
Cr ภาพ: เพจ Thai Burma railway ทางรถไฟสายมรณะ
เพจดัง เตือน 'LiDAR ' คือ 'ดาบสองคม' นอกจากจะตัดพื้นที่กัมพูชาให้ไทยแล้วยังตัดดินแดนไทยไปให้กัมพูชาด้วย หวั่น' ปราสาทตาเมือนธม' เสี่ยงมากเสียให้กัมพูชา 'ปราสาทตาควาย' สันปันน้ำผ่าครึ่งพอดี 'ปราสาทโดนตวล' ก็มีโอกาสสูง 'ภูมะเขือ' สันปันน้ำอยู่กลางยอด เสนอรัฐบาลลองใช้ไลด้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบก่อน
7พ.ย.2568- เพจเฟซบุ๊ก Thai Burma railway ทางรถไฟสายมรณะ โพสต์ข้อความว่า
LiDAR ดาบที่ไทยหวังนำไปตัดเขมร แต่หารู้ไม่ว่ามันคือดาบสองคม ซึ่งมันก็อาจจะบาดเราเองได้หากใช้อย่างไม่ระวัง
ก่อนที่จะไปพูดเรื่องของไลด้ากับการใช้ในการแบ่งเส้นเขตแดนโดยใช้สันปันน้ำ เราก็ต้องกลับไปย้อนความถึงคําว่าสันปันน้ำเสียก่อน
สันปันน้ำคือบริเวณจุดสูงสุดของผิวโลกที่ยื่นขึ้นไปบนอากาศ เวลาฝนตกลงมาแล้วน้ำฝนที่ไหลลงมาจะไหลแยกออกจากกันไปทิศทางตรงกันข้าม เรียกว่าสันปันน้ำ
สันปันน้ำจะมีในหลายรูปแบบเช่นหน้าผาหรืออาจจะเป็นยอดสูงสุดของภูเขา เป็นต้น
การพูดถึงสันปันน้ำในกรณี พิพาทไทย กัมพูชา จะมีการยึดถือทฤษฎีสันปันน้ำอยู่สองแบบ
ทฤษฎีแรก เชื่อว่าสันปันน้ำตามสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส คือบริเวณขอบริมหน้าผาตลอดแนวเทือกเขาพนมดงรัก
โดยทฤษฎีนี้เชื่อว่าในช่วงที่มีการสํารวจปักปันเขตแดนร่วมกันระหว่างสยามและฝรั่งเศส เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว
ตัวแทนผู้ร่วมสํารวจทั้งสองฝ่ายนั้น จะต้องสำรวจด้วยการเดินเท้าผ่านป่ารกทึบ และแน่นอนว่าคณะไม่มีศักยภาพในการเข้าไปตรวจสันปันน้ำที่แท้จริงตามธรรมชาติได้ เนื่องจากในช่วงนับร้อยปีที่ผ่านมาบริเวณนั้นเป็นป่าทึบและเขาสูงชัน ประกอบกับในอดีตยังไม่มีการพัฒนาในเรื่องของการใช้เครื่องบินถ่ายภาพสำรวจ
ทฤษฎีที่หนึ่งจึงเชื่อว่าสันปันน้ำที่คณะสำรวจเส้นเขตแดนที่กำลังเดินบนพื้นที่ราบของเขมรได้มองเห็นพร้อมๆกัน มันก็คือริมหน้าผาตลอดบริเวณแนวเทือกเขาพนมดงรักทั้งหมด
พูดง่ายๆคือ เขมรอยู่ในที่ราบ ฝั่งไทยอยู่ในที่สูง ไม่ว่าจะสูงมากสูงน้อยตรงนั้นคือพื้นที่ของฝั่งไทย
ทฤษฎีนี้จะมองว่าเส้นแนวหน้าผาหรือภูเขาที่อยู่ติดชายแดนนั่นก็คือเส้นสันน้ำที่สยามตกลงกับฝรั่งเศส
ซึ่งถ้าเราพูดกันเชิงวิทยาศาสตร์ กับทฤษฎีที่หนึ่ง จุดที่แบ่งเขตแดนก็ไม่ใช่สันปันน้ำตามธรรมชาติที่แท้จริง แต่จะเป็นจุดที่คณะสยามและฝรั่งเศสเข้าไปสํารวจ มองเห็นได้ด้วยตาและตกลงกัน
ทฤษฎีที่สอง
ส่วนหนึ่งเป็นทฤษฎีที่ถูกนํามาใช้ในการอ้างอิงทําแผนที่ในปัจจุบัน ทฤษฎีนี้คือ การหาจุดสันปันน้ำที่แท้จริงในภูมิประเทศ โดยการ ลากเส้นระหว่างพื้นที่ยอดเนินที่สูงสุดในพื้นที่เชื่อมต่อกัน
ตรงไหนที่มีแนวหน้าผาถ้าสูงสุดก็จะแบ่งตามนั้น และจะใช้แนวหน้าผาเป็นเส้นเขตแดน
ตรงไหนที่เป็นยอดเขาสูงครึ่งที่น้ำไหลลงฝั่งไทย ไทยจะได้ไป ครึ่งน้ำไหลลงฝั่งเขมร เขมรก็จะได้ไป
ซึ่ง แผนที่ที่ไทยใช้อยู่คือ L7017 L7018 ก็ใช้หลักการคร่าวๆของข้อนี้ครับ
ถ้าส่วนตรงไหนที่ไม่ชัดเจนหรือเป็นที่ราบก็จะใช้วิธีการวางหลักเขตแดนเสริมเอา
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดของความแตกต่างทั้งสองทฤษฎีนี้คือบริเวณพลาญหินแปดก้อน
ซึ่งบริเวณนี้จะมีพื้นที่สูงไล่เรียงกันเป็นสองชั้นตามลําดับ
ดูภาพประกอบ
หากเรายึดถือตามทฤษฎีที่สอง
ชั้นแรกอยู่บนสุดจะมีสันปันน้ำตามธรรมชาติที่แท้จริงอยู่ ฝ่ายไทยจะสามารถยึดพลาญหิน 8 ก้อนทางซ้ายได้
แต่จะมีส่วนฝั่งขวาต้องเป็นของทางกัมพูชา รวมถึงพื้นที่ชั้นที่ 2 ที่อยู่ต่ำลงมาก็จะเป็นพื้นที่ของฝ่ายกัมพูชา
ซึ่งการยึดครองพื้นที่ในปัจจุบันจะมีรูปแบบของการกําหนดเส้นเขตแดนอยู่ประมาณลักษณะใกล้เคียงกับทฤษฎีที่สอง
ส่วนหากนําทฤษฎีที่หนึ่งมาจับกับกรณีพลาญหินแปดก้อน ในพื้นที่ยอดของพลาญหิน 8 ก้อนและพื้นที่ชั้นที่สองที่ต่ำลงมา จะเป็นของฝ่ายไทยทั้งหมด และพื้นที่กัมพูชาจะเป็นพื้นที่ราบด้านล่างเท่านั้น เพราะทฤษฎีนี้ยึดถือตาม แนวหน้าผาที่คณะสํารวจปักปันเขตแดนได้มองเห็นในขณะที่เดินสำรวจ
มาถึงเรื่องของไลด้า
LiDAR ย่อมาจาก Light Detection And Ranging เป็นเทคโนโลยีการสำรวจระยะไกล (Remote Sensing) ที่ใช้ แสงเลเซอร์ ในรูปแบบของพัลส์ (Pulsing Laser) เพื่อวัดระยะทางที่แปรผันไปยังพื้นผิวโลกหรือวัตถุต่าง ๆ
อธิบายง่าย ๆ คือการยิงแสงเลเซอร์ ลงจากอากาศยานหรือโดรน แสงเลเซอร์นั้นจะสะท้อนพื้นผิวโลกหรือวัตถุกลับขึ้นไปยังจุดรับ หลังจากนั้นก็จะมีการประมวลวิเคราะห์
ข้อดีของไลด้าคือ สามารถทะลุ เศษซากใบไม้ กิ่งไม้ ต้นไม้ ต้นหญ้า ผืนป่าที่ปกคลุมในพื้นที่ได้ จึงทําให้สามารถแปลงค่าออกมาเป็นรูปภาพสามมิติของพื้นผิวโลกบริเวณนั้นได้อย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้ไลด้าถูกใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มงานทางด้านโบราณคดี โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่และมีป่าปกคลุมอยู่หนาแน่น นักโบราณคดีก็จะใช้ไลด้าในการค้นหาโบราณสถานหรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยที่ไม่ต้องไปถางป่าสำรวจ สิ่งที่นักโบราณคดีเห็น ก็จะ เนินดินหรือสิ่งปลูกสร้าง เหมือนในภาพที่ 4
ขอนอกเรื่องนิดนึง ผมเองเคยมีแนวคิด ที่อยากจะหาไลด้ามายิงสํารวจในพื้นที่เส้นทางรถไฟสายมรณะบางช่วงที่ยังมีป่าไม้ปกคลุมอยู่หนาแน่น เพื่อหาเส้นทางตลอดจนโครงสร้างหรือฐานของอาคาร ในพื้นที่ต่างๆ สะพานถนน ที่ถูกปกคลุมไปด้วยป่า
แต่ไลด้ามีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมากๆๆๆๆ ไม่ไหวครับ พวกผมก็เป็นพวกนักสำรวจมือสมัครเล่น ไปเดินสำรวจในหมู่เพื่อน
ถ้ารวยมากๆอาจจะเสียตังทำครับ แต่นี่เป็นคนธรรมดาไม่ไหวครับ
ก็อยากจะใช้ช่องทางนี้เสนอหน่วยงานรัฐที่มีอปกรณ์ไลด้า เช่น GISDA ลองพิจารณาในการใช้ไลด้าเพื่อทําการสํารวจพื้นที่ทางรถไฟสายมรณะ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาข้อมูลตลอดจนเก็บรวบรวมข้อมูลไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป มันมีประโยชน์มากนะครับ แต่ผมก็ได้แค่หวัง
กลับมาที่เรื่องไลด้ากับการปักปันเขตแดนของไทยและกัมพูชาซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต การใช้ไลด้าเป็นการต่อยอดจากทฤษฎีที่สองคือการหาและกําหนดสันน้ำที่แท้จริงตามธรรมชาติ
คนไทยหลายคนหวังว่าไลด้าจะเป็นดาบที่ไปตัดเอาดินแดนของกัมพูชากลับคืนมาให้กับฝ่ายไทย แต่ท่านต้องเข้าใจว่าไลด้าคือดาบที่มีคมอยู่สองด้าน
นั่นหมายความว่า นอกจากจะตัดพื้นที่ของทางกัมพูชามาให้ไทยได้แล้ว ไลด้ายังทําการตัดดินแดนของไทยไปให้ทางกัมพูชาได้ด้วยเช่นกัน
ไหนๆก็เปิดละ ผมไม่กลัวทัวร์ลง ไม่กลัวใครหน้าไหนละ ส่วนตัวผมมองว่าปราสาทตาเมือนธมเสี่ยงมากที่เราจะเสียให้กัมพูชา ส่วนปราสาทตาควายสันปันน้ำผ่าครึ่งปราสาทพอดี ผมเคยเห็นภาพที่นักโบราณคดีไทยที่เคยไปสำรวจปราสาทตาควายวาดแผนผังไว้ และมีการเขียนระบุว่าเส้นสันปันน้ำลากผ่านตัวปราสาท
ส่วนภูมะเขือสันปันน้ำอยู่กลางยอดเลยครับ ฝั่งที่เป็นจะงอยหน้าผา ตรงจุดที่แม่กุ้งพึ่งให้สร้างเสาธง และจุดที่เป็นกระเช้าเขมร มันจะอยู่ต่ำกว่ายอดสันปันน้ำที่แท้จริง นั่นหมายความว่าอะไรท่านน่าจะทราบดี
ผมลืมปราสาทโดนตวลไป อันนี้ก็มีโอกาสสูงเช่นกัน
ไทยอาจจะได้พื้นที่เพิ่ม แต่เป็นพื้นที่ ที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างหรือมีสัญลักษณ์ใดก็ได้
ผมฟังคุณวาสนา นาน่วม ออกมาพูดก่อนหน้านี้ ผมก็เห็นด้วยเลยครับ
หากผลวิเคราะห์จากไลด้าออกมาว่าไทยต้องเสียดินแดน ในส่วนที่เป็นภูมะเขือบางส่วน ปราสาทตาเมือนธม ประสาทตาควาย หรือพื้นที่ใด ที่มีจุดที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของชาติ ไปให้แก่กัมพูชาคนไทยจะรับได้หรือไม่
ธงชาติไทยที่นำไปปักไว้บนภูมะเขือจะต้องรื้อถอน คนไทยรับได้หรือไม่?
เฉกเช่นเดียวกันกับในบางพื้นที่ ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ฝ่ายกัมพูชาเข้ามายึดครอง หากเขาจะต้อง คืนพื้นที่ให้แก่ฝั่งไทย
และฝ่ายกัมพูชาจะต้องลงไปครอบครองพื้นที่ ที่เสียเปรียบทางยุทธศาสตร์ เช่นวัดแก้วสิขาคีรี ทางกัมพูชาจะยอมหรือไม่
แต่ผมมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งอาจจะคิดเองหรือเปล่าไม่ทราบ ผมคิดว่าถ้าจะใช้ไลด้าจริงๆ
หากพื้นที่ใดที่ฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ไม่เสียประโยชน์มากนัก สามารถยอมกันได้ การใช้ไลด้าในพื้นที่แถวนั้นคงทำได้สะดวก
แต่หากส่วนพื้นที่ที่ยังมีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง และต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิและไม่ยอม
ผมคิดว่าทั้งสองฝ่ายก็คงจะไม่ใช้ไลด้าในการสำรวจ โดยอ้างใช้ข้ออ้างว่าต้องได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่ายเสียก่อน หรือถ้ามีการใช้ไลด้าจริงๆ หากฝ่ายใดเสียเปรียบฝ่ายนั้นก็จะไม่ยอมรับเช่นเดิม
แล้วไลด้าเป็นคําตอบสุดท้ายของการแก้ไขปัญหาหรือไม่ คนไทยก็ต้องช่วยกันตั้งคําถามนี้และหาคำตอบ
ผมอยากฝากข้อเสนอให้ทางรัฐบาล อยู่ทางกองทัพอาจจะลองใช้ไลด้าในการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบก่อนที่จะตกลงตัดสินใจทําเรื่องใดๆไป ชั่งว่าเราจะเสียหรือได้มากกว่ากัน
หรือไม่ทางรัฐบาลหรือทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็อาจจะมีการใช้ไลด้าในการตรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้วผมก็ไม่ทราบนะครับ
แต่ถ้าไม่ตรวจก่อน แล้วไปตกลงไปสำรวจไลด้าเลย ถือว่าหน่วยงานหรือข้าราชการคนนั้นหน่วยนั้นโง่บัดสบ
ผมอาจจะเป็นกลางหรือเที่ยงธรรมในบางกรณีนะครับ แต่ในเรื่องชาติบ้านเมือง ผลประโยชน์ของชาติต้องมาเหนือสิ่งอื่นใด
ผมไม่ได้บอกว่าให้ไปทําเสียงชั่วช้าเลวทรามเกินเบอร์นะครับ แต่อะไรที่ทำแล้วทําให้ชาติบ้านเมืองของเราได้ประโยชน์ เราก็ควรทํา
แค่ต้องสำรวจไลด้าในพื้นที่ก่อน แล้วชั่งน้ำหนักให้ดีก่อนที่จะไปทำอะไร เพราะหน่วยงานในบ้านเรามีไลด้า ก็คงไม่ได้ชั่วอะไรขนาดนั้นมั้งครับ
ทีประเทศอื่นๆบุกเข้าไปยิงถล่มอีกประเทศเพราะมองว่าประเทศอื่นเป็นภัยคุกคามมันยังทำเลย เพื่อประโยชน์ชาติของมัน แล้วอีแค่แอบใช้ไลด้าสํารวจก่อนมันคงไม่ได้เลวระยำขนาดนั้นมั้งครับ
ผมไม่ได้ต้องการรัฐบาลที่ทําตัวหล่อ ทําตัวเป็นสุภาพบุรุษในสายตานานาชาติ
แต่ผมต้องการรัฐบาลที่ปกป้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศครับ ถึงมันจะไม่หล่อ ถึงมันจะไม่เท่ ถึงมันจะไม่ว้าวสําหรับนานาชาติก็ตาม (ย้ำผมไม่ได้ให้ถึงขั้นเป็นไทยเป็นรัฐเกเร แต่อยากให้มองประโยชน์ของชาติมาก่อน)
สรุปสั้นๆ ไทยจะเสียเปรียบมากหากสันปันน้ำจริงอยู่ลึกเข้ามาครับ ซึ่งตามภูมิประเทศหลายจุดสันปันน้ำก็อยู่ลึกเข้ามาในเขตเทือกเขาฝั่งไทย และไลด้าเป็นเหมือนดาบสองคม หากเราไม่ฝึกไม่ศึกษาวิธีการใช้ดาบให้ดี(การใช้ไลด้า) เมื่อถึงเวลาต้องประดาบกับเขมร การเหวี่ยงดาบเล่มนี้ของไทยเพื่อฟาดฟันศัตรู เราอาจจะถูกดาบนั้นตัดขา หรือบาดแขนตัวเองก็ได้
ปล. จริงๆ ผมคิดว่าไลด้าสามารถเอามาใช้ในทางการทหารได้เช่นเดียวกัน
เช่น
ในการตรวจหาบังเกอร์ ที่มีการวางกระสอบทราย หรือ หลุมปืน ค. ที่มีการขุดลงไป เพราะผมเคยดูภาพที่ใช้สแกนหา โบราณสถาน พื้นที่ใดที่เป็นพื้นที่ที่ต่ำกว่าพื้นที่โดยรอบ เราก็จะเห็นภาพว่ามันมีการขุด แต่งเป็นพื้นที่ต่ำกว่า ถ้าตรงไหนที่มีเนินดินก็จะมีการแสดงให้เห็นถึงว่ามันเป็นเนินที่สูงกว่า พื้นที่ทั่วไป
หรือหายานเกราะรถถังหรืออาวุธหนักที่ทําการซุ่มพรางในเขตพื้นที่ป่าและมีการวางตะข่ายพรางอีกชั้น ก็น่าจะตรวจพบหรือไม่ทางกองทัพก็ได้ทําไปหมดแล้วก็ไม่ทราบได้
ช่วงนี้รู้สึกเหนื่อยใจกับรัฐบาลไทยอย่างมาก ไม่ต่างอะไรกับตอนที่รัฐบาลเพื่อไทยอยู่ในอำนาจเลย พอกัน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ.เผยเล่ห์เขมร อาวุธหนักยังอยู่
ทบ.แจงอย่าเชื่อเพจปลอมอ้างเขมรขนทหารยึดปราสาทคืน แต่ยอมรับตรงข้ามภูมะเขือยังคงมีรถถัง 10 คัน วางทุ่นระเบิดโดยรอบ
ชายแดนระอุ! ทภ. 2 ส่องทหารกัมพูชา 4 พื้นที่เสี่ยง สร้างกระเช้าขึ้นเนิน ส่งรถถังประชิด วางทุ่นระเบิดล้อมรอบ
กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ 4 พื้นที่เสี่ยง ทหารกัมพูชาตรึงกำลัง-วางทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ ใช้ปราสาทตาควาย เป็นบังเกอร์ สร้างกระเช้าขึ้นเนิน 350 ด้านทิศตะวันตก ภูมะเขือ มีรถถัง10คัน ส่วนช่องอานม้าเนิน 677ถูกยึด ช่องบก มีกำลัง 800 นาย
ทบ. ยันข่าวปลอม ทหารกัมพูชา ระดมกำลังจ่อยึดภูมะเขือ-ปราสาทตาควาย-ปราสาทคนา
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Thai Army (ทหารไทย) ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 5 แสนคน ได้โพสต์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า "จะเอาไงต่อดีครับ ฝั่งเรา ล่าสุดวันนี้ทหารกัมพูชาขึ้นมาพิชิตใกล้ภูมะเขือหวังจะเอาภูมะเขือคืนกว่า 2,000 นาย ประสาทตาควายกว่า 5,000นาย ประสาทคนากว่า 5,000 นายเต็มพื้นที่หมดแล้ว
'สม รังสี' กระตุก 'ฮุนเซน-ฮุนมาเนต' แก้ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ยืดเยื้อ จี้ให้นำขึ้น ICJ-ICC
สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชา ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส เผยแพร่คำแถลง ของ รัฐบาลกัมพูชาอิสระ ว่าด้วยการดำเนินการทางกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทย มีใจความดังนี้
ชายแดนเดือด! คนสุรินทร์ผวาบึ้ม แห่ขายยางหาเงินอพยพ
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปตามติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้พบกับชาวบ้านไทยสันติสุข หมู่ที่ 16 ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เพื่อพูดคุยสอบถามถึงสถานการณ์ชายแดน
เพจดัง แนะไทยกระตุ้น 'ทรัมป์' รับผิดชอบ กดดันกัมพูชา คนไทยต้องมีสติ หาพวกมาจัดการคนบ้า
เพจเฟซบุ๊ก thaiarmedforce.com โพสต์ข้อความว่า ผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติมีนัยยะที่ชัดเจน โดยเฉพาะข้อสุดท้ายคือ อนุญาตให้กองทัพใช้กำลังได้ตามกฎการปะทะหรือ Rule of Engagement


