ตำรวจอินโดนีเซียยิงแก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายม็อบนักศึกษามหาวิทยาลัยกว่า 2,000 คนที่ออกมาประท้วงปัญหาราคาน้ำมันและอาหารที่พุ่งสูงขึ้น และประเด็นทางการเมืองของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด

ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่บรรดานักศึกษาระหว่างการชุมนุมต่อต้านความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับประเด็นการขยายเวลาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ในกรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 11 เมษายน (Photo by ADEK BERRY / AFP)
เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานสถานการณ์การปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุมในกรุงจาการ์ตา เมื่อวันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2565 กล่าวว่า การชุมนุมประท้วงของบรรดานักศึกษามหาวิทยาลัยบานปลายเป็นเหตุวุ่นวายและการใช้ความรุนแรง หลังผู้ประท้วงขว้างปาขวดและหินใส่ตำรวจเพื่อเปิดทางให้สามารถบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงในการตอบโต้เพื่อสลายการชุมนุม ทำให้ผู้ประท้วงจำนวนมากวิ่งหนีด้วยความโกลาหลออกจากที่เกิดเหตุนอกรัฐสภา
มีการชุมนุมประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศอินโดนีเซียในวันจันทร์ รวมถึงในจังหวัดสุลาเวสีใต้, ชวาตะวันตก และจาการ์ตา ส่วนการชุมนุมนอกรัฐสภาในครั้งนี้ เริ่มจากการรวมตัวของนักศึกษาหลายร้อยคนที่สวมเสื้อแจ็กเก็ตสะท้อนแสง แล้วเดินขบวนไปยังรัฐสภาเพื่อเรียกร้องรัฐบาลให้แก้ปัญหาต้นทุนพลังงานและอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงประเด็นทางการเมืองเกี่ยวกับประธานาธิบดีที่ต้องการจะอยู่ในตำแหน่งเกิน 2 สมัย หลังมีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วเป็นเวลาหลายสัปดาห์เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศในประเด็นดังกล่าว
เมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดพยายามปฏิเสธข้อมูลที่หลุดออกมาว่า มีแผนการสมคบคิดเพื่อให้เขาครองอำนาจบริหารได้นานขึ้น มีการผลักดันอย่างโจ่งแจ้งจากนักการเมืองผู้มีอิทธิพลบางคน ที่ออกมาสนับสนุนแนวคิดในการขยายวาระดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมเพื่อให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งได้มากกว่า 2 สมัย รวมทั้งความพยายามในการเลื่อนการเลือกตั้งในปี 2567 ออกไปจากกำหนดเดิม
แนวคิดดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความกังวลในหมู่สาธารณชนว่าอาจเป็นภัยคุกคามที่มีต่อการปฏิรูปประชาธิปไตย
“เห็นได้ชัดเจนว่า พวกชนชั้นสูงกำลังทำทุกอย่างให้มีการเลื่อนการเลือกตั้ง และนั่นคือสิ่งที่ทำร้ายรัฐธรรมนูญ” มูฮัมหมัด ลุตฟี นักศึกษาที่เข้าร่วมการประท้วงกล่าว
ตามประวัติศาสตร์ของประเทศระบอบประชาธิปไตยที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกแห่งนี้ นักศึกษามหาวิทยาลัยมักจะเป็นแนวหน้าในการพยายามปกป้องผลประโยชน์ทางประชาธิปไตยของประเทศ เห็นได้ชัดจากเหตุการณ์เดินขบวนบนท้องถนนในปี 2541 ซึ่งเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่ช่วยให้เกิดการโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต
ถึงแม้วิโดโดจะออกมาปฏิเสธแนวคิดดังกล่าวเป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์แล้ว และยืนยันว่าจะยังคงมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ตามแผนที่วางไว้ แต่ดูเหมือนประชาชนจะไม่ไว้วางใจ เห็นได้จากผลสำรวจความคิดเห็นของชาวอินโดนีเซียล่าสุด กว่า 70% ที่ไม่ยอมรับให้มีการขยายเวลาดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี อีกทั้งสภาพเศรษกิจที่ย่ำแย่จากสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนาและการสู้รบในยูเครน ทำให้ประชาชนออกมาชุมนุมเรียกร้องเพื่อปากท้องและประชาธิปไตยในครั้งนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ช่อ' หอบหลักฐานแจ้งความ 'นักการเมือง-IO' โพสต์บิดเบือน ยันไม่เคยบอกให้ทหารเปิดแผนการรบ
พรรณิการ์ วานิช กรรมการคณะก้าวหน้า แจ้งความกรณีมีการเผยแพร่ข้อความบิดเบือนที่ตนไปพูดในรายการหนึ่ง
ตร.คุมเข้มรอบ 'สุวรรณภูมิ' ผวาโดรนปริศนาใกล้สนามบิน
พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางแก้ว พร้อมด้วยรองผู้กำกับการฝ่ายป้องกันและปราบปราม ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนสุวรรณภูมิสาย 3
เศร้า! คนงานก่อสร้างวัย 35 ถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต เหตุดัดแปลงใช้พัดลมแอร์
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีคนถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิตภายในบ้านที่อยู่ระหว่างก่อสร้างแห่งหนึ่ง
'บิ๊กโจ๊ก' ยื่นฟันวินัย-อาญา ผบ.ตร. ละเว้น ประวิงเวลา ปมตำรวจรับส่วยเว็บพนัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร.ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร. เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) คณะกรรมการสอบสวนตามคำสั่ง ตร.ที่ 177/2568 ซึ
เศร้า! ผู้การฯอุทัยธานี จบชีวิตตัวเองภายในรถคาดเครียดเคยมีปัญหาสุขภาพ
มีคนทำร้ายตัวเอง ภายในบ้านหลังหนึ่ง ต.วัดไทรย์อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่สายตรวจศรีไทรทองและชุดสีบสวน เดินทางไปตรวจสอบ เบื้องต้นพบชายดังกล่าวใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในรถเก๋ง
ตร.เฝ้าระวัง 'นักรบรับจ้าง' หลังโคราชพบข้อมูลบางอย่าง สั่งคัดกรองต่างชาติเข้ม
รองโฆษก ตร. ย้ำ เฝ้าระวัง นักรบรับจ้าง จ.นครราชสีมา เข้มคัดกรองต่างชาติ ทุกช่องทาง ป้องกันเข้ามาก่อเหตุ

