สุวรรณภูมิผนึกกำลังตำรวจ–ทหาร คุ้มเข้มความปลอดภัยสนามบิน หลังมีข่าวพบบินโดรนในพื้นที่

 “สุวรรณภูมิ”จับมือ ตำรวจ–ทหาร คุ้มเข้มความปลอดภัยสนามบิน หลังได้รับแจ้งพบโดรนบินใกล้สนามบิน 2 คืนติด ย้ำผู้ฝ่าฝืนโทษร้ายแรง ฝ่าฝืนถึงขั้นสูงสุดจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ดานรัฐไฟเขียวจัดหา Anti-drone ทันสมัย ย้ำไม่กระทบนักท่องเที่ยว ด้าน ผบช.ภ.1 สั่งตั้งจุดตรวจค้นรอบสนามบินตลอด 24 ชั่วโมง ตรวจสอบบุคคล ยานพาหนะ โกดังสินค้า และสถานที่ต้องสงสัย

23 ธ.ค. 2568 – นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วย พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมแถลงข่าวถึงมาตรการป้องกันและรับมือการบินโดรนโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังตรวจพบความเคลื่อนไหวของโดรนในพื้นที่ใกล้เขตการบินเมื่อช่วงค่ำคืนวันเสาร์ที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะยังไม่รุกล้ำเข้าสู่เขตสนามบินโดยตรง แต่ถือเป็นสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในการเดินอากาศอย่างมีนัยสำคัญ

 นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ภายหลังได้รับแจ้งเหตุ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ประสานสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้เข้าตรวจสอบทันที และจากการรวบรวมข้อมูลพบว่า มีการบินโดรนในพื้นที่ใกล้เคียงสนามบินอย่างน้อย 2 คืนติดต่อกัน โดยส่วนใหญ่ตรวจพบทางทิศตะวันออกของสนามบิน บริเวณแนวรั้วติดกองส่งน้ำ ในช่วงเวลาประมาณ 19.00–21.00 น. ลักษณะการบินพบเพียงครั้งละ 1–2 ลำ สลับกันขึ้นบิน ใช้เวลาต่อครั้งประมาณ 10–20 นาที ไม่ได้มีจำนวนมากตามกระแสข่าวลือก่อนหน้านี้ และยังไม่สามารถสรุปแรงจูงใจได้ชัดเจนว่าเป็นความคึกคะนองหรือเกี่ยวข้องกับประเด็นด้านความมั่นคง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนอย่างละเอียด

 “ผู้ที่ฝ่าฝืน นำโดรนขึ้นบินในเขตพื้นที่การบินของสนามบินถือเป็นการกระทำผิดร้ายแรงในเขตความมั่นคงสูงสุด มีบทลงโทษตามกฎหมายสูงสุดถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ดังนั้นฝากไปถึงผู้ที่จะทำการใดๆในพื้นที่สนามบินซึ่งเป็นเขตความมั่นคงหรือฝ่าฝืนคำสั่ง จะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย การประชาสัมพันธ์บทลงโทษดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อป้องปรามและสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน ไม่ให้กระทำการโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือฝ่าฝืนกฎหมายโดยเด็ดขาด”นายนายกิตติพงศ์ กล่าว

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่าในด้านนโยบายและแผนการดำเนินงานนั้น เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นวาระเร่งด่วน และมีมติอนุมัติให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการจัดหาอุปกรณ์ตรวจจับและต่อต้านโดรน หรือ Anti-drone ที่มีความทันสมัยที่สุดมาใช้เป็นของหน่วยงานเอง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามในอนาคต โดยกำชับให้เร่งรัดกระบวนการจัดหาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ระหว่างนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังคงได้รับการสนับสนุนยุทโธปกรณ์จากหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง

 นอกจากนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ประสานงานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อสื่อสารสร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการว่า สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินอื่นในความรับผิดชอบของ ทอท. มีมาตรการและมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยในระดับสากล และสามารถดูแลความปลอดภัยในการเดินทางได้อย่างเต็มที่

 ด้าน พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน เปิดเผยว่า ในส่วนของการปฏิบัติงานภาคสนาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินมาตรการทั้งเชิงรุกและเชิงรับอย่างเข้มข้น มีการตั้งจุดตรวจค้นรอบสนามบินตลอด 24 ชั่วโมง ตรวจสอบบุคคล ยานพาหนะ โกดังสินค้า และสถานที่ต้องสงสัย รวมถึงเข้าตรวจสอบร้านค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวข้องกับโดรน ตลอดจนเข้าพบผู้ครอบครองโดรนที่ขึ้นทะเบียน ร้านค้า และสถานที่พักอาศัยในพื้นที่ เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมายและป้องกันการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยง

 นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการร่วมสามเหล่าทัพ” ประกอบด้วยกองทัพบก กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อบูรณาการการเฝ้าระวัง ตรวจจับ และสกัดกั้นโดรนอย่างเป็นระบบ โดยมีผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการยุทธการ ขณะที่ตำรวจจะปฏิบัติการภายใต้แผนยุทธการเดียวกัน พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลข่าวกรองระหว่างหน่วยงานอย่างใกล้ชิด

 ขณะเดียวกัน หน่วยงานด้านความมั่นคงยังได้ออกมาชี้แจงกรณีที่พบโดรนตกในพื้นที่บางกง ซึ่งถูกนำไปเชื่อมโยงกับประเด็นความปลอดภัยจนสร้างความตื่นตระหนก โดยยืนยันหลังตรวจสอบแล้วว่าเป็นเพียงโดรนของเล่นเด็ก ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ไม่สามารถนำมาใช้ก่อเหตุร้าย และไม่เกี่ยวข้องกับภัยความมั่นคงแต่อย่างใด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนอย่าหลงเชื่อหรือส่งต่อข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน

 สำหรับกระแสข่าวเรื่องรถยนต์ของชาวต่างชาติและบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ใกล้เคียง ขณะนี้ยังไม่มีรายงานยืนยันอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนและฝ่ายข่าวกรองลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน เพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยย้ำว่ามาตรการทั้งหมดเป็นการป้องกันล่วงหน้า เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดของสนามบินซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ และขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากแหล่งข่าวทางการ พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรวมของสังคม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับคาสนามบิน 'บิ๊กบอสสแกมเมอร์จีน' ผู้ต้องหาหมายแดงอินเตอร์โพล!

ตม.สกัดจับคาสนามบินบิ๊กบอสสแกมเมอร์จีน ผู้ต้องหาหมายแดงอินเตอร์โพล มูลค่าเสียหายกว่า 1,000 ล้าน ขณะเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ

บิ๊กอ้วนสั่งเข้มงวดหลังจากจับหนุ่มเขมรที่บุรีรัมย์และพบโดรนที่ปากน้ำ

'ภูมิธรรม' ยันช่วงนี้เข้มงวดเป็นพิเศษ หลังจับสายลับ หน่วย BHQ ที่บุรีรัมย์ - รอผลสอบหลังเจอโดรนปริศนาที่สมุทรปราการ โยงกัมพูชาหรือไม่

ตีปี๊บ 'สุวรรณภูมิ' คว้าเบอร์1สนามบินที่มีสายการบินให้บริการมากสุดในโลก

'ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ' ได้อันดับ 1 ของสนามบินที่มีสายการบินให้บริการมากที่สุดในโลก ตอกย้ำประเทศไทยจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว

ในหลวง ทรงเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ทางวิ่งเส้นที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 และทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

รัฐบาลปลื้ม ‘สุวรรณภูมิ’ ทะยานสู่รองแชมป์ สนามบินยอดเยี่ยม ปี 2025

โฆษกรบ. โอ่ "สุวรรณภูมิ" ทะยานสู่รองแชมป์ สนามบินยอดเยี่ยม ปี 2025 หลังผู้โดยสารทั่วโลก ให้คะแนนพึงพอใจทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย

นายกฯ ฟุ้งบูธไทยงาน ITB Berlin 2025 เสียงตอบรับดี

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ภายหลังเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2025 ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 3 - 8 มี.ค. โดยนายกฯ แถลงสรุปว่า ได้ไปงาน ITB Berlin 2025 ที่มีหลายประเทศทั่วโลกจัด