ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาหลายพันคนในบังกลาเทศชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้ส่งตัวกลับเมียนมา สถานที่ซึ่งพวกเขาลี้ภัยจากมาเพราะการปราบปรามอย่างโหดร้ายของทหารเมื่อ 5 ปีก่อน

ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาเดินขบวนชุมนุมเรียกร้องขอกลับเมียนมา ที่ค่ายผู้ลี้ภัยกูตูปาลอง ในเมืองค็อกซ์บาร์ซาร์ประเทศบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน (Photo by Tanbir MIRAJ / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน 2565 กล่าวว่า ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาหลายพันคนในบังกลาเทศออกมาชุมนุมประท้วงในวันอาทิตย์ เพื่อเรียกร้องให้ส่งตัวพวกเขากลับเมียนมา หลังผจญกับความยากลำบากของการลี้ภัยในบังกลาเทศ
ชาวโรฮีนจาราว 1 ล้านคน ต้องอาศัยอยู่ในกระท่อมไม้ไผ่ที่มุงด้วยผ้าใบกันน้ำ ในค่ายร้าง 34 แห่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ พวกเขาไม่มีงานทำ, ใช้ชีวิตในสภาพสุขาภิบาลที่ย่ำแย่ และแทบไม่ได้รับการศึกษา
บังกลาเทศปฏิบัติอย่างเข้มงวดกับผู้ลี้ภัยโรฮีนจามากขึ้น และสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้จัดการชุมนุม เนื่องจากเคยก่อเหตุประท้วงสร้างความวุ่นวายในเดือนสิงหาคมปี 2562 แต่ครั้งนี้ทางการได้อนุญาตให้ชาวโรฮีนจาหลายกลุ่มจัดกิจกรรมเดินขบวนชุมนุมชูประเด็นร้องขอ "กลับบ้าน" เพื่อแสดงออกเนื่องในวันผู้ลี้ภัยโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 20 มิถุนายนของทุกปี
“เราไม่ต้องการอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย การเป็นผู้ลี้ภัยมันไม่ง่าย กลับบ้านกันเถอะ” ซาเอ็ด อัลลาห์ ผู้นำชุมชนชาวโรฮีนจา กล่าวระหว่างปราศรัยในการชุมนุม
ในปี 2561 องค์การสหประชาชาติสืบสวนเกี่ยวกับประเด็นการสังหารและไล่ล่าชาวมุสลิมโรฮีนจาในเมียนมา และได้ข้อสรุปว่า นายพลทหารระดับสูงของเมียนมาต้องรับผิดชอบและถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหาทารุณกรรมต่อมนุษยชาติและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
การออกมาชุมนุมในวันอาทิตย์ เกิดขึ้นหลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศของบังกลาเทศและเมียนมาจัดประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศบังกลาเทศกล่าวกับเอเอฟพีว่า ในระหว่างการประชุม รัฐบาลบังกลาเทศกดดันให้เมียนมารับตัวผู้ลี้ภัยโรฮีนจากลับประเทศภายในปีนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า ผู้ลี้ภัยหลายพันคน รวมทั้งเด็กเล็กๆ เข้าร่วมการเดินขบวนชุมนุมตามถนนและตรอกซอกซอยพร้อมป้ายที่เขียนว่า "เพียงพอแล้ว! กลับบ้านกันเถอะ"
“ชาวโรฮีนจากว่า 10,000 คน เข้าร่วมการชุมนุมในค่ายผู้ลี้ภัยภายใต้การควบคุมดูแลโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษในค่ายเพื่อป้องกันความรุนแรงใดๆที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้อย่างสงบเรียบร้อย" เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว โดยอ้างอิงสถานการณ์การชุมนุมในค่ายผู้ลี้ภัยกูตูปาลอง ซึ่งเป็นค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่มีการชุมนุมในค่ายผู้ลี้ภัยอีกหลายแห่งในบังกลาเทศ
ความพยายามในการส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับประเทศครั้งก่อนประสบความล้มเหลว เพราะชาวโรฮีนจาปฏิเสธที่จะกลับบ้านจนกว่าเมียนมาจะให้การรับรองสิทธิและความมั่นคงของชนกลุ่มน้อยที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ซึ่งถูกมองมาตลอดว่าเป็น "ผู้อพยพผิดกฎหมาย" เพราะใช้ภาษาถิ่นเฉพาะกลุ่ม ที่คล้ายกับคนบังกลาเทศหรือชาวเบงกอลที่อยู่ตามชายแดน
ผู้นำชาวโรฮีนจากล่าวว่า พวกเขาต้องการกลับไปยังหมู่บ้านเดิมในรัฐยะไข่ของเมียนมา ไม่ใช่ค่ายที่รัฐบาลเมียนมาสร้างไว้สำหรับผู้พลัดถิ่นในประเทศ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กสม.ออกแถลงกรณ์ห่วงไทยส่งผู้ลี้ภัยชาวมองตานญาดกลับเวียดนาม!
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์
ครม. เห็นชอบต่อใบอนุญาตทำงานให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้กับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ทหารยกระดับคุมเข้มชายแดนไทย-เมียนมา ป้องรุกล้ำอธิปไตย
ทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจรามนู กองกำลังนเรศวร พร้อมอาวุธปืนหนัก-รถยานเกราะ นำกำลังพลออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และวางกำลังตามจุดล่อแหลม
ทหารเมียนมาเปลี่ยนจุดบึ้ม 'เคเคปาร์ค' ส่วนตึก 5 ชั้นเอียงใกล้ถล่ม
ทหารเมียนมาร่วมกับกะเหรี่ยงกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF.) พันธมิตรของทหารเมียนมา ยังคงเดินหน้าวางระเบิดทำลายอาคาร สำนักงานในพื้นที่เมืองเอ่งจี่เหมี่ยง
ทบ. คุมเข้มชายแดนไทย-เมียนมา ต่างด้าวทะลักข้ามฝั่งกว่า 1,500 คน ชาวอินเดียมากสุด
ทบ.เผยสถานการณ์ชายแดนไทย–เมียนมา ยังคงเฝ้าระวังใกล้ชิด หลังแรงงานต่างชาติหลบหนีจากพื้นที่โครงการ KK-Park ข้ามมายังฝั่งไทยกว่า 1,500 คน
'จตุพร' จี้เร่งจัดการแก๊งสแกมเมอร์ ชี้ทั่วโลกเอาจริงแล้ว เมียนมาทิ้งบอมบ์ล้างบาง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อ 31 ต.ค. 2568 กรณีปราบปรามสแ


