08 ต.ค.2568 - นายสุภลักษณ์ กาญจนขุนดี ผู้สื่อข่าวอาวุโสและนักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “เชิญชวนปัญญาชนชาวสยามลงจากเขาพระวิหาร” ระบุว่า การนำเอาเหตุผลนอกคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร (ส่วนใหญ่มาจากข้อโต้แย้งของทนายฝ่ายไทยและผู้พิพากษาเสียงข้างน้อย) มาเป็นหลักในการด้อยค่าแผนที่ 1:200,000 สร้างให้มันเป็นสิ่งเลวร้ายเกินจริง แล้วไปสรุปรวบยอดว่า MOU 43 ซึ่งกล่าวถึงแผนที่นี้มาประกอบการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนไทย-กัมพูชาว่ามันเป็นสิ่งที่จะทำให้ไทยสูญเสียดินแดน สูญเสียเอกราช อธิปไตย นับเป็น arguement ที่อ่อนด้อยในเชิงตรรกะอย่างยิ่ง ด้วยเหตุดังต่อไปนี้
1.ในความเห็นของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (โปรดพิจารณาภาพถ่ายที่แนบมาด้วย) ประเทศไทย เจ้าหน้าที่ เจ้านายไทย ทั้งหลายได้รับเอาแผนที่ 1:200,000 ฉบับแบร์นาร์ด และใช้งานมันเพื่อแสดงเขตแดนกับเพื่อนบ้านไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยไม่อาจจะโต้แย้งความบกพร่องของมันได้อีกต่อไป
2.แผนที่ 1:200,000 เป็นผลงานจากการสำรวจเขตแดนตามที่ได้ระบุเอาไว้ในสนธิสัญญาทั้งสองฉบับ โดยพื้นฐานแล้วมันจะต้องตรงกับสภาพภูมิประเทศจริงเมื่อศตวรรษที่แล้ว มันอาจจะไม่ตรงกับธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคสมัยปัจจุบัน และที่สำคัญไม่ตรงกับจินตนาการของคนสมัยนี้แน่นอน แต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของพวกมันแต่อย่างใดเลย
3.แผนที่ 1:200,000 มี 2 ชุด รวมกันแล้ว 16 ระวาง ต่อมาภายหลังมีการ"แลกเปลี่ยนดินแดนกัน" จึงได้ยกเลิก 3 ระวาง รวมแล้วแผนที่ชุดนี้ใช้แสดงเขตแดนตามสนธิสัญญา 1904, 1907 อยู่ทั้งหมด 13 ระวาง เพราะเหตุผลอันใดที่จะเอาความ "ไม่พอใจ" ระวางดงรักเพียงระวางเดียว มาทำลายส่วนที่เหลือทั้งหมดได้
4.แผนที่และสนธิสัญญาที่จัดทำในสมัยฝรั่งเศสนั้น ใช้กับเพื่อนบ้านในอินโดจีน 2 ประเทศคือ ลาว และ กัมพูชา ถ้าหากตรรกที่ว่าแผนที่ 1:200,000 ไม่เป็นที่ยอมรับของไทย แล้วในส่วนที่มันแสดงเขตแดนกับลาวนั้นไทยก็ไม่ยอมรับด้วยใช่หรือไม่และมันจะต้องถูกเพิกถอนไปด้วยหรือไม่
5.ถ้าหากไม่คำนึงถึง"ความเจ็บปวดจอมปลอม" จากคดีเขาพระวิหารเสียแล้ว เราอาจจะมีสติและปัญญาในการพิจารณา "ประโยชน์" ของแผนที่ฝรั่งเศสในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนสมัยนี้ได้ไม่ยาก เพราะถึงที่สุดแล้วเราก็เพียงใช้มันประกอบกับเอกสารอื่น เช่น Proces-Verbaux และ Planche d’indications tophographiques พร้อมด้วยเทคโนโลยีใหม่ เช่น GPS, Orthophoto, LiDAR เพื่อนำไปสู่การค้นหาหลักและเส้นเขตแดนดั้งเดิม ก่อนที่จะจัดทำแผนที่ชุดใหม่ที่ทันสมัยและถูกใจผู้คนในยุคนี้
ผมติดตามข่าวสารเรื่องเขตแดนเพื่อทำเป็นอาชีพเลี้ยงปากท้องและได้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเขตแดนและแผนที่เพื่อความสุนทรีย์ทางปัญญา ไม่ถือเป็นการต่อสู้ทางการเมือง และไม่เกี่ยวกับความ"รัก"หรือ"ชัง"ชาติแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดภาพแฉกัมพูชา ดัดแปลงปราสาทพระวิหาร กลายเป็นสนามรบที่ตั้งกองกำลังทหาร
เพจกองทัพภาคที่ 1 โพสต์ภาพปราสาทพระวิหารที่ฝ่ายกัมพูชาปรับเปลี่ยนพื้นที่จนกลายเป็นสมรภูมิรบ โดยระบุข้อความว่า "โบราณสถานไม่ใช่สนามรบ"
ดอกนี้เข้าเป้าเต็มๆ! ไทยทำลายเครนยักษ์บนเขาพระวิหารแล้ว พบเขมรใช้ติดตั้งอุปกรณ์ไฮเทคเพียบ
กองทัพภาคที่ 2 ได้ทำลายเครนที่อยู่บริเวณทางขึ้นเขาพระวิหารหลังตรวจพบว่า ใช้เป็นที่ติดตั้งแจมเมอร์ หรือแอนตี้โดรน รวมทั้งติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดด้วยสัญญาณเรดาร์บนพื้นที่เขาพระวิหาร โดยพบว่ามีระบบ Spoofing GPS ก่อกวนนำร่องด้วยดาวเทียม (GNSS/GPS)
'เทพมนตรี' บ่น ยึด 'ปราสาทพระวิหาร' คืน แจ้งสหประชาชาติ ไม่ให้กัมพูชาขึ้นมาใช้อำนาจอธิปไตย
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า บ่น ไทยควรเอาคืนเขมรเรื่องปราสาทพระวิหารเพราะมีกฎมรดกโลก
'สม รังสี' กระตุก 'ฮุนเซน-ฮุนมาเนต' แก้ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ยืดเยื้อ จี้ให้นำขึ้น ICJ-ICC
สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชา ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส เผยแพร่คำแถลง ของ รัฐบาลกัมพูชาอิสระ ว่าด้วยการดำเนินการทางกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทย มีใจความดังนี้
'แก้วสรร' แพร่บทความ หนุนใช้ MOU 43 ปักปันเขตแดน 'ไทย-กัมพูชา'
แก้วสรร อติโพธิ นักกฎหมาย นักวิชาการ เผยแพร่บทความเรื่อง "งานปักปันเขตแดน..เพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงชายแดน ไทย-กัมพูชา" มีเนื้อหาดังนี้
'ปิยรัฐ' เผย กมธ.ศึกษาเอ็มโอยู 2543 จบแล้วคาดต้น ธ.ค.สรุปได้ทั้ง 2 ฉบับ
'โฆษก กมธ.MOU43-44' เผย ศึกษา MOU43 เสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปยกเลิกหรือไม่ ชี้ไม่มีระบุข้อมูลแผนที่ 1:200,000 มองยกเลิกได้ยาก คาดต้นเดือน ธ.ค.ได้ข้อสรุป

