บริษัท เฟซบุ๊กอิงค์ เปลี่ยนชื่อบริษัทแม่เป็น "เมตา" และเปลี่ยนโลโก้บริษัทจากรูปไลค์ที่เป็นรูปชูนิ้วโป้ง มาเป็นรูปทรงอินฟินิตีสีฟ้าเมื่อวันพฤหัสบดี ในความพยายามจะเน้นเทคโนโลยีด้านความเป็นจริงเสมือนในอนาคต
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2564 ว่าเฟซบุ๊กเปลี่ยนชื่อบริษัทแม่จาก เฟซบุ๊กอิงค์ เป็น "เมตา" (Meta) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐ ขณะที่รายงานของบีบีซีกล่าวว่า เฟซบุ๊กเปลี่ยนชื่อและโลโก้ของบริษัทแม่ที่สำนักงานใหญ่ในเมนโลปาร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย จากโลโก้รูป "ไลค์" ที่เป็นรูปชูนิ้วโป้ง มาเป็นรูปทรงอินฟินิตีสีฟ้า
การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้เป็นแค่ชื่อของบริษัทแม่ แต่สื่อสังคมออนไลน์ของเฟซบุ๊กอิงค์ ทั้ง เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม และวอตส์แอป ไม่ได้เปลี่ยนชื่อแต่อย่างใด เฟซบุ๊กกล่าวว่า การเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็นความพยายามจะเน้นเทคโนโลยีด้านความเป็นจริงเสมือน (วีอาร์) ในอนาคต ในความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า "เมตาเวิร์ส" ที่ต้องการผสมผสานโลกกายภาพกับโลกดิจิทัลเข้าด้วยกัน
กลุ่มนักเคลื่อนไหวที่เรียกตัวเองว่า "คณะกรรมการกำกับดูแลเฟซบุ๊กตัวจริง" แถลงว่า การเปลี่ยนชื่อที่ไร้ความหมายของเฟซบุ๊กไม่ควรเบี่ยงเบนความสนใจจากการสอบสวนเฟซบุ๊ก, กฎข้อบังคับ และการกำกับดูแลอย่างแท้จริงและเป็นอิสระ ซึ่งจำเป็นต่อการทำให้เฟซบุ๊กต้องรับผิดชอบ
สื่อโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่แห่งนี้กำลังรับมือกับวิกฤติร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งนับแต่อดีตพนักงาน ชื่อฟรานเซส เฮาเกน นำเอกสารการศึกษาภายในองค์กรมาเปิดโปงว่าเฟซบุ๊กเห็นแก่กำไรมากกว่าความปลอดภัย
สำหรับคำว่า "เมตาเวิร์ส" ปรากฏในนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง "Snow Crash" ของนีล สตีเฟนสัน นักเขียนชาวสหรัฐ ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2535 ในนิยายผู้คนสวมชุดหูฟังเสมือนจริงเพื่อตอบโต้กับโลกดิจิทัลที่มีลักษณะเหมือนในเกม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข้อคิดจาก ดร.เสรี กรณี Facebook ล่มเมื่อคืน
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านกดารตลาดและการสื่อสาร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "เมื่อคืนตอนประมาณ 4 ทุ่ม
จุดจบสายทัก! ลากเข้าคุกแก๊งทักเฟซบุ๊กหลอกลงทุน สูญกว่า 26 ล้าน
ไม่ปล่อยไว้! ตำรวจไซเบอร์จับขบวนการสุ่มทักเฟซบุ๊กหลอกลงทุนเงินดิจิทัล เหยื่อสูญกว่า 26 ล้าน พร้อมเปิดพฤติกรรมลวงผู้เสียหาย
'เทพไท' ชำแหละระเบียบคุมขังนอกเรือนจำตอกย้ำคุกมีไว้ขังคนจน!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก
'อียู' เพิ่มมาตรการเข้มงวดกับเฟซบุ๊กและแพลตฟอร์มอื่นๆ
ตามกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรป Facebook, Google และแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆ จะต้องดำเนินการที่เข้มงวดมากขึ้นกับเ