รัฐบาลทหารเมียนมาฉลองวันประกาศอิสรภาพด้วยการแสดงแสนยานุภาพของกองทัพ

กองกำลังทหารเมียนมาพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ เดินสวนสนามผ่านกรุงเนปยีดอ เมืองหลวงที่สร้างขึ้นโดยกองทัพ เพื่อเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพของประเทศ

การเดินสวนสนามของทหารกองเกียรติยศในพิธีฉลองวันประกาศอิสรภาพของประเทศเมียนมา ที่กรุงเนปยีดอ เมื่อวันที่ 4 มกราคม (Photo by Thet AUNG / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 4 มกราคม 2566 กล่าวว่า รัฐบาลทหารเมียนมาจัดพิธีเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพของประเทศที่กรุงเนปยีดอ เมืองหลวงใหม่ที่สร้างโดยกองทัพ พร้อมการเดินสวนสนามแสดงแสนยานุภาพทางทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์

รถถัง, เครื่องยิงขีปนาวุธ และรถหุ้มเกราะ เคลื่อนตัวผ่านอากาศยามเช้าไปยังลานสวนสนามในเมืองหลวง ซึ่งถือเป็นการสวนสนามทางทหารครบรอบ 75 ปีนับตั้งแต่เมียนมาได้รับเอกราชจากอังกฤษ

ในขบวนสวนสนามยังมีบรรดาข้าราชการและนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา เดินตามกำลังพลพร้อมด้วยดุริยางค์ทหาร

มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารได้รับการต้อนรับด้วยการยิงปืนสลุต 21 นัด ทันทีที่เดินทางมาถึงลานสวนสนาม

รายงานของหนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมา กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซียส่งสาส์นร่วมยินดีกับวันประกาศอิสรภาพของรัฐบาลทหารเมียนมาด้วยความจริงใจ และคาดหวังถึงการพัฒนาร่วมกันของ 2 ชาติให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไป

ทั้งนี้ รัสเซียเป็นพันธมิตรรายใหญ่และเป็นผู้จัดหาอาวุธให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งเคยออกมาอวยรัสเซียว่าการบุกยูเครนนั้นเป็นเรื่องชอบธรรมแล้ว

เมียนมาประกาศเอกราชจากการปกครองแบบอาณานิคมของอังกฤษเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2491 หลังจากการสู้รบที่ยาวนานโดยมีนายพลอองซาน ผู้เป็นบิดาของนางอองซานซูจี เป็นวีรบุรุษในการกอบกู้ชาติในครั้งนั้น

โดยปกติวันประกาศอิสรภาพจะมีการเดินขบวนและเฉลิมฉลองอย่างอิสระของประชาชนชาวเมียนมา ไปตามท้องถนนและพื้นที่สาธารณะ แต่หลังจากที่กองทัพเข้ายึดประชาธิปไตยคืนจากประชาชน การเฉลิมฉลองก็ถูกงดเว้นไปโดยส่วนใหญ่ เนื่องจากผู้คนอยู่แต่ในบ้านเพื่อประท้วงต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหาร

กองทัพอ้างว่ามีการฉ้อโกงการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2563 จึงใช้เป็นเหตุผลในการทำรัฐประหารยึดอำนาจมาจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของอองซานซูจี ซึ่งได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งครั้งนั้น

สัปดาห์ที่แล้ว ศาลทหารของรัฐบาลเผด็จการเพิ่งสรุปการพิจารณาคดีแบบปิดและพิพากษาจำคุกนางอองซานซูจี รวบยอดในทุกคดีเป็นเวลารวม 33 ปี อีกทั้งกำลังเตรียมจัดการเลือกตั้งใหม่ในปลายปีนี้ ซึ่งชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาให้ความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวไว้ว่าน่าจะเป็นแค่ปาหี่การเมือง.

เพิ่มเพื่อน