มาร์กอสกร้าวกรณีทะเลจีนใต้

เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ว่าที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ยืนยันว่าจะยึดมั่นต่อคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการถาวรในเรื่องข้อพิพาททะเลจีนใต้กับจีน และจะไม่ยอมให้จีนเหยียบย่ำสิทธิทางทะเลของฟิลิปปินส์
          เอเอฟพีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม 2565 ถึงท่าทีของเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ว่าที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ที่ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย และจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นในวันเดียวกัน โดยกล่าวถึงข้อพิพาททะเลจีนใต้ระหว่างฟิลิปปินส์กับจีน
          จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือทรัพยากรเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ โดยอ้างจากแผนที่เส้นประ 9 เส้น ทำให้เกิดข้อพิพาทกับหลายชาติ เช่น ฟิลิปปินส์, บรูไน, มาเลเซีย, ไต้หวันและเวียดนาม
          จีนไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการถาวรในกรุงเฮกต่อคดีข้อพิพาททะเลจีนใต้ที่ฟิลิปปินส์ยื่นฟ้องเมื่อปี 2559 ศาลตัดสินว่าข้ออ้างเรื่องประวัติศาสตร์ของจีนไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายรองรับ
          ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ที่ใกล้จะพ้นจากตำแหน่ง ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นกับจีนโดยวางคำตัดสินของศาลเอาไว้ก่อน เพื่อแลกกับคำสัญญาของจีนในเรื่องการค้าและการลงทุน
          มาร์กอส จูเนียร์ ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นบางสำนักเมื่อวันพฤหัสบดีในเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้กับจีน โดยยืนยันว่าเขาจะไม่ยอมให้สิทธิ์ชายฝั่งทางทะเลของฟิลิปปินส์ต้องถูกเหยียบย่ำแม้แต่ 1 มิลลิเมตร
          มาร์กอส จูเนียร์ ระบุว่า เรามีคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการถาวรที่ตัดสินเข้าข้างเรา และเราจะใช้คำตัดสินนี้เพื่อยืนยันสิทธิ์ที่เรามีต่อดินแดนของเรา ไม่ใช่การกล่าวอ้าง แต่เป็นสิทธิ์ในดินแดนที่เรามีอยู่แล้ว เราจะพูดคุยเรื่องนี้กับจีน ด้วยท่าทีที่มั่นคงและเสียงที่หนักแน่น แต่เขาเสริมว่าเราจะไม่ทำสงครามกับจีน
          มาร์กอส จูเนียร์ หรือที่ชาวฟิลิปปินส์รู้จักเขาในชื่อ “บองบอง” ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยได้คะแนนมากกว่า 50% ของผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ขณะที่ ซารา ดูเตร์เต ลูกสาวของประธานาธิบดีดูเตร์เต ชนะเลือกตั้งรองประธานาธิบดีอย่างถล่มทลายเช่นกัน คาดกันว่ามาร์กอสจะบริหารประเทศตามนโยบายหลักของดูเตร์เต
          แต่จากการให้สัมภาษณ์ของมาร์กอส จูเนียร์ เมื่อวันพฤหัสบดี ส่งสัญญาณว่าเขาจะไม่ใช้นโยบายต่างประเทศแบบเดียวกับดูเตร์เตที่หลายครั้งกล่าวโจมตีนักการทูตด้วยวาทกรรมปลุกระดมและธรรมชาติของคนที่เปลี่ยนใจง่าย
          มาร์กอสระบุว่า เขาจะแสวงหาความสมดุลในความสัมพันธ์ของฟิลิปปินส์กับจีนและสหรัฐอเมริกา บอกว่า “เราเป็นเพียงผู้เล่นตัวเล็กๆ ท่ามกลางยักษ์ใหญ่ในภูมิรัฐศาสตร์ เราต้องเดินทางในเส้นทางของเราเอง ผมไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดเก่าในสมัยสงครามเย็น ซึ่งอยู่ในสภาพแวดล้อมของอิทธิพลที่ว่าประเทศของคุณต้องเลือกอยู่ภายใต้สหภาพโซเวียตหรือสหรัฐอเมริกา เราจำเป็นต้องมีนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระ ซึ่งทำให้เราเป็นเพื่อนกับทุกคน นี่เป็นหนทางเดียวที่เราต้องเดินไป”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รมว.ยธ.' ตอกกลับ 'กัณวีร์' ยันจีนเปิดเสรีเยี่ยมอุยกูร์ หลังจากนี้ให้ไปได้อีก

'ทวี' ยันหลังเยี่ยมอุยกูร์ ทุกคนปลอดภัยดี แต่ไม่ได้พบทุกคนเหตุอยู่คนละพื้นที่ห่างไกล ย้อน 'กัณวีร์' เป็นมุสลิมหรือเปล่า กล่าวหาผู้หญิงเข้าสวมกอด สอน สส. หัดคิดถึงประโยชน์ประเทศ

ชาวอุยกูร์ บอกหลงเชื่อกลุ่มหัวรุนแรงชวนไปตุรกี ดีใจได้กลับมาดูแลพ่อแม่

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะ และ สื่อมวลชน มาเยี่ยมชาวอุยกูร์ 1 ใน 40 คน ที่ถูกส่งตัวกลับจากไทย ซึ่งพักอาศัยอยู่ในอำเภอซาเชอ เมืองคาซือ

ชาวอุยกูร์ เผยกลุ่มก่อการร้ายโกหกให้หลบหนี ยันไม่มีการบังคับ ขอบคุณ 'สี จิ้นผิง'

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่ถูกไทยส่งกลับเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์

'กัณวีร์' ได้เวลาซักฟอก 40 นาที ตอนแรกจะพูด 3 เรื่อง เปลี่ยนใจเน้นแค่เรื่องเดียว

นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลไทย นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ พาสื่อมวลชน

'ทูตรัศม์' มองผลประโยชน์ของจีนคือ ชาวอุยกูร์อยู่ดีมีสุข แต่คนมีอคติก็ยังไม่หยุดโจมตีรัฐบาล

นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ต่อข้อสงสัยของบางคนถึงสวัสดิภาพที่แท้จริงของชาวจีนอุยกูร์ 40 คนนั้น

ชาวอุยกูร์ บอกคนไทยไม่ต้องห่วง ชีวิตปกติดี มีวัว 52 ตัว จีนสร้างบ้านให้

นายภูมิธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี ได้วิดีโอคอล กับชาวอุยกูร์ ที่เดินทางกลับมาจากประเทศไทย จำนวน 6 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นชาวอุยกูร์ที่เดินทางกลับมาเมื่อปี 58 ซึ่งได้เล่าชีวิตหลังกลับมายังเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์