'อสส.' เด็ดปีก 'อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ' จากอเมริกาส่งตรงคุกไทย

อสส.ร่อนเอกสารประสานนำตัว “นพรัตน์”อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ กลังมาดำเนินคดีเงินทอนวัดจากอเมริกาฯถึงไทยเเล้วเมื่อวาน 

28 ก.ย.2568 – สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ออกเอกสารข่าว การส่งผู้ร้ายข้ามเเดน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ

ความว่าสำนักงานอัยการสูงสุดร่วมกับกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รับตัวผู้ร้ายข้ามแดนคดีทุจริตเงินทอนวัดจากสหรัฐอเมริกา กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย

สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะผู้ประสานงานกลางตามพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 ได้ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. ประสานงานกับกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินการรับตัวผู้ร้ายข้ามแดนรายสำคัญในคดีทุจริตเงินทอนวัดที่ได้หลบหนีไปต่างประเทศ เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย คือ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินอุดหนุนเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัดกว่า 65 แห่ง 

คดีนี้สืบเนื่องจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดของนายนพรัตน์ฯ กับพวก เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและเบียดบังเงินงบประมาณอุดหนุนวัดพนัญเชิงวรวิหารและวัดอื่น ๆ รวม 65 แห่ง ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและบ่อนทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนา ต่อมา อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องนายนพรัตน์ฯ กับพวกต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 โดยได้นำผู้ถูกกล่าวหาบางส่วนขึ้นสู่การพิจารณาของศาลแล้ว แต่เนื่องจากนายนพรัตน์ฯ หลบหนีไปยังสหรัฐอเมริกา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 จึงได้ออกหมายจับไว้

สำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะหน่วยงานผู้ประสานงานกลาง ได้จัดทำคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังทางการสหรัฐอเมริกา และได้มีการประสานงานกับกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิดเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายของไทยต่อศาลสหรัฐฯ จนกระทั่งเมื่อกลางเดือนกันยายน 2568 สำนักงานอัยการสูงสุดได้รับแจ้งว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้เห็นชอบให้ส่งตัวนายนพรัตน์ฯ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย

และเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงาน ป.ป.ช. ได้เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อรับตัวนายนพรัตน์ฯ กลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การดำเนินการในครั้งนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นและความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างจริงจังในการติดตามตัวผู้กระทำความผิดที่หลบหนีมาดำเนินคดีจนถึงที่สุด 

ในโอกาสนี้ สำนักงานอัยการสูงสุดขอขอบคุณพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา ผู้ประสานงานกลางสหรัฐอเมริกา พนักงานอัยการเขตเท็กซัสตะวันออกผู้ดำเนินคดี ผู้ช่วยทูตฝ่ายกฎหมายประจำฟิลิปปินส์ผู้ประสานงาน และเจ้าหน้าที่ US Marshals ผู้จับกุมและควบคุมตัว กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงาน ป.ป.ช. ที่ได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด จนทำให้การส่งผู้ร้ายข้ามแดนในคดีสำคัญครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นานเป็นปี! บช.ภ.9 ยังไม่ส่งผลสอบเพิ่มคดีเว็บพนัน 'ชนนพัฒฐ์' อสส. ทวงถามแล้ว 2 ครั้ง

1 ปีกว่า ผบช.ภ. 9 ยังไม่ส่งผลสอบเพิ่มคดี เว็บพนัน "ชนนพัฒฐ์" กลับมาให้ อสส.ชี้ขาดความเห็นเเย้ง เผยเคยมีหนังสือเตือนไป 2 ครั้ง เเต่ยังเฉย

เปิดคำสั่ง อสส. ปี67 สั่งสอบเพิ่ม 8 ประเด็น คดี 'ชนพัฒฐ์'

เปิดคำสั่งอัยการสูงสุด ปี 67 สั่งสอบเพิ่มคดี 'ชนพัฒฐ์ นาคสั้ว' สภ.หาดใหญ่ เพียบ 8 ประเด็น หลังอัยการสงขลาสั่งไม่ฟ้อง เเต่ผู้บัญชาการภาค 9 เเย้ง พบพิรุธหลายประเด็นพนักงานสอบสวนไม่ส่งอัยการ

ครม.อนุมัติหลักการบรรเทาความเดือดร้อน วัดค้างค่าน้ำ-ไฟฟ้า

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่วัดที่ประสบปัญหามีหนี้ค้างชำระค่าสาธารณูปโภค ดังนี้ 1. ขอความร่วมมือให้การไฟฟ้านครหลวง

'พิพัฒน์' ยัน ไม่ยกเลิกสัญญา 3 สนามบิน  ระบุทำตามคำแนะนำอัยการสูงสุด สัปดาห์หน้าหารือผู้ประกอบการ

ที่ทำเนียบรัฐบาลนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการยกเลิกสัญญาเอกชนในโครง

อัยการคุมตัว 'อดีตผอ.พศ.' ส่งฟ้องศาลทุจริตฯ คดีเงินทอนวัด

อัยการนำตัว 'นพรัตน์' อดีตผอ.สำนักพุทธฯ ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตภาค 7 คดีเงินทอนวัดพนัญเชิง-65 วัดชายเเดนใต้ ค้านประกันหวั่นหนีซ้ำ