'ฟูอาดี้' ให้กำลังใจ 'อังคณา' ยืนยันการใช้เสียงเป็นอาวุธ ละเมิดสิทธิ โจมตีแบบไม่เลือกเป้าหมาย


'ฟูอาดี้' ให้กำลังใจ 'สว.อังคณา' ยืนยันการใช้เสียงเป็นอาวุธ ละเมิดสิทธิมนุษยชนชัดเจน เหตุเป็นการโจมตีแบบไม่เลือกเป้าหมาย ชี้สงครามยุคนี้คือการช่วงชิงเครือข่าย ยก 'อิสราเอล' มีอำนาจ-กำลังทหาร แต่พ่ายแพ้บนเวทีระหว่างประเทศ มองบวก สิ่งที่ปลอบใจ 'ไทย' ได้คือ 'กัมพูชา' ไม่สามารถสร้างความชอบธรรมเวทีโลกได้ เหตุอาชญากรรมข้ามชาติ

17 ต.ค.2568- นายฟูอาดี้ พิศสุวรรณ อดีตที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศของพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่โลกออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ให้ความเห็นเรื่องการเปิดเสียงผีที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เป็นกำลังใจให้คุณอังคณา ครับ พอดีเพิ่งสอนและอภิปรายกับนักศึกษาในคลาสเรื่องสงครามแห่งอนาคตและศีลธรรมไปเลย ประเด็นการใช้ “เสียง” เป็นอาวุธ (ในลักษณะที่เกิดขึ้นจริง) ถือเป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน เพราะเป็นการโจมตีแบบ indiscriminate คือไม่เลือกเป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจง ผู้ได้รับผลกระทบอาจเป็นพลเรือน และที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้นอาจรวมถึงเด็ก คนชรา หรือผู้ป่วย ซึ่งตามหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศถือเป็นกลุ่มที่ต้องได้รับการคุ้มครองและยกเว้นจากการโจมตี การกระทำใด ๆ ในสงครามจึงจำเป็นต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและอยู่ภายใต้หลัก distinction และ proportionality อย่างเคร่งครัด

ในเชิงวิชาการ มีแนวคิดหนึ่งที่อธิบายการเปลี่ยนแปลงของลักษณะสงครามสมัยใหม่ว่าเป็นการ “shift” จากสิ่งที่อาจเรียกว่า territorial realism ไปสู่ networked globalism กล่าวคือ เป้าหมายของสงครามในยุคปัจจุบันไม่ใช่เพียงการยึดครองพื้นที่ทางกายภาพอีกต่อไป แต่คือการควบคุมและช่วงชิงเครือข่ายของข้อมูล ความคิด และความชอบธรรม ซึ่งเชื่อมโยงกันเป็นระบบระดับโลก ชัยชนะในสงครามยุคใหม่จึงถูกตัดสินจากความสามารถในการสร้างเครือข่ายและการได้รับการยอมรับในความชอบธรรมมากกว่าฝ่ายตรงข้าม

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกรณีของอิสราเอล ซึ่งแม้จะมีอำนาจและศักยภาพทางการทหารในการยึดครองพื้นที่ แต่กลับพ่ายแพ้ในมิติของ “การควบคุมเครือข่าย” และ “การสร้างความชอบธรรม” บนเวทีระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้จากผลการลงมติของสหประชาชาติที่ประณามการกระทำของอิสราเอลในหลายวาระ

ดังนั้น ไม่เพียงแต่การปล่อยให้ตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐ (non-state actor) ดำเนินการตามอำเภอใจจะขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากลเท่านั้น แต่ในเชิงยุทธศาสตร์ของสงครามสมัยใหม่ การกระทำเช่นนั้นอาจย้อนกลับมาส่งผลเสียต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยเองด้วย โดยเฉพาะเมื่อสื่อสากลนำเสนอและผลิตซ้ำภาพลักษณ์เชิงลบจากการกระทำของตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐฝั่งไทย ซึ่งย่อมส่งผลต่อ “การสร้างเรื่องเล่า” (narrative construction) ในเชิงลบต่อประเทศไทย ปัญหานี้สะท้อนข้อจำกัดของประเทศไทยในการดำเนินยุทธศาสตร์ภายใต้บริบทของสงครามยุคใหม่ ที่การแข่งขันไม่ได้อยู่ที่อำนาจการทหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังอยู่ที่ “เครือข่าย” และ “ความชอบธรรม” (networks and legitimacy)

สิ่งเดียวที่พอจะปลอบใจได้ คือ กัมพูชาเองก็ยังไม่สามารถ “ควบคุมเครือข่าย” หรือ “สร้างความชอบธรรม” บนเวทีระหว่างประเทศได้ดีนัก เนื่องจากกำลังเผชิญกับวิกฤตความน่าเชื่อถือจากปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในประเทศของตนเอง

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทภ.2 เผยข้าศึก 'เติมอาวุธ-เติมกำลัง'ช่วงกลางคืน ยิงใส่ที่มั่นฝ่ายไทยพื้นที่ล่อแหลมหลายจุด

ทภ.2 เผยข้าศึก 'เติมอาวุธ-เติมกำลัง-สับเปลี่ยนกำลัง' ช่วงกลางคืนระบุกัมพูชายิงสนับสนุนวิถีโค้งใส่ที่มั่นของฝ่ายไทยในพื้นที่ล่อแหลมหลายจุด

โปรดเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา 'อนุทิน' อ้างการเมืองรุมเร้า ต้องคืออำนาจให้ประชาชน

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 มีใจความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ ให้ประกาศ

ทรัมป์เตือนอิสราเอล อย่าแทรกแซงซีเรีย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนอิสราเอลไม่ให้แทรกแซงซีเรีย “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่อิสราเอลจะต้องรักษาการเจรจาที่มั่นคงและจริงใจกับซีเรีย และต้องไม่มีการกระทำใด ๆ ที่อาจขัดขวางการพัฒนาซีเรียให้กลายเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรือง” ทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขาเมื่อวันจันทร์ เขายังเสริมด้วยว่า “ยังมีโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ”

'ครูวีระ' อบรมพวกโลกสวย แยกไม่ออก 'รักชาติ' กับ 'ชาตินิยม' แตกต่างกันอย่างไร

'ครูวีระ' ชี้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คนไทยเพียงต้องการรักษาแผ่นดินไทยเท่านั้น มิได้ต้องการรุกรานชาติกัมพูชา แต่หลายกลุ่มแยกไม่ออก 'รักชาติ' กับ 'ชาตินิยม' แตกต่างกันอย่างไร จึงมีคนโลกสวยเป็นจำนวนมาก

เนทันยาฮู ประณามความรุนแรงจากกลุ่มหัวรุนแรงในเวสต์แบงก์

เนื่องด้วยการโจมตีหมู่บ้านชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ที่เพิ่มมากขึ้น นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู จึงประณามผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวที่ก่อเ

'หมอตุลย์' หนุน 'อนุทิน' จัดการกัมพูชาจนกว่าจะศิโรราบ ค้าน 'อันวาร์' ให้เจรจากันอีกครั้ง

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยแพร่จดหมายเปิดผนึก มีใจความว่า