
'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช.สอบโครงการประมูลอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 115 แห่งส่งกลิ่นฮั้วประมูล
10 ต.ค.68 - ที่สำนักงานใหญ่ ป.ป.ช.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและชี้มูลความผิดอดีตนักการเมืองในกระทรวงทรัพย์ฯและข้าราชการระดับสูงในกรมอุทยานฯ เหตุจัดประมูลประกวดราคาจ้างจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 115 แห่งทั่วประเทศ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) มีลักษณะไม่โปร่งใส ลดสเปกนำเงินทอนให้อดีตผู้บริหารในกระทรวงฯไปทำพรรคการเมืองฯหรือไม่
ทั้งนี้โครงการฯดังกล่าวกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับการสนับสนุนภายใต้โครงการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม โดยใช้งบประมาณจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.-USO) วงเงิน 161.75 ล้านบาท โดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
โครงการดังกล่าวจะมีการติดตั้งชุดเสาให้บริการ Free WiFi เพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ รวมถึงประชาชนที่พักอาศัยในเขตอุทยานที่ถูกต้องตามกฎหมาย และจัดทำตู้คอนเทนเนอร์บริการ USO โดยมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเครื่องใช้ต่าง ๆ บริการฟรี 60 เดือน ติดตั้งในพื้นที่บริการประชาชน และพื้นที่จอดรถบริเวณลานกางเต็นท์ของอุทยาน
แต่จากการตรวจสอบการจัดประมูลโครงการดังกล่าวพบข้อพิรุธหลายประการ ที่ส่อไปในทางทุจริตของผู้บริหารกระทรวงระดับสูง พบว่ามีการสั่งการข้าราชการในกระทรวงฯ และล๊อบบี้โครงการ ให้กับเจ้าของบริษัทเอกชน “ชื่อเล่นว่าเผือก” พฤติกรรมของผู้บริหารระดับสูง ที่วิ่งเต้นโครงการดังกล่าวเองให้กับบริษัท “S” ที่ มีนายเผือกเป็นเจ้าของ โดยผู้บริหารระดับสูงสั่งการให้ลูกน้อง และ กรรมการทีโออาร์ ล๊อกสเปก ล๊อกผลิตภัณฑ์ให้กับบริษัทเอกชนที่ไปเป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ในโครงการไว้ล่วงหน้า โดยบริษัทหรือคู่แข่งรายอื่นไม่สามารถเข้าประมูลงานได้
นอกจากนั้น ยังพบว่ากรรมการทีโออาร์บางท่าน แอบส่งข้อมูลเอกสารความลับของราชการ และเอกสารทีโออาร์ให้กับคนของบริษัท “S” และนำทีโออาร์ที่ยังไม่ได้ลงนามออกมาให้บริษัทแก้ไขก่อน โดยเจ้าของบริษัท “S” พยายามล็อบบี้บริษัทคู่แข่งไม่ให้เข้าประมูลงานอ้างว่าได้ตั๋วจาก ผู้บริหารกระทรวงระดับสูงที่ลาออกมาเล่นการเมืองในขณะนี้แล้ว
"โครงการฯดังกล่าวได้เปิดประมูล(e-bidding) ไปเมื่อวันที่ 29 ก.ย.68 ที่ผ่านมา มีอดีตข้าราชการระดับสูงในกระทรวงแรงงานที่คุ้นเคยในกระทรวงทรัพย์ฯมาเป็นทีมงานหลังบ้านให้กับนักการเมืองคนใหม่ ซึ่งองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอาจเข้าข่ายการฮั้วประมูล จึงนำความมาร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ดำเนินการไต่สวนสอบสวนและชี้มูลความผิดนักการเมืองและข้าราชการทั้งอดีตและปัจจุบันตามครรลองของกฎหมายต่อไป " นายศรีสุวรรณ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่พลาด! 'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช.สอบนักการเมือง-นักธุรกิจถ่ายภาพร่วม 'เบน สมิธ'
'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช.สอบนักการเมือง-นักธุรกิจถ่ายภาพร่วมกับเบน สมิธ เข้าข่ายผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
'พี่ศรี' มาแล้ว บุก ป.ป.ช.ร้องสอบ 'อนุทิน' บริหารจัดการน้ำท่วมภาคใต้ผิดพลาดล้มเหลว
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ไต่สวนและชี้มูลความผิดนายอนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรีกับพวก กรณีผิดพลาด ล้มเหลวในการบริหารจัดการน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด
ศรีสุวรรณมาแล้ว!ร้อง ปปช.สอบ 'ชนน พัฒฐ์' ผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่
'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช. สอบ 'ชนนพัฒฐ์' ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
ชาวพิมายเฮ! ศาลปกครองสูงสุดสั่งกรมศิลปฯระงับฮุบที่ดินชาวบ้านรอบอุทยานฯพิมาย 2,287 ไร่
ที่ศาลปกครองสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ กทม.นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองนครราชสีมา โดย สั่งให้อธิบดีกรมศิลปากรระงับการขยายเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมายบางส่วนกว่า 2,287 ไร่
เอาแล้ว! 'ศรีสุวรรณ' ยื่นป.ป.ช.สอบจริยธรรมร้ายแรง 'อนุทิน' ปกปิด MOU แร่แรร์เอิร์ท
นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและชี้มูลความผิดนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ กรณีลงนามใน MOU แร่ธาตุหายาก(แรร์เอิร์ท) ระหว่างไทย-สหรัฐฯ
ดำเนินคดีเจ้าของสิงโตทำร้ายเด็ก สั่งเรียกเก็บค่าเลี้ยงดูตลอดชีวิต
“รมว.ทส.สุชาติ” สั่งดำเนินคดีเด็ดขาด เจ้าของสิงโตหลุดทำร้ายเด็ก พร้อมยึดและเรียกเก็บค่าเลี้ยงดูตลอดชีวิต ชี้เป็นบทเรียนผลกระทบความปลอดภัยของผู้อื่น


