'ปานเทพ' เรียกร้องเอาผิดไส้ศึกส่งน้ำมันให้เขมร ชี้เข้าข่ายโทษประหาร!

ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ระบุผู้ที่ส่งน้ำมันซึ่งเป็นยุทธปัจจัยให้กัมพูชา ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เข้าข่ายช่วยข้าศึกทำร้ายทหารและพลเมืองไทย ขอให้ประชาชนช่วยแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 122 ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

20 ธันวาคม 2568  - นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า "ช่วยกันดำเนินคดีความกับไส้ศึกส่งน้ำมันให้เขมรทั้งทางตรงและทางอ้อม โทษสูงสุดคือประหารชีวิต

ใครส่งน้ำมันซึ่งเป็นยุทธปัจจัยในการทำให้รถถัง รถยิงจรวด BM-21 ของกัมพูขา มายิงเข่นฆ่าทำร้ายทหารและพลเมืองไทย ไม่ว่าทางตรงและทางอ้อม ถือว่าทำให้น้ำมันซึ่วเป็นยุทธปัจจัยที่สำคัญตกอยู่ในเงื้อมมือของข้าศึก สมควรต้องถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 122 โทษประหารชีวิตหรือจำตุกตลอดชีวิต เป็นคดีอาญาแผ่นดิน ใครรู้ใครเห็นขอให้ช่วยกันแจ้งความดำเนินคดีกับไส้ศึกเหล่านี้".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทัพเรือเผยเหตุเขมรบุกหนัก เคยใช้สไนป์เปอร์ลอบยิง ผบ.หน่วย ก่อนเปิดฉากรบ

โฆษกกองทัพเรือเปิดเผย ช่วงก่อนการโจมตีบ้านเรือน 3 หลัง ฝ่ายกัมพูชามีความพยายามยั่วยุหลายครั้ง รวมถึงเหตุใช้พลซุ่มยิงลอบยิงผู้บังคับหน่วยระดับผู้นำ ก่อนสถานการณ์พัฒนาไปสู่การสู้รบ

กองทัพบกประณามกัมพูชา ใช้กำลังโจมตีพลเรือนชายแดน

โฆษกกองทัพบกระบุ การโจมตีชุมชนและบ้านเรือนประชาชนใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการใช้กำลังไม่เลือกเป้าหมาย ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรม ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนไทยจำนวนมาก

ทภ.2 สรุปชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะเป็นระยะ โดรนฝ่ายตรงข้ามหนาแน่น

กองทัพภาคที่ 2 รายงานภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบการปะทะต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ฝ่ายตรงข้ามใช้งานโดรนและอาวุธหนักหนาแน่น ขณะฝ่ายไทยยิงตอบโต้ทำลายที่ตั้งยิงและยานพาหนะได้หลายครั้ง สถานการณ์ยังอยู่ในการควบคุม

ทภ.2 มีหลักฐานเขมรละเมิดอนุสัญญาเจนีวา-กฎหมายมนุษยธรรม 3 ประการ

กองทัพภาคที่ 2 เปิดข้อมูลการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาตลอด 13 วัน ระบุพบพฤติกรรมทางทหารของฝ่ายกัมพูชาที่เข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาเจนีวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ชี้ชัดการใช้โบราณสถานเป็นฐาน การดึงพลเรือนร่วมปฏิบัติการ และการนำพลเรือนเข้าสู่พื้นที่การรบ

‘จตุพร’ เตือนสงครามไทย-กัมพูชา ต้องไม่จบแบบโง่ๆ แค่ให้พ้นสิ้นปี

จตุพร พรหมพันธุ์ ระบุว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อกัมพูชาคืนดินแดนไทยและหยุดยิงจริง ชี้หากสงครามจะยุติในช่วงสิ้นปี ต้องไม่จบแบบลวงโลกหรือซ้ำรอยการหยุดยิงรอบแรก พร้อมย้ำไทยไม่อาจแลกแผ่นดินกับสันติภาพจอมปลอม

ไทยมีมนุษยธรรม นำชิ้นส่วนศพทหารเขมร ฝาก รพ. เก็บไว้ แม้กัมพูชาปฏิเสธรับกลับ

ศพทหารกัมพูชาที่ชายแดน ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง หลังกัมพูชาปฏิเสธรับศพทหารตัวเองกลับ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เก็บชิ้นส่วนศพทหารเขมร ฝาก รพ.ตราด รอประสานหน่วยงานกัมพูชามารับกลับภายหลัง