27 กันยายน 2568 - กองทัพบก ได้จัดทำวีดีทัศน์เผยแพร่วีรกรรมของ 16 ทหารกล้า ใน 11 สมรภูมิรบ5 วัน ไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดเหตุการณ์ในวันที่ทหารเหล่านั้นเสียชีวิต ระหว่างทำหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้การรบที่ดุเดือด ท่ามกลางดงระเบิด ปืนใหญ่ ปืนเล็กโดรนสังหาร โดยเฉพาะในช่วงสุดท้าย ตามเวลาของข้อตกลงหยุดยิง
1.สมรภูมิบ้านโนนวันชัย เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เมื่อเวลา 10:24 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 13 ได้รับมอบภารกิจให้ยิงตอบโต้และทำลายฐานที่มั่นกัมพูชา พลทหาร ( ส.ต.)วรัญชิด ยวงสุวรรณ ในตำแหน่ง พลกระสุน หมู่เครื่องยิงลูกระเบิดหนักที่ 3กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 13 ได้ปฎิบัติหน้าที่ยิงทำลายข้าศึกบริเวณเนิน 391 หรือภูผี ในระหว่างปฎิบัติการมีอาวุธวิถีโค้งจากฝ่ายกัมพูชาตกลงมาอย่างหนาแน่นนอกพื้นที่ แต่พลทหาร วรัญชิต ยังคงทำหน้าที่เอากระสุนและบรรจุให้กับหน่วยอย่างต่อเนื่องด้วยความกล้าหาญจนเวลา 10:45 น. ขณะที่ทำการยิงทำลายฐานที่มั่นลสนับสนุนการยิง มี กระสุนปืนใหญ่ จากฝ่ายข้าศึกตกลงมาใกล้หมู่ ของตนเองทำให้พลทหารวรัญชิตซึ่งอยู่ ใกล้จุดตกที่สุดถูกแรงอัด และสะเก็ดระเบิด เข้าศีรษะและทั่วร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งปฎิบัติการครั้งนี้ทำให้สามารถทำลายฐานที่มั่นข้าศึกได้ 5 แห่ง และสังหารทหารกัมพูชาได้มากกว่า 100 นาย
2.สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังเปิดฉากยิงของทหารกุมพูชาในวันที่ 24 กรกฎาคม2568 กองกำลังสุรนารีจัดให้ชุดโดรนทิ้งระเบิดสังหาร ของกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่6 เข้าไปปฎิบัติหน้าที่ใน พื้นที่ปราสาทตาควายในวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 05.00 น. มีการปรับเปลี่ยนกำลังพลของ ชุดโดรนทิ้งระเบิดสังหาร เวลา 09:10 น. ระหว่างที่กำลังเซ็ตระบบโดรน โดยมี สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร(เจ้าหน้าที่เทคนิค)และ สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น นักบินผู้ช่วย ได้นำโดรนไปติดตั้งกับแท่นปล่อย เพื่อเตรียมขึ้นบิน เมื่อติดตั้งเสร็จกำลังพลทั้ง2นาย กำลังเข้าบังเกอร์ ระหว่างนั้นกัมพูชาได้ยิงเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 82 มิลลิเมตร ตกลงที่ชุดโดรนขณะที่จะทำการบิน เป็นเหตุให้ สิบเอก นพพล บุญเลิศ เสียชีวิตทันที 1 นาย ขณะที่ สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตรและ สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้เสียชีวิตระหว่างถูกนำส่งโรงพยาบาลสนาม
วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 05:00 น. ชุดอัลฟ่าซึ่งมี จ่าสิบเอกอโณทัย ป้องแก้ว เป็นหัวหน้าชุดโจมตี ได้เริ่มแทรกซึมด้วยเท้าเข้าพื้นที่ปฏิบัติการ เพื่อเข้าตีและยึดที่หมายเนิน 350 โดยเวลา 10:00 น. ก่อนเข้าตี กองทัพอากาศได้ทิ้งระเบิดจาก F-16 และรถถังยิงสนับสนุน จ่าสิบเอกอโณทัยฯ ได้นำกำลังเข้าวางตัวและเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บของชุดบราโว่ ก่อนเข้าไปประจำที่แล้วยิงตอบโต้กัมพูชาที่ตีโอบ ขณะกำลังเคลื่อนที่เจาะเส้นทางซึ่งเป็นป่าและก้อนหินไปด้านหน้า ท่ามกลางการระดมยิงอย่างต่อเนื่อง ได้มีระเบิดขว้างไม่ทราบชนิด ตกบริเวณด้านหลังพื้น ลูกระเบิดได้ระเบิดก่อนตกถึงพื้น ทำให้สะเก็ดระเบิดสาดใส่กำลังพลในชุด ได้รับบาดเจ็บ5นาย เวลา 11:00 น. จ่าสิบเอกอโณทัยฯล้มลงกับพื้นทันทีและหมดสติไป เขาได้รับการปฐมพยาบาลและพยามส่งกลับ สายการแพทย์แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
3.สมรภูมิฐานตาสิงห์ ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เกิดการประทะต่อเนื่องตลอดแนวชายแดน เวลา 03:00 น. ของวันที่ 25 กรกฎาคม กัมพูชาเริ่มยิงอาวุธเข้าใส่ฐานปฏิบัติการฐานตาสิงห์ สิบโท ศราวุธ นามสวัส ได้รับคำสั่งให้ยิงตอบโต้ จนเวลาประมาณ 10:30 น. สิบโทศราวุธ ตรวจ พบทหารกัมพูชาประมาณ 10 ถึง 20 นาย เคลื่อนที่เข้ามาทางทิศตะวันออกห่างประมาณ 200 เมตร ยิงด้วยปืนเอ็ม 79 และปืนเล็ก ความกล้าหาญ ของสิบโทศราวุธ สังเกตุเห็นทหารกัมพูชา3ถึง4นายอยู่ใกล้ จึงตัดสินใจขยับตัวออกนอกบังเกอร์เพื่อใช้ปืนอาร์พีจียิงใส่ ทำให้ทหารกัมพูชาบาดเจ็บราย ในขณะที่กำลังจะกลับเข้าบังเกอร์ มีระเบิดจากเครื่องยิงลูกระเบิดของกัมพูชาตกใกล้กับบังเกอร์ทำให้สิบโทศราวุธ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณศีรษะและหมดสติ ถูกนำส่งโรงพยาบาลกันทรลักษ์และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
4.สมรภูมิภูมะเขือ กองร้อยจู่โจมได้รับการแจ้งเตือนภารกิจล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อเตรียมแผนผลักดันพื้นที่ภูมะเขือ หลังจากเกิดความขัดแย้งรุนแรงในพื้นที่ชายแดนหลังจากที่ได้รับแจ้งว่ามีการปะทะที่ปราสาทตาเหมือนธม และปราสาทตาควายในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กองร้อยจู่โจมได้เคลื่อนย้ายกำลังพลพร้อมรถบรรทุกและรถปฏิบัติการไปยังฐานปฎิบัติการภูมะเขือ ท่ามกลางการยิงปะทะด้วยอาวุธวิถีตรง และวิถีโค้งตลอดเส้นทาง ฝ่ายเราได้ทำการลิดรอนอาวุธยิงสนับสนุนของกัมพูชาโดยอากาศยานไร้คนขับ ในคืนวันที่ 24 และ 25 กรกฎาคม จนเช้าวันที่ 25 กรกฎาคม กองร้อยจู่โจม ได้รับคำสั่งให้เข้าตีที่หมายยอดภูมะเขือ สิบเอก จิรายุส อินทุมาน ในตำแหน่งนายสิบทำลายชุดจู่โจมที่ 1หมวดจู่โจมที่1 ได้รับมอบหมาย ภารกิจ ในการลิดรอน ทำลายเสาสัญญาณ สะพาน และกระเช้า และ รวมทีมเจาะที่หมายในระหว่างทำการเจาะมีปืนเล็กของกัมพูชายิงมา สิบเอก จิรายุส ได้ทำการยิงตอบโต้และเมื่อทีมที่2 วางตัวเป็นฐานยิงให้ทีมที่1แล้ว สิบเอกจิรายุส ได้ลุกขึ้นโผตัวเป็นฐานยิง ทันใดนั้นกัมพูชายิงปืนเล็กสวนออกมา ถูก สิบเอก จิรายุส อินทุมาน ล้มลงต่อหน้าเพื่อนร่วมทีมและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที การปฎิบัติการครั้งนี้สามารถยึดภูมะเขือได้ และสังหารทหารกัมพูชาเสียชีวิต 17 นาย สามารถทำลายเสาสัญญาณกระเช้าลำเลียงพลและคลังเก็บอุปกรณ์ได้
5.สมรภูมิปราสาทโดนตรวน หลังเกิดการประทะตามแนวชายแดนวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นั้นวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 มีการยิงสนับสนุนเพื่อสกัดกั้นตลอดทั้งวัน จนวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 08:30 น. กัมพูชาได้เปิดฉากยิงโดยรถถังและอาวุธวิถีโค้งโค้งใส่ฐานปฎิบัติการภูผา จนเกิดการประทะกันอย่างรุนแรงพลทหาร ญาณพัฒน์ โคตรสาขา ในตำแหน่งพลยิงผู้ช่วยหมู่เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 60 มิลลิเมตรที่ 2 ได้รับภารกิจให้ทำการยิงทำลายฝ่ายตรงข้ามเพื่อต่อต้านการเข้าตี และ เวลา 09:30 น. กัมพูชาได้ เพิ่มเติมกำลังจำนวนมากพร้อมรถถัง และอาวุธวิถีโค้ง ระดมยิงอย่างหนาแน่นและรุนแรง ทำให้มีกระสุนปืนตกในฐานหลายนัด พลทหารญาณพัตร์ ถูกแรงอัดกระแทกจากระเบิด แม้ได้รับคำสั่งให้ถอนตัวแต่เจ้าตัวปฏิเสธและยังคงยืนหยัดทำหน้าที่อย่างกล้าหาญเพื่อยิงกดมาให้กัมพูชาเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ในระหว่างที่กำลังยิงต่อสู้มีกระสุนลูกระเบิดขนาด 82 มิลลิเมตรตกใส่บริเวณที่ตั้งปืนทำให้พลทหาร ญาณพัตร์ ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่หน้าอกและเสียชีวิตทันที
6.สมรภูมิสัตตโสม วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 10:45 น. เกิดการยิงจากฝ่ายกัมพูชาเข้ามาบริเวณปราสาทตาเหมือนธม จากการยิงตอบโต้โดยรถถัง T-44 อย่างหนักมายังจุดตรวจการพ้าอัน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของกัมพูชา จ่าสิบเอกธวัชชัย บุสภา ซึ่งปฎิบัติหน้าที่อยู่ที่จุดตรวจการณ์พ้าอัน ได้รับอันตรายจากถูกกระสุนรถถัง T-44 และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที
7.สมรภูมิปราสาทตาเมือนธม วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 สิบเอก อัมรินทร์ ผาสุข ในตำแหน่งหัวหน้าชุดยิงของหมู่ปืนเล็กที่3 ได้รับภารกิจวางกำลังต่อสู้ต้านทานทหาร กัมพูชาที่พยายามเข้าตีฐานที่มั่นบริเวณฐานปฏิบัติการหมุดน้ำเงิน ในระหว่างยิงต่อสู้ สิบเอกอัมรินทร์ ผาสุข ถูกแรงอัดระเบิดจากกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดไม่ทราบชนิด ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าเล็กน้อยและตัดสินใจกลับเข้าแนวรบอีกครั้ง หลังรักษาตัวที่โรงบาลสนาม จนวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 09:00 น. ทหารกัมพูชาเสริมกำลังและระดมยิงอาวุธนานาชนิดเข้าใส่อย่างหนักเพื่อแย่งยึดพื้นที่ปราสาทตาเหมือนธม ในระหว่างการต่อสู้มีกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดไม่ทราบขนาด ตกบริเวณหลังบังเกอร์ ที่จ่าสิบเอก อัมรินทร์ ประจำอยู่ สะเก็ดระเบิดพุ่งเข้าใส่บริเวณศีรษะทำให้หมดสติเขาถูกส่งโรงพยาบาลสนาม แต่เนื่องจากได้รับบาดเจ็บรุนแรงจาก สะเก็ดระเบิดบริเวณศีรษะซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
พลทหาร พิทยุตม์ โสดา ตำแหน่งพลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็ก หมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่4 กรมทหารราบที่ 23 วันที่ 23 สิงหาคม 2568 มีภารกิจ ให้จัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบแนววางกำลังของฝ่ายกัมพูชาบริเวณฐานปฏิบัติการปราสาทตาเมือนธม จำนวน7 นาย โดยให้ สิบเอกชัยบุญ นวนจันทร์ เป็นหัวหน้าชุด โดยพลทหาร พิทยุตม์ โสดา เป็นลูกชุด ในการปฎิบัติภารกิจตั้งแต่เวลา 08:30 น. ซึ่งการปฎิบัติการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและได้แยกย้ายพักผ่อนตามอัธยาศัยจนเวลา 16:30 น. จากการตรวจสอบยอดกำลังพลปรากฏว่าพลทหาร พิทยุตม์ ไม่อยู่ในฐานปฏิบัติการและไม่มีผู้พบเห็นจึงได้ออกตามหา จนกระทั่งเวลา 17:15 น. มีกำลังพลพบร่างของพลทหาร พิทยุตม์ นอนหมดสติอยู่ในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธมในลักษณะท่านอนตะแคง จึงได้แจ้งหมวดเสนารักษ์เขาช่วยเหลือปรากฏว่าพลทหาร พิทยุตม์ ได้เสียชีวิตก่อนหน้าแล้ว
8.สมรภูมิพื้นที่ซำแต วันที่ 28 กรกฎาคม เวลา 14:30 น. กองกำลังทหารกัมพูชาที่อยู่หน้าฐานปฏิบัติการของไทยได้เตรียมเปิดฉากการยิงด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดและปืนเล็กพร้อมกับเติมกำลังพลประมาณ 100 นายขึ้นหน้าแนวปะทะก่อนข้อตกลงหยุดยิงจะมีผลเวลา 14:50 น. มีกระสุนปืนใหญ่ไม่ทราบชนิดตกบริเวณฐานปฏิบัติการป่ามัน และกัมพูชาพยามเข้าตีฐานปฏิบัติการของไทย พลทหารสิรวิชญ์ ภิญโญสุขปฎิบัติหน้าที่ พลกระสุน ป้อนกระสุนให้พลยิงปืนกลอย่างต่อเนื่อง ขณะปะทะมีกระสุนปืนใหญ่ตกบริเวณรอบฐานอย่างหนักรวมถึงกระสุนไม่ทราบชนิดที่ยิงใส่ลังปืนกล ที่พลทหารสิรวิชญ์ ประจำอยู่ ด้วยความกล้าหาญไม่เกรงกลัวต่อกระสุนที่ยิงเข้ามา พลทหารสิรวิชญ์ ถูกกระสุนปืนไม่ทราบชนิดยิงเข้าใส่ที่บริเวณศีรษะ ลำคอหน้าอก ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
9.สมรภูมิฐานแดนไกล วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กัมพูชาเปิด ฉากยิงเข้ามาในบริเวณเขาพระวิหารและช่องอานม้าจนวันที่ 28 กรกฎาคมเวลา 21:00 น. ทหารกัมพูชาเพิ่มเติมกำลังและได้รับแจ้งจากฐาน ทหารพราน ซึ่งเป็นหน่วยข้างเคียงว่ามีโดรนทิ้งระเบิดของทหารกัมพูชาจำนวนมากในพื้นที่หน้าแนว หน่วยจึงได้จัดชุดลาดตระเวนตรวจการณ์และพยายามยิงทำร้ายโดรนเหล่านั้น แต่เนื่องจากมีโดรนจำนวนมากและการตรวจการณ์จำกัดทำให้ชุดลาดตระเวนทั้งหมด 13 นายได้รับบาดเจ็บ โดยบาดเจ็บสาหัส 3 นายทำให้ สิบโท ต่อพงษ์ พันดวง บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
10.สมรภูมิช่องสายตะกู ตั้งแต่เริ่มมีการปะทะในวันที่ 24 กรกฎาคม กองบังคับการกองร้อยทหารราบที่ 251 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณฐานทหารพราน 2604 ช่องสายตะกู มีหน้าที่บังคับบัญชาและตั้งรับจนวันที่ 28 กรกฎาคม เวลาประมาณ 18:00 น. ได้เกิดการปะทะกันอย่างประปรายระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา จ่าสิบเอก ธีรยุทธ สีจุ้ยจ้าย ซึ่งเป็นจ่ากองร้อยได้ช่วยผู้บังคับกองร้อยบังคับบัญชาและสั่งการให้กำลังพลในฐานปฏิบัติการเข้าที่กำบัง
จากการยิงกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาตกบริเวณโดยรอบฐาน ด้วยความกล้าหาญ จ่าสิบเอกธีรยุทธ วิ่งตามแนวคูติดต่อ เพื่อกำชับกำลังพลให้เข้าที่มั้นแข็งแรง เพื่อความปลอดภัยจากการโจมตีทางอากาศและฝากกระสุนปืนเล็ก เข้าไปบังคับบัญชาทหารที่อยู่ใน บังเกอร์ ระหว่างกำกับดูแลและบังคับบัญชา ได้มีกระสุนปืนใหญ่และปืนเล็กของฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีกระสุนปืนใหญ่ตกไม่ทราบทิศทางเข้ามายังบริเวณฐานปฏิบัติการ ทำให้ จ่าสิบเอก ธีรยุทธ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกสะเก็ดระเบิดถูกนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
11.สมรภูมิฐานตาฮอง วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ในขณะที่มีการเจรจาหยุดยิงในเวลา 24:00 น. 14:00 น. ฝ่ายกัมพูชาพยามรุกรานอธิปไตยโดยการโจมตีด้วยอาวุธหลายชนิดเพื่อยึดภูมิประเทศสำคัญบริเวณฐานปฏิบัติการตาฮอง2 จ่าสิบเอกอภิรมย์ ทรงพุฒิ ซึ่งปฎิบัติหน้าที่ผู้บังคับหมู่ปืนเล็กที่3 ได้สั่งการให้กำลังพลยิงต่อสู้ ท่ามกลางกระสุนปืนใหญ่แตกอากาศเข้ามายังฐานทำให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ และได้รับแจ้งว่าปืนกลสนับสนุนติดขัด จ่าสิบเอกอภิรมย์ สั่งการให้กำลังพลยิงกดอย่างต่อเนื่อง และพยายามวิ่งฝ่าแนวกระสุนปืนใหญ่และลูกระเบิด เพื่อเข้าไปช่วยเหลือพลยิงปืนกล ในระหว่างเคลื่อนที่ มีกระสุนปืนใหญ่ไม่ทราบชนิดตกบริเวณฐานทำให้จ่าสิบเอกอภิรมย์ ถูกสะเก็ดระเบิด แต่เขายังคงนำกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บเข้าที่กำบังปลอดภัยจนเป็นเหตุให้ตนเองทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
และในฐานปฏิบัติการเดียวกันนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมเริ่มการประทะอย่างต่อเนื่องตลอดแนวชายแดนจนถึง 28 กรกฎาคม การประทะยังคงต่อเนื่องอย่างหนาแน่นตลอดทั้งวันจนทั่งเวลา 22:00 น. ฝ่ายกัมพูชาพยายามแทรกซึมเข้าตี เพื่อยึดพื้นที่ก่อนคำสั่งหยุดยิง มีการปะทะด้วยปืนเล็กยาวอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลา 23:30 น. กัมพูชายิงเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 82 มิลลิเมตรลงพื้นที่ ฐานปฏิบัติการตาฮอง2 ทำให้พลทหารธีรยุทธ กระจ่างทอง ซึ่งกำลังยิงปะทะเพื่อต้านทานได้รับบาดเจ็บจากอาวุธเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 82 มิลลิเมตร โดยวิธีกระสุนเข้าบริเวณจุดสำคัญอวัยวะภายในของร่างกาย ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา