กลาโหมไต้หวันชี้ กองทัพจีนสามารถปิดล้อมเกาะตัดขาดจากภายนอก

กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยรายงานประเมินภัยคุกคามร้ายแรงทางทหารจากจีนแผ่นดินใหญ่ฉบับล่าสุดเมื่อวันอังคาร ระบุขณะนี้กองทัพจีนมีขีดความสามารถปิดล้อมสนามบินและท่าเรือสำคัญของไต้หวัน ตัดการติดต่อทั้งทางน้ำและทางอากาศได้

แฟ้มภาพ ธงชาติไต้หวันบนเกาะดาดัน ที่เป็นส่วนหนึ่งของเมืองจินเหมิน มองเห็นมณฑลฝูเจี้ยนของจีนอยู่เบื้องหลังในระยะห่างแค่ 4.4 กม. (Getty Images)

รัฐบาลจีนไม่เคยปฏิเสธความเป็นไปได้ของการใช้กำลังทหารผนวกเกาะไต้หวันที่จีนถือว่าเป็นดินแดนของจีน และช่วงหลายปีมานี้ นับแต่ไช่ อิงเหวิน ผู้ปฏิเสธ "จีนเดียว" ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีไต้หวัน จีนก็เพิ่มแรงกดดันไต้หวันทั้งทางเศรษฐกิจและการทหารหนักขึ้น กองทัพจีนจัดกิจกรรมทางทหารรอบเกาะไต้หวันบ่อยครั้ง รวมถึงส่งเครื่องบินเข้าเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันจำนวนมากเป็นประวัติการณ์

รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมของไต้หวันได้เผยแพร่รายงานซึ่งจัดทำทุก 2 ปี ระบุว่า จีนเปิดสงคราม "เขตสีเทา" กับไต้หวันด้วยการส่งเครื่องบินรบ "รุกล้ำ" เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (เอดีไอแซด) ภาคพื้นตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน 554 ครั้ง ระหว่างเดือนกันยายน 2563 ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้

นักวิเคราะห์ทางทหารเคยกล่าวกันไว้ว่า ยุทธวิธีนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้ไต้หวันอ่อนล้า

กระทรวงกลาโหมไต้หวันกล่าวอีกว่า ในเวลาเดียวกัน กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) ก็กำลังมีเป้าหมายปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยภายในปี 2578 เพื่อให้มีความเหนือกว่าในปฏิบัติการต่อไต้หวันที่อาจเกิดขึ้นได้ และพัฒนาขีดความสามารถในการยับยั้งกองทัพต่างชาติ ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งต่อความมั่นคงแห่งชาติของไต้หวัน

รายงานระบุว่า ณ ขณะนี้ พีแอลเอสามารถปิดล้อมไต้หวันพร้อมกันทั้งท่าเรือที่สำคัญ, สนามบิน และเส้นทางบินขาออก เพื่อตัดเส้นทางการติดต่อสื่อสารทางอากาศและทางทะเล และส่งผลกระทบต่อการไหลของกำลังบำรุงและทรัพยากรด้านลอจิสติกส์ของกองทัพไต้หวัน

นอกจากนี้ จีนยังสามารถโจมตีทั่วทุกพื้นที่ของไต้หวันด้วยคลังมิสไซล์ที่จีนมีอยู่ ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธและมิสไซล์ครูซ อีกทั้งจีนยังกำลังเพิ่มขีดความสามารถในการโจมตีไต้หวันแบบสะเทินน้ำสะเทินบก

เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงกลาโหมไต้หวันเคยเตือนว่า ความตึงเครียดทางทหารกับจีนอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ ภายหลังจีนส่งเครื่องบินรบรุกล้ำเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันมากเป็นสถิติ โดยภายในเวลา 4 วัน นับแต่วันชาติจีน 1 ตุลาคม กองทัพอากาศจีนส่งเครื่องบินรุกล้ำเอดีไอแซดของไต้หวันรวม 148 ลำ

รายงานเมื่อวันอังคารกล่าวอีกว่า การคุกคามเขตสีเทาบ่อยครั้งของจีน เช่น การรุกล้ำของเครื่องบิน และการทำสงครามวิธีอื่น เช่น การโจมตีไซเบอร์ มีเป้าหมายที่ "การยึดไต้หวันโดยไม่ต้องสู้รบ"

เพื่อตอบโต้ความพยายามของจีนที่จะ "ยึดไต้หวันอย่างรวดเร็วพร้อมกับการปฏิเสธการแทรกแซงจากต่างประเทศ" กระทรวงกลาโหมไต้หวันประกาศว่า ไต้หวันจะทุ่มเทความพยายามด้าน "สงครามอสมมาตร" มากขึ้น เพื่อทำให้การโจมตีของจีนต้องพบกับความเจ็บปวดและความยากลำบากมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เหล่านี้รวมถึงการโจมตีที่แม่นยำของมิสไซล์พิสัยไกลต่อเป้าหมายในจีน, การวางทุ่นระเบิดชายฝั่ง และการเสริมสร้างการฝึกทหารกองหนุน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จำได้ไหม? 'จางเจ๋ออวี่' เด็กน้อยกตัญญูจาก Master Class สู่ศิลปินคุณภาพ

เด็กน้อยกตัญญู จางเจ๋ออวี่ (张泽禹) จากรายการ Master Class ที่วัย 10 ขวบในตอนนั้น จนถึงวันนี้เขาได้เติบโตเป็นศิลปินฝึกหัดที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ความสามารถล้นเหลือ และกำลังเดินทางตามความฝันของตัวเองอย่างแข็งขันเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย

กงศุลใหญ่ 'คุนหมิง' เตือนคนไทยเที่ยวพื้นที่สูงของจีน ตรวจร่างกายก่อนไป หลังพบป่วยพุ่ง

ประชาสัมพันธ์บริษัททัวร์และนักท่องเที่ยวเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ระดับสูงของจีน รับนโยบายฟรีวีซ่า

เปิดประสบการณ์เยือน“แดนมังกร”แบบใจฟู! มนตร์เสน่ห์ครบเครื่องทั้งความอลังการทันสมัยและสถาปัตยกรรมสุดงดงาม

ถ้าพูดถึง “จีน” โดยเฉพาะเวลาไปท่องเที่ยว คนส่วนใหญ่จะยังติดภาพจีนในเวอร์ชันเดิมๆ คนเสียงดังๆ ห้องน้ำที่อาจจะไม่ค่อยสะอาด และเวลาเข้าจะต้องคอยลุ้นเสมอว่าจะเจอแจ็กพอร์ตหรือไม่