'เท้ง' งัด พรก.ไซเบอร์ฉบับใหม่ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมรับผิดชอบ 'อายัดบัญชีมั่ว'

"ณัฐพงษ์" แนะ ธปท. หาสมดุลบล็อกบัญชีม้า ไม่กระทบคนบริสุทธิ์เป็นวงกว้าง จาก พ.ร.ก.ไซเบอร์ฉบับใหม่ ให้ธนาคาร-ค่ายมือถือ ร่วมรับผิดชอบผู้เสียหาย

16 กันยายน 2568 - ที่อาคารอนาคตใหม่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพว่า ตนเองได้ติดตามการให้ข้อมูลจากตัวแทนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า การออกแบบการระงับบัญชีอาจจะต้องดูในรายละเอียด เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้บริสุทธิ์ เช่น พ่อค้าแม่ค้าที่ทำธุรกรรมทางออนไลน์ ซึ่งจะต้องหาความสมดุลทำอย่างไรให้เราบล็อกบัญชีม้าได้ทันท่วงที ไม่กระทบกับประชาชนเป็นวงกว้าง

เมื่อถามว่าจะต้องมีการชดเชยให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2568 ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรล่าสุด มีบทบัญญัติว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจการเงิน ไม่ได้มีมาตรฐานในการปกป้องดูแลรักษาความปลอดภัยที่ดีเพียงพอจะต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อผู้เสียหาย การจะออกมาเยียวยาผู้เสียหายหรือไม่ เชื่อว่าหน่วยงานมีมาตรการคำนึงถึงเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บก.ลายจุด อวยว่าที่นายกฯ ฝึกงานล้างบ้าน เก็บขยะ มีพัฒนาการที่ดี ลงท้ายแขวะ 'อภิสิทธิ์'

นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด โพสต์ภาพนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กำลังล้างบ้านน้ำท่วมที่หาดใหญ่ พร้อมข้อความระบุว่า ใครทนอ่านเรื่องส้มไม่ได้ให้ข้ามไปก่อน

'เท้ง' เย้ยรัฐบาล 'ฟื้นฟูหาดใหญ่' ไม่ทันตามไทม์ไลน์ ชี้ปัญหาใหญ่จัดการขยะล้นเมือง

'หัวหน้าเท้ง' ลงพื้นที่หาดใหญ่หลังน้ำท่วมหนัก จี้รัฐบาลเร่งเยียวยาประชาชนหลังเบิกจ่ายล่าช้า ย้ำเรื่อง"อยู่-ยา-ใจ" สำคัญต้องเร่งแก้ปัญหาระยะสั้น ส่วนระยะยาวฟื้นความเชื่อมั่นท่องเที่ยว-ธุรกิจ ปัดตอบปมถูกวิจารณ์พรรคส้มโหวต 'อนุทิน' มาเอง ยันทำหน้าที่ฝ่ายค้านวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเต็มที่

เช็กกระแสภาคตะวันออก  ‘เท้ง-ปชน.’ มีคะแนนนำเหนือคู่แข่ง

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “กระแสการเมือง ภาคตะวันออก” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 13 - 18 พฤศจิกายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคตะวันออก (จำนวน 8 จังหวัด ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว