที่น่าเป็นห่วง เพราะคะแนนยังตกต่ำมาก 4.พรรคภูมิใจไทย ขึ้นอยู่กับผลงานในช่วง4เดือนนี้ว่า จะสร้างคะแนนนิยมได้มากน้อยเพียงใด
ผลการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ถ้าสถานการณ์การเมืองเป็นเช่นนี้ พรรคการเมืองก็ยังขับเคี่ยวกันสู้กัน เพราะคะแนนยังไม่ทิ้งห่างกันมากนัก เป็นโอกาสของพรรคการเมืองทุกพรรค ที่จะพัฒนาหรือสร้างคะแนนนิยมให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ บทบาทใหม่ บนถนนการเมือง หวั่นใช้ทุนเทาซื้อเสียงเลือกตั้ง!
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง ประเทศไทย"กรุงเทพมหานคร"เป็นอีกหนึ่งสนามเลือกตั้งที่คนทั้งประเทศจับตามองกันว่าผลการเลือกตั้ง 8 ก.พ.2569 "พรรคประชาชน"
พท.ผวา ‘มันนีโพลิติกส์’
พรรคประชาชนเดินหน้าฝันแลนด์สไลด์ได้ สส. 250 ที่นั่ง จัดตั้งรัฐบาลประชาชน ดูจากตัวเลขผู้บริจาคให้พรรคมากกว่าแสนคน ขณะที่เพื่อไทยต้อนรับทีมสุวัจน์
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง
หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี
พรรคเพื่อไทย จัดอีเวนต์สัปดาห์หน้า เปิดตัวผู้สมัครสส.ครบทุกเขต-บัญชีรายชื่อ
ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ในวันที่ 25 ธ.ค.พรรคเพื่อไทยจะทำการเปิดอีเวนต์ใหญ่ คือ
'เพื่อไทย' ต้อนรับว่าที่ผู้สมัคร สส. 3 เขตโคราช
ที่พรรคเพื่อไทย นำโดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย
กกต.ประกาศเปิดรับสมัคร สส.เขต 27-31 ธ.ค.
กกต. เปิดรับสมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบแบ่งเขต ระหว่างวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตกำหนด

