สิงคโปร์ระงับประหารชีวิตชายพิการทางสมองติดเชื้อโควิด

ศาลสูงของสิงคโปร์มีคำสั่งให้ระงับการประหารชีวิตชายมาเลเซียอายุ 33 ปี ที่มีภาวะพิการทางสมองและเดิมมีกำหนดถูกแขวนคอประหารชีวิตจากคดียาเสพติดในวันพุธ หลังจากตรวจพบว่าเขาติดเชื้อไวรัสโควิด-19

รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 กล่าวว่า นากาเอนทราน เค. ธาร์มาลิงกัม ชายชาวมาเลเซียที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญาถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อปี 2553 หนึ่งปีภายหลังเขาโดนจับกุมขณะนำเฮโรอีน 42.72 กรัม หรือราว 3 ช้อนโต๊ะเข้าสิงคโปร์เมื่อเดือนเมษายน 2552 หลังจากถูกจำคุกมานานกว่า 10 ปีและการอุทธรณ์คำพิพากษาหลายครั้งไม่เป็นผล สิงคโปร์เตรียมประหารชีวิตเขาในวันพุธที่ 10 พฤศจิกายนนี้

อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ทนายความของเขาได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงอีกครั้งว่า การประหารชีวิตชายพิการทางสมองที่มีไอคิวเพียง 69 รายนี้จะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยศาลสูงตกลงส่งคดีกลับไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อไต่สวนเพิ่มเติม แต่ศาลยังไม่ทันได้ตัดสินคำร้องอุทธรณ์ล่าสุดของเขาและสั่งให้ชะลอการประหารชีวิตไว้

ผู้พิพากษาแอนดรูว์ แฟง บุน เหลียง กล่าวก่อนเปิดการไต่สวนเมื่อวันอังคารว่า นากาเอนทรานติดเชื้อโควิด-19 และศาลจำเป็นต้องใช้หลักเหตุผล, สามัญสำนึก และมนุษยธรรม ชะลอการลงโทษประหารชีวิตไว้ก่อน

คดีของนากาเอนทรานเป็นข่าวโด่งดังที่เรียกความสนใจจากทั่วโลก โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญขององค์การสหประชาชาติ หรือแม้แต่ริชาร์ด แบรนสัน มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ก็ร่วมเรียกร้องให้สิงคโปร์ละเว้นโทษประหารชีวิตเขา

ผู้สนับสนุนเขากล่าวว่า ภาวะบกพร่องทางสติปัญญาทำให้นากาเอนทรานไม่สามารถตัดสินใจอย่างมีเหตุผลได้ และช่วงที่ก่อคดี ชายผู้นี้ยังมีปัญหาติดเหล้าด้วย

คำสั่งประหารชีวิตเขาทำให้กลุ่มสิทธิ เช่น ฮิวแมนไรต์วอตช์และแอมเนสตี้อินเตอร์เนชันแนล ประณามว่าโหดร้ายและน่ารังเกียจ นายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ ของมาเลเซียก็ส่งหนังสือถึงผู้นำสิงคโปร์ เรียกร้องให้เลื่อนการประหารด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม

รัฐบาลสิงคโปร์ปกป้องการตัดสินยืนโทษประหารก่อนหน้านี้ว่า คำพิพากษาระบุชัดว่าจำเลย "รู้ว่ากำลังทำอะไร" ในขณะเขากระทำความผิด.