กองทัพไทย ชี้กัมพูชาเปิดศึกโจมตีไทย หวังหลบหนีข้อเท็จจริงวางทุ่นระเบิดใหม่

8 ธันวาคม 2568 - เพจเฟซบุ๊ก กองบัญชาการกองทัพไทย โพสต์ข้อความว่า กัมพูชาหนีไม่พ้นข้อเท็จจริง ทุ่นระเบิด PMN-2 เบี่ยงประเด็นเปิดศึก เพื่อกลบหลักฐานจากเวทีการประชุม Ottawa ที่ชี้ชัดมัดตัวเอง

เหตุการณ์ทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ถูกฝังใหม่ในเขตแดนไทย คือจุดหักเหสำคัญที่ทำให้กัมพูชาตกอยู่ในสถานะเพลี่ยงพล้ำอย่างรุนแรงต่อสายตาอาเซียนและประชาคมโลก เพราะรายงานของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน-ไทย (AOT-TH) ระบุชัดเจนทุกมิติ ทั้งพิกัดที่อยู่ในไทย ร่องรอยการฝังใหม่ที่ปฏิเสธไม่ได้ แบบของทุ่นระเบิด รวมถึงรูปแบบยุทธวิธีที่สอดคล้องกับการปฏิบัติของฝ่ายกัมพูชาโดยตรง เมื่อข้อเท็จจริงทั้งหมดถูกตีแผ่อย่างตรงไปตรงมา กัมพูชาจึงไม่สามารถตอบโต้ด้วยเหตุผลหรือหลักฐานได้ และถูกบีบให้ต้อง “ย้ายสนามรบ” จากพื้นที่แห่งความจริงไปสู่พื้นที่ของอารมณ์ ภาพลักษณ์ และเรื่องเล่า ซึ่งตนเองถนัดกว่า นั่นคือเวทีมนุษยธรรม เวทีสันติภาพ และเวทีดราม่าที่สร้างขึ้นได้ตามต้องการ

การเปิดศึกโจมตีกำลังพลฝ่ายไทยในพื้นที่ภูผาเหล็ก–พลาญหินแปดก้อน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2568 จึงเป็นการเบี่ยงประเด็นและพยายามหลีกหนีจากข้อเท็จจริงที่ตอบไม่ได้ กัมพูชารู้ดีว่าหากการสนทนายังคงอยู่ในกรอบของพิกัด GPS ภาคสนาม ร่องรอยการฝังใหม่ และแบบของทุ่นระเบิด PMN-2 ผลลัพธ์คือแพ้อย่างหมดรูป จึงเลือกที่จะสร้างเรื่องเล่าใหม่ที่ปลอดภัยกว่า เช่น อ้างว่าตนเองเป็นผู้รักสันติภาพหรือผู้ยึดมั่นในสนธิสัญญา พร้อมพยายามบิดเบือนให้ไทยกลายเป็นผู้ไม่สนับสนุนมนุษยธรรม ทั้งหมดนี้คือความพยายามหนีออกจากสนามข้อเท็จจริงไปสู่สนามแห่งความรู้สึก ซึ่งกัมพูชามักใช้เป็นวิธีประจำเมื่อเพลี่ยงพล้ำในเวทีโลก

เมื่อภาพลักษณ์ถูกสั่นคลอนจากรายงาน AOT-TH กัมพูชาจึงต้องพลิกบทเป็น “ผู้ถูกกระทำ” อีกครั้ง ใช้สูตรเดิมที่เคยทำมาแล้วหลายครั้งในประวัติศาสตร์ ได้แก่ กล่าวหาว่าไทยเป็นฝ่ายคุกคาม อ้างมนุษยธรรมบังหน้า เรียกร้องความเห็นใจจากต่างประเทศ และวาดภาพตัวเองเป็นประเทศเล็กที่อ่อนแอ และต้องเผชิญกับคู่กรณีที่ใหญ่กว่า ทั้งหมดถูกออกแบบเพื่อสร้างดราม่าและเบี่ยงความสนใจออกจากคำถามสำคัญเพียง 3 ข้อ

* ทำไมทุ่นระเบิด PMN-2 แบบที่กัมพูชาใช้ จึงมาอยู่ในไทย?
* ทำไมร่องรอยการฝังทุ่นระเบิด จึงเป็นร่องรอยใหม่?
* ทำไมจึงพบทุ่นระเบิดในพื้นที่ซึ่งกัมพูชาได้เคลื่อนกำลังเข้ามาก่อนเกิดเหตุ?

คำถามเหล่านี้ไม่ต้องการทฤษฎีซับซ้อนใด ๆ เพราะทุกคำตอบล้วนชี้กลับไปยังต้นทางเดียวกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อไม่สามารถลบล้างข้อเท็จจริงได้ กัมพูชาจึงต้องเปิดฉากปะทะยิงทหารไทย เพื่อโจมตีไทยผ่านภาพลักษณ์ด้านมนุษยธรรม ทั้งเพื่อประวิงเวลา สร้างความสับสนแก่สังคมโลก และเพื่อปั้นเรื่องเล่าใหม่ให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูกกดขี่ ถูกคุกคาม หรือเป็นผู้เรียกร้องสันติภาพ ทั้งหมดนี้คือความพยายามสร้างเรื่องเล่าเพื่อลดทอนน้ำหนักของความจริง มากกว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาด้วยความรับผิดชอบตามหลักสากล

สรุปแล้ว การเปิดศึกโจมตีทหารไทยเมื่อ 7 ธันวาคม 2568 ไม่ได้ช่วยให้กัมพูชาหลีกหนีจากข้อเท็จจริงว่าทุ่นระเบิด PMN-2 ถูกฝังใหม่ในเขตไทย แต่กลับสะท้อนชัดว่ากัมพูชากำลังใช้วิธีซ้ำเดิม สร้างภาพเป็นผู้ถูกกระทำ เรียกร้องความสงสารบนเวทีโลก และสร้างวาทกรรมเพื่อกลบพฤติกรรมของตนเอง เป็นลักษณะของ “การใช้กลยุทธบิดเบือนข้อเท็จจริง” ที่ไม่อาจปฏิเสธความผิดของตนในโลกแห่งความจริงได้เลย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'แม่ทัพเติ่ง' บัญชาการรบ เข้าโหมด 'รบทุกมิติ' ประกาศแผ่นดินไทยต้องไม่ถูกท้าทายอีกต่อไป

พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ร่วมบัญชาการในวอร์รูม อย่างใกล้ชิด

เปิดไทม์ไลน์ละเอียดยิบ กัมพูชาเปิดฉากยิงพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน ไทยตอบโต้ตามหลักสากล

รัฐบาล ย้ำไทยใช้เครื่องบินรบเพื่อสกัดกั้นการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาที่เริ่มรุกรานก่อน จนเป็นเหตุให้ทหารไทยบาดเจ็บ-เสียชีวิต โดยตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองตามกฎการปะทะ อย่างได้สัดส่วน ตามหลักสากล

'พีระพันธุ์' ร่ายยาว จี้นายกฯต้องเป็นผู้สั่งการเด็ดขาดด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้กองทัพตัดสินใจฝ่ายเดียว

"พีระพันธุ์" จี้นายกฯ ต้องเด็ดขาด บุกยึดพื้นที่ให้จบ เจรจาทีหลัง พร้อมเตรียมยุทธการทางทะเล ขวางกัมพูชาขยับ "หลักเขต 73" ฮุบทรัพยากรไทย

'อนุทิน' ลั่นไม่เจรจาอีกแล้ว ย้อน 'อันวาร์' ต้องบอกกัมพูชาหยุดรุกราน ไม่ใช่ให้ไทยอดทนต่อไป

"อนุทิน" มั่นใจแสนยานุภาพกองทัพไม่ให้ใครรุกราน ปิดประตูเจรจากัมพูชา อยากหยุดปะทะต้องทำตามไทย บอกหน้าที่นายกฯรักษาประเทศ เมินโพสต์ “อันวาร์” ให้สองฝ่ายยับยั้งชั่งใจ ตอกพยานต้องไปบอกคนรุกรานให้หยุด

ฟังจากปาก 'ทหารหน้าแนว' ยืนยัน 'กัมพูชา' เปิดฉากยิงก่อน

พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม เยี่ยมอาการบาดเจ็บ ส.อ.อนุชาติ เรือนคำ สังกัด พัน.ร.13 (ฉก.1) หลังถูกฝ่ายกัมพูชายิงบริเวณขา บริเวณ ‘ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน’ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (7ธ.ค.)

'หัวหน้าเพื่อไทย' พูดน้อย เรียกร้องรัฐบาลดูแลประชาชนในพื้นที่ชายแดนด้วย

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ว่า จากสถานการณ์ชายแดน ตนขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของทหารผู้เสียชีวิต และตนรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง