
การเมืองในวันข้างหน้า นอกจากกระแสแล้ว ยังมีกระสุนเป็นปัจจัยสำคัญ และปัจจัยชี้ขาด ซึ่งแล้วแต่พรรคไหนจะใช้งัดกลยุทธ์ไหนออกมาสู้กัน ในสนามเลือกตั้งที่จะถึงอีก4เดือนข้างหน้า
29 ก.ย.2568-นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “เพื่อไทยแพ้เลือกตั้งซ่อม สอดคล้องผลโพล” เนื้อหาระบุ
ผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต5 จังหวัดศรีสะเกษ ปรากฏว่า นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล จากพรรคภูมิใจไทย เอาชนะนางสาวภูริกา สมหมาย จากพรรคพรรคเพื่อไทย ไปจำนวน 8000 กว่าคะแนน ถือว่ามากพอสมควร ซึ่งผลการเลือกตั้งไม่ได้เกินความคาดหมาย เพราะมีการวิเคราะห์กันก่อนหน้านี้ว่า คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยในภาคอีสาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่อีสานใต้ จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา มีคะแนนตกต่ำมาก ผลมาจากกรณีคลิปหลุด และเกิดปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ทำให้ประชาชนบาดเจ็บ ล้มตาย บ้านเรือนทรัพย์สินเสียหาย ทำให้ประชาชนในภาคอีสานไม่พอใจรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย จึงเป็นที่มาของกระแสนิยมพรรคเพื่อไทยในภาคอีสานตกต่ำ จากเดิม 40 %กว่า ลดเหลือ 10%เศษ จนทำให้อดีตส.ส.หรืออดีตรัฐมนตรีลาออก ย้ายพรรคไป2ระลอก ล่าสุดส.ส. อาวุโสอย่างส.ส.กุ่ย ชูวิทย์ พรพิทักษ์พัลลภ ก็ได้ลาออกอีกเช่นกัน ถ้าหากว่ายุบสภาแล้วก็สามารถย้ายพรรคกันได้ จะมีส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนไม่น้อยจะย้ายพรรคกัน
มีการวิเคราะห์จากผลการสำรวจของนิด้าโพล ถึงการเมือง3ก๊ก คือพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย โดยคะแนนนิยมของพรรคประชาชนมีสูงถึง 33.08% พรรคเพื่อไทย 13.96% และพรรคภูมิใจไทย 13.24% แต่ยังมีอีกก๊กหนึ่ง คือก๊กที่ประชาชนยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองใดสูงถึง 21.64% ถ้าหากว่าพรรคการเมืองใด สามารถครองใจกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ก็จะเป็นพวกก๊กที่4 ทำให้การเมืองในอนาคตอาจจะเป็นการเมืองก๊กที่4ก็เป็นไปได้ แต่พรรคการเมืองที่ได้เปรียบมากที่สุด คะแนนนิยมยังยืนพื้นเป็นอันดับ1 นั่นก็คือพรรคประชาชน ที่มีคะแนนนิยมถึง 33.08% แต่ว่าเมื่อเทียบกับคะแนนนิยมของหัวหน้าพรรค คือคุณณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุธ คะแนนนิยมอยู่ที่ 22.80% ต่ำกว่าคะแนนนิยมของพรรคถึง 10% จึงทำให้เห็นว่าคะแนนนิยมของหัวหน้าพรรคไม่สอดคล้องกับคะแนนนิยมของพรรค
การที่พรรคประชาชนตัดสินใจ จะใช้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบตามโควต้าทั้ง3คน เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะลำพังคุณเท้ง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิเพียงคนเดียว คะแนนนิยมอาจไม่สูงพอ แต่เมื่อมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีก2คนเข้ามาประกบ ก็อาจทำให้คะแนนนิยมสูงใกล้เคียงกับคะแนนนิยมของพรรค ก็มีโอกาสเป็นไปได้
แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ผลจากการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต5 ศรีสะเกษ จะเป็นการส่งสัญญาณถึงส.ส.พรรคเพื่อไทยปัจจุบัน อาจจะมีเลือดไหลออกจากพรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้น ดังนั้นการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะมีมาตรการห้ามเลือดโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ จะส่งสัญญาณว่าสู้สู้นะคะ ก็ไม่มั่นใจว่า จะหยุดยั้งการไหลออกของส.ส.พรรคเพื่อไทยได้หรือไม่
การเมืองในวันข้างหน้า นอกจากกระแสแล้ว ยังมีกระสุนเป็นปัจจัยสำคัญ และปัจจัยชี้ขาด ซึ่งแล้วแต่พรรคไหนจะใช้งัดกลยุทธ์ไหนออกมาสู้กัน ในสนามเลือกตั้งที่จะถึงอีก4เดือนข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เทพไท' ชี้ 5 ปัจจัยทำเพื่อไทยยึกยักสางแค้นซักฟอกรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา
'อนุทิน' ยันไม่มีดีลเพื่อไทยชะลอยื่นซักฟอกรัฐบาล
"อนุทิน" ลั่นเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรอเลือกตั้ง ยังไม่บอกพร้อมจับมือหลังลต.กับพรรคใด ไม่กังวลกระแสตกห่วงแต่แก้ปัญหาน้ำท่วมได้ไม่ทันใจ
'เทพไท' ทวงค่าปลงศพรายละ 2 ล้านให้ 9 จังหวัดใต้เหมือนหาดใหญ่!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก
'สุชาติ' นัดเคลียร์ 'สนธยา' แบ่งโซนส่ง 10 ผู้สมัคร สส.ชลบุรี ลั่นเขต 1 ขอลงเอง
"สุชาติ" เผยนัดคุย "สนธยา" วางตัว 10 ว่าที่ผู้สมัครสส.ชลบุรี คาดจบภายใน 1-2 วันนี้ ขอจองเขต 1 ลงเอง ส่วนภาพรวมดูความเหมาะสมใครถนัดลงเขตไหน ลั่นอยากให้ ภท. เป็นหนึ่งเดียวในชลบุรี บอกยังไม่มีสัญญาณยุบสภา
‘เฉลิม’ ยืนยันลาออกพ้นเพื่อไทย เตรียมย้ายซบพลังประชารัฐ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เผยเซ็นลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว เตรียมยื่น กกต. วันที่ 3 ธ.ค. ย้ำเป็นเหตุผลทางการเมือง ไม่มีการแจ้งแพทองธาร และยังไม่ได้คุยกับวัน อยู่บำรุง ก่อนประกาศชัด


