
เทพไท ชี้ถ้าหากความขัดแย้งครั้งนี้บานปลาย อนุทิน สามารถแสดงภาวะผู้นำ ใช้ความเด็ดขาดและเด็ดเดี่ยว ในการสั่งการตอบโต้ฝ่ายกัมพูชาได้ ก็จะเป็นการเรียกคะแนนนิยมกลับคืนมาได้ระดับหนึ่ง
8 ธ.ค.2568-นายเทพไท เสนพงศ์ นักวิจารณ์การเมือง และอดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” เรื่อง “ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา อนุทินสอบตก” เนื้อหาระบุว่า เมื่อวานนี้ได้มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่ฐานปฏิบัติการภูผาเหล็ก พลาญหินแปดก้อน จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บจำนวน2ราย เป็นเหตุการประทะกัน ทำให้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมที่หาดใหญ่และการปราบแก๊งสแกมเมอร์ มาปิดข่าวความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาไปได้ระยะหนึ่ง
สำหรับประเด็นปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร สังคมก็คาดหวังว่า เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว น่าจะแก้ปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชาได้ดีกว่ารัฐบาลของนางสาวแพทองธาร เพราะนายอนุทินไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือธุรกิจส่วนตัวใดๆกับสมเด็จฮุนเซน ซึ่งแตกต่างกับครอบครัวชินวัตร ของนางสาวแพทองธาร ที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเป็นเวลา 30 ปี จึงทำให้ประชาชนกลางแคลงใจ และตั้งข้อสงสัยในความสัมพันธ์ ระหว่างนายทักษิณ ชินวัตรกับสมเด็จฮุนเซน
เมื่อนายอนุทินเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี นายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็ได้ส่งสาส์นแสดงความยินดี ทำให้สังคมคาดหวังว่า นายอนุทินสามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชาได้ดีกว่าสมัยรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร แต่ระยะเวลาได้ผ่านมาเป็นเวลา2เดือน ยังไม่เห็นท่าทีหรือความก้าวหน้า ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ของรัฐบาลนายอนุทินเลย มิหนำซ้ำยังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาด จึงมีการตอบโต้ และระงับการใช้ปฏิญญาสันติภาพ ที่ไทยกับกัมพูชาได้ลงนามกันที่ประเทศมาเลเซีย
การเกิดเหตุครั้งนั้นทำให้หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า รัฐบาลไทยเพลี้ยงพล้ำ นายอนุทิน ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ ทำให้หลายฝ่ายมองว่า นายอนุทินมือไม่ถึงในการแก้ปัญหา หรือเป็นนายกรัฐมนตรี จนถึงเหตุน้ำท่วมที่อำเภอหาดใหญ่ นายอนุทินก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ล้มเหลวในการแก้ปัญหา ไม่สามารถรับมือกับภัยน้ำท่วมได้ เสร็จจากมรสุมภัยน้ำท่วมแล้วก็ มาเจอกับกระแสข่าวภาพหลุดหรือภาพปล่อย หลังจากนายอนุทินแถลงข่าวร่วมกับปปง.ยึดทรัพย์แก๊งสแกมเมอร์
ตลอดระยะเวลา2เดือนที่นายอนุทินดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีปัญหาถาโถมเข้ามาหลายเรื่อง แต่สิ่งที่สังคมคาดหวังไว้มากที่สุด คือการแก้ปัญหาความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้มีการประทะกันด้วยอาวุธเล็ก แม้ว่าจะไม่เกิดความเสียหายถึงชีวิต แต่เป็นการชิงพื้นที่สื่อในประชาคมโลก ทางฝ่ายกัมพูชากล่าวหาว่า ประเทศไทยเป็นฝ่ายก่อความรุนแรงก่อน และทางฝ่ายประเทศไทยก็ตอบโต้ว่า ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน ซึ่งเป็นการสงครามข่าวสารกัน และเหตุการณ์อาจจะบานปลายได้ ก็เป็นโอกาสหนึ่งของนายอนุทินจะใช้บทบาทแสดงภาวะผู้นำในฐานะนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กองทัพปกป้องอธิปไตยอย่างเด็ดขาด
ถ้าหากความขัดแย้งครั้งนี้บานปลาย และนายอนุทินสามารถแสดงภาวะผู้นำ ใช้ความเด็ดขาดและเด็ดเดี่ยว ในการสั่งการตอบโต้ฝ่ายกัมพูชาได้ ก็จะเป็นการเรียกคะแนนนิยมกลับคืนมาได้ระดับหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' แนะไทยเลิกคุย 'พล.อ.เตีย เซยฮา' ชี้ไม่มีอำนาจอะไร
อดีตบิ๊กข่าวกรอง แนะไทยเลิกคุย พล.อ.เตีย เซยฮา ชี้ไม่มีอำนาจตัดสินใจในกัมพูชา
นายกฯ ปรับแผน! ถกด่วนหน่วยมั่นคง เลื่อนลงพื้นที่ชายแดนไทย-เขมร
สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งสื่อมวลชน ปรับแผนการเดินทางลงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา ได้แก่ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล
กัมพูชาเตรียมรบขั้นสูงสุด! เคลื่อนย้าย 'จรวด' ประชิดชายแดนไทย
'กองทัพภาค 2' เผยกัมพูชาเตรียมรบขั้นสูงสุด เคลื่อนย้ายจรวดหลายลำกล้อง ประชิดชายแดนไทย เล็งเป้าห่างจากสนามบินบุรีรัมย์ 13 กม.
'อนุทิน' หนีบ 'รมว.กลาโหม' บินลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
พรุ่งนี้ "อนุทิน" พร้อม รมว.กลาโหม บินลงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะ ตรวจความพร้อมจัดการพิทักษ์ส่วนหลังเพื่อความปลอดภัยประชาชน สนับสนุนทหารส่วนหน้าปฏิบัติภารกิจเต็มกำลัง
หาดใหญ่-สแกมเมอร์ทำรบ.'แต้มหล่น' 'อนุทิน'เปิดหน้าชนกู้เรตติ้ง
โดนล่อเป้าในจังหวะที่รัฐบาลกำลังอยู่ในสภาพอ่อนแอจากกรณีมหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สำหรับการปล่อยภาพที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล
แหล่งท่องเที่ยวไทย คว้ารางวัลระดับโลก ติดอันดับ 'Top 100 Green Destinations'
แหล่งท่องเที่ยวไทยคว้ารางวัลระดับโลก ติดอันดับ “Top 100 Green Destinations” ยืนยันศักยภาพการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน

