
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) หน่วยงานในสังกัดสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยแพร่รายงานเรื่อง การเป็นทาสสมัยใหม่ ระบุจํานวนผู้ที่ถูกบังคับให้ทํางานหรือต้องแต่งงานซึ่งขัดต่อความต้องการของพวกเขา พุ่งขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ราว 50 ล้านคน
รอยเตอร์รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565 องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) หน่วยงานในสังกัดของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยแพร่รายงานเรื่อง การเป็นทาสสมัยใหม่ ในวันเดียวกัน ระบุจํานวนผู้ที่ถูกบังคับให้ทํางานพุ่งสูงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ราว 50 ล้านคน
ไอแอลโอระบุในรายงานว่า วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อโควิด-19, ความขัดแย้งที่ทำให้เกิดการทำสงครามสู้รบ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นําไปสู่การหยุดชะงักของการจ้างงานและการศึกษาอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และทําให้ความยากจนทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงมีการบังคับให้ย้ายถิ่นฐาน
เมื่อเปรียบเทียบกับการประเมินครั้งสุดท้ายของไอแอลโอเมื่อปี 2559 จํานวนประชาชนทั่วโลกที่เป็นทาสยุคใหม่เพิ่มขึ้นราว 9.3 ล้านคน
ตามตัวเลขล่าสุดจากรายงานของไอแอลโอระบุว่า มีผู้ถูกบังคับใช้แรงงานทั่วโลกคิดเป็น 27.6 ล้านคนของผู้ที่เป็นทาสสมัยใหม่ในปี 2564 โดยมากกว่า 3.3 ล้านคนเป็นเด็ก และมีผู้ถูกบังคับให้แต่งงานถึง 22 ล้านคน
ไอแอลโอพบว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ถูกบังคับใช้แรงงานทั้งหมด เกิดขึ้นในประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูงหรือประเทศที่มีรายได้สูง ซึ่งแรงงานต่างด้าวในประเทศเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบมากกว่า 3 เท่า
รายงานของไอแอลโอกล่าวถึงประเทศกาตาร์ ซึ่งต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาอย่างกว้างขวางเรื่องการละเมิดสิทธิแรงงานที่เกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทํางานก่อสร้างในกาตาร์ช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกที่จะเริ่มเปิดสนามในเดือนพฤศจิกายนปีนี้
รายงานระบุว่า นับตั้งแต่ไอแอลโอมาเปิดสํานักงานในกรุงโดฮาของกาตาร์ในเดือนเมษายน 2561 มี "ความคืบหน้าที่สําคัญ" เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่และการทํางานของแรงงานต่างด้าวหลายแสนคนในกาตาร์ แม้ว่าปัญหายังคงเกิดขึ้นกับการบังคับใช้กฎหมายแรงงานใหม่ก็ตาม
นาสเซอร์ อัล คาเตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า กาตาร์ต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่เป็นธรรมมากมายเกี่ยวกับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง แต่ก็ได้ดำเนินการแก้ไขต่อคําวิจารณ์ที่เป็นธรรมไปแล้ว
รายงานของไอแอลโอฉบับนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงานในบางพื้นที่ของจีน โดยอ้างถึงรายงานที่เผยแพร่โดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่าน ซึ่งระบุว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เกิดขึ้นในจีน และการคุมขังชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมอื่นๆ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน อาจเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งจีนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างแข็งกร้าวมาโดยตลอด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดจดหมาย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยฯ ประจานพฤติกรรมเขมรต่อประชาคมโลก
กต.เผยจดหมาย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยฯถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงฯ ระบุการละเมิดต่อเนื่องของกัมพูชา
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ ‘สีหศักดิ์’ ไปร่วม UNGA ทำได้ ไม่ขัด รธน.
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ได้ให้ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะและกล่าวว่า เมื่อ ครม.เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ ตามรัฐธรรมนู
'อนุทิน' สุดภูมิใจ 'สีหศักดิ์' เปิดโรงปมเขมรเวทีโลกเป็นหน้าตาให้รัฐบาล
“อนุทิน”ปลื้ม สีหศักดิ์ปกป้องศักดิ์ศรีคนไทย แม้ยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ลั่นรัฐบาลเชื่อมทหารได้ 100 % ไม่ต้องผ่านตัวกลางเหมือนยุคแพทองธาร
ชื่นชม ‘สีหศักดิ์’ ปราศรัยในยูเอ็นตอกหน้า เขมร เล่นบทเหยื่อ
นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า รมต. สีหศักดิ์ปราศรัยในยูเอนเมื่อคืนได้ดีเยี่ยมในรอบหลายสิบปี สมควรที่กระทรวงต่างประเทศรีบแปลเป็นภาษาไทยให้คนไทยได้อุ่นใจ
'อนุทิน' ไม่ไปร่วมประชุม UN หวั่นกลับมาไม่ทันแถลงนโยบาย เชื่อไทยไม่เสียโอกาสในเวทีโลก
"อนุทิน" เผยไม่ไปประชุม UNGA แล้ว หวั่นไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เผยต้องการบริหารบ้านเมืองเต็มรูปแบบ เชื่อไทยไม่เสียโอกาสในเวทีโลก เหตุมีแนวทางแก้ชายแดนชัดอยู่แล้ว ลั่นไม่จำเป็นต้องคุยที่ UN คู่กรณีมีไม่เพียงไม่กี่ราย


