ทภ.2 เผย ผบ.หน่วยฯเขมรรบเดือด เนิน 350 "ยอมแลก" ระดมยิงใส่พื้นที่สังหารพื้นฝ่ายตนเอง กัมพูชาปรับแผนรับมือตลอดแนว ด้านห้วยตามาเรีย ใช้วัดแก้วฯเป็นฐานยิงใส่ พร้อมมีคำสั่งทำลายพื้นที่เชิงสัญลักษณ์ สรุปรบ 7 วัน 8-14 ธ.ค. ไทยทำลายที่มั่นทหารกัมพูชา 54 แห่ง รถถัง 12 คัน, โดรน 171 ลำ, BM-21 1 คัน, เสาแอนตี้โดรน 4 ต้น ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 205 ราย
15 ธันวาคม 2568 - กองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์สู้รบ ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.ถึงปัจจุบัน ใน 17 พื้นที่ ประกอบด้วย
พื้นที่ช่องบก สถานการณ์ตึงเครียดสูง มีการปะทะด้วยอาวุธหนักเป็นระยะ ทกพ. พยายามรักษาที่มั่นบนเนินสำคัญและเตรียมรับมือการถูกปิดล้อม โดยเร่งกักตุนเสบียงและกระสุนในแนวหน้า สิ่งบอกเหตุชี้ชัดถึงความกังวลต่อการถูกตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุง หนทางปฏิบัติหลักคือการตั้งรับในที่มั่นแข็งแรงเพื่อถ่วงเวลา และใช้การยิงสนับสนุนเมื่อฝ่ายไทยเข้าใกล้
พื้นที่ช่องอานม้า เป็นจุดปะทะรุนแรงที่สุด แนวรับชั้นแรกถูกเจาะทำลายและสูญเสียอาวุธนำวิถี (GAM-102LR) ทหารกัมพูชา ประสบวิกฤตด้านขวัญกำลังใจและเสบียง จึงตอบโต้ด้วยการระดมยิง BM-21 แบบปูพรมใส่พื้นที่ส่วนหลังของไทยเพื่อหยุดยั้งการรุก คาดว่าจะร่นถอยไปตั้งรับในแนวลาดด้านหลัง และใช้การยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้ายเพื่อคุ้มครองฐานยิงปืนใหญ่
พื้นที่สัตตะโสม - โดนตรวล - ซำแต พื้นที่นี้ทำหน้าที่เป็น "ฐานยิงและศูนย์กลางโดรน" พบการรวมศูนย์โดรนเพื่อชี้เป้าและสนับสนุนพื้นที่ข้างเคียง ทหารกัมพูชา ใช้ยุทธวิธี "ยิงแล้วย้าย" ของฐานยิง BM-21 เพื่อหลบหลีกการยิงสวนกลับ โดยอาศัยภูมิประเทศป่าทึบในการซ่อนพราง
พื้นที่ห้วยตามาเรีย สถานการณ์วิกฤต ทหารกัมพูชา มีคำสั่งทำลายพื้นที่สัญลักษณ์ และเสริมความแข็งแรงบังเกอร์ ทางยุทธวิธีเน้นการยิงรบกวนและทำลายสิ่งปลูกสร้าง โดยจะตรึงกำลังบริเวณวัดแก้วฯ และใช้อำนาจการยิงจากพื้นที่ต่ำกดดันพื้นที่สูงของไทย
พื้นที่ภูมะเขือ ทหารกัมพูชา เสียเปรียบทางยุทธวิธีอย่างหนักจนไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ จึงปรับแผนเป็น "การปฏิเสธพื้นที่" โดยใช้ BM-21 ยิงประณีตใส่ยอดเขาแบบต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าฝ่ายไทยจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าวได้ แม้จะต้องถอนกำลังภาคพื้นดินออกไป
พื้นที่พลาญหินแปดก้อน ปรับเปลี่ยนรูปแบบการรบเป็นการใช้โดรน FPV (Kamikaze) และชุดล่าทำลายรถถัง ทดแทนกำลังพลที่ขาดแคลนกระสุน 12.7 มม. หนทางปฏิบัติคือการรบแบบกองโจร จัดชุดเล็กคล่องตัว ลักลอบโจมตีแนวหลังและยานเกราะของไทย
พื้นที่ช่องจอม - ช่องระยี - ปลดต่าง มีการเพิ่มเติมกำลังพลใหม่ประมาณ 300 นาย พร้อมมาตรการวินัยการสื่อสาร และพรางไฟที่เคร่งครัด บ่งชี้ถึงการเตรียมการตีโต้ตอบ หรือจัดเป็นกองหนุน ปัญหาพลังงานสื่อสารทำให้ต้องร้องขอแบตเตอรี่เพิ่ม พร้อมปล่อยข่าวลวงเรื่องการถอนตัวของไทยเพื่อรักษาขวัญทหาร
พื้นที่ช่องคนา ยานเกราะไทยสร้างแรงกดดันอย่างหนักจน ทกพ. ต้องร้องขอการยิงปืนใหญ่แบบใกล้ฝ่ายเดียวกัน เพื่อสกัดกั้น คาดว่าหากต้านทานไม่ได้จะถอนตัวไปยังภูมิประเทศที่ยากต่อการเข้าถึงของรถถัง
พื้นที่ตาควาย - เนิน 350 การรบประชิดรุนแรงจนเสีย ผบ.หน่วยทหารกัมพูชา ใช้ยุทธวิธี "ยอมแลก" โดยระดมยิง FPV และ BM-21 เข้าใส่พื้นที่สังหารรวมถึงพื้นที่ตนเองหากจำเป็น เพื่อยื้อแย่งพื้นที่สัญลักษณ์และหยุดการเข้าตีของไทย
พื้นที่เนิน 225 ตกอยู่ภายใต้อำนาจการยิงและการครองอากาศของโดรนไทยโดยสมบูรณ์ ทหารกัมพูชาสั่งระงับความเคลื่อนไหวและเข้าที่กำบัง 100% เป้าหมายหลักคือการอยู่รอด เพื่อรอจังหวะตอบโต้หรือเคลื่อนย้ายเมื่อการยิงปูพรมสิ้นสุดลง
พื้นที่ช่องกร่าง ปะทะด้วย ถ.อย่างต่อเนื่อง มีการลดจำนวนพลประจำรถเพื่อลดความสูญเสีย ใช้รถถังเป็นป้อมปืนเคลื่อนที่ในยุทธวิธีรบหน่วงเวลาอาศัยภูมิประเทศ ยิงแล้วถอยเพื่อรักษากำลังรบ
พื้นที่ตาเมือน ระบบควบคุมบังคับบัญชาของฝ่ายกัมพูชาถูกฝ่ายเรารบกวนและดักฟัง ทำให้เกิดความระแวงและต้องเปลี่ยนรหัสวิทยุบ่อยครั้ง รวมถึงปัญหาขาดแคลนพลังงาน จึงหันมาใช้พลนำสารและลดการใช้วิทยุ โดยหน่วยระดับล่างจะปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุอัตโนมัติเมื่อขาดการติดต่อ
พื้นที่สายตะกู ทหารกัมพูชา ระวังป้องกันสูงโดยใช้โดรนลาดตระเวนหนาแน่นและวางกำลัง ซุ่มรอในภูมิประเทศที่ได้เปรียบ เพราะกังวลการเปิดแนวรุกใหม่ของไทย หนทางปฏิบัติคือการเตรียมพื้นที่สังหาร เพื่อทำลายฝ่ายเรา
สรุปการปฏิบัติต่อข้าศึกตั้งแต่ วันที่ 8 ธ.ค.-14 ธ.ค.68 ไทยได้ทำลายฐานปฏิบัติการทางทหาร คลังน้ำมัน/กระสุน และอื่นๆ บกควบคุม 11 ที่, ฐานทหาร 14 ที่, อาคารที่พัก 5 ที่, หลุมเครื่องยิงลูกระเบิด 6 หลุม, ฐานที่ตั้งปืนใหญ่ 2 ที่, คลังกระสุน 3 ที่, คลังน้ำมัน 1 ที่, ฐานที่ตั้งสแกมเมอร์/ฐานจุดปล่อยโดรนโจมตีทางทหาร 2 ที่ และ บังเกอร์ 10 ที่ รวม 54 ที่
ทำลาย รถถัง 12 คัน, โดรน 171 ลำ, BM-21 1 คัน, เสาแอนตี้โดรน 4 ต้น, ปตอ. 4 กระบอก, ระบบควบคุมแอนตี้โดรน 1 ชุด, รถบรรทุก 7 คัน, เสาสัญญาณ 1 ต้น, ปืนใหญ่ 1 กระบอก, ปืนครก 6 กระบอก และทหารกัมพูชาเสียชีวิต 205 ราย
กองทัพภาคที่ 2 ขอยืนยันว่า ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลจากทางราชการ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สถานทูตจีนเคลื่อนไหวแล้ว! ประกาศจุดยืนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา
'กัน จอมพลัง' เสียดายมาก ถ้าไม่ถูก สส. รุมโจมตี ก็จะได้บังเกอร์แข็งแรงเพิ่มอีกหลายที่
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เขมรโจมตีจุดเก็บวัตถุดิบทำบังเกอร์ของมูลนิธิกันจอมพลัง ที่เตรียมไว้สร้างบังเกอร์ให้กับแนวหน้า เกิดความเสียหายไม่มากครับ แต่มันน่าเสียดายตรงถ้า สส.บางพรรคไม่รุมโจมตีผมกับทหารตอนนั้น วัตถุดิบพวกนี้จะได้ไปประกอบเป็นบังเกอร์ให้หน้าแนวหมดแล้วครับ
เปิดจุดยืนเพื่อไทย 5 ข้อ ปกป้องอธิปไตย ตอบโต้อย่างมีสติ ได้สัดส่วน ยึดหลักสากล
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและคนไทยคนหนึ่ง ตนติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง รู้สึกเจ็บปวดและเศร้าใจทุกครั้งที่ทราบข่าวความสูญเสีย มีทหารและพลเรือนเสียชีวิตแล้วเกือบ 20 ราย แ
เลือดรักชาติพุ่ง! 'หนุ่มชาละวัน' แห่สมัครทหารกรณีพิเศษ ไม่หวั่นสงครามชายแดนไทย-กัมพูชา
พ.อ.คมจักร์ ชัยชนะ สัสดีจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการโดยวิธีร้องขอ (กรณีพิเศษ) ด้วยระบบออนไลน์ ประจำปี 2569 ครั้งที่ 2 ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ณ บริเวณชั้นล่างหอประชุมจังหวัดพิจิต
ทบ. เดินหน้ายึดเนิน 350 รวม 2-3 พื้นที่สำคัญรอบปราสาทตาควาย
ทบ. เดินหน้ายึดเนิน 350 และ 2-3 พื้นที่สำคัญรอบปราสาทตาควายเชื่อมั่นขีดความสามารถทำได้ไม่กังวลและเป็นไปตามแผน ย้ำ กำลังพลให้ระวังถูกล่อกับดัก วางมาตรการรักษาความปลอดภัย ยันจรวดจีน- อาวุธอีกหลายรายการ ยังอยู่ในการควบคุมของกองทัพบกพร้อมระบุกัมพูชาใช้Gemini สร้างเฟกนิวส์
แม่ทหารใจชื้น ลูกชายโทรบอกปลอดภัยแล้ว หลังถูกเขมรยิง RPG เหตุปะทะที่ช่องตามาเรีย
แม่ทหารไทยที่ถูกปืน RPG ของเขมรอัดใส่จนถูกหามส่งโรงพยาบาล ใจชื้นแล้วหลังทราบข่าวลูกชายโทรศัพท์มาแจ้งด้วยตัวเอง เผยมีลูกชาย 2 คนอยากเป็นทหารมาตั้งแต่เด็กและสมใจทั้งคู่

