ผู้ประท้วงป่วนสถานที่ราชการสำคัญในบราซิล ก่อนกองกำลังความมั่นคงยึดคืน

กองกำลังความมั่นคงของบราซิลเข้าควบคุมและปิดล้อมพื้นที่รอบรัฐสภา, ทำเนียบประธานาธิบดี และศาลฎีกา หลังวันก่อนหน้า ผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร บุกยึดและก่อจลาจล

ผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ของบราซิล บุกเข้ายึดทำเนียบประธานาธิบดี ขณะปะทะกับกองกำลังความมั่นคงในกรุงบราซิเลีย เมื่อวันที่ 8 มกราคม (Photo by Sergio Lima / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 กล่าวว่า ผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ของบราซิล ซึ่งพ่ายแพ้การเลือกตั้งต่อลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ยังคงออกมาประท้วงตามท้องถนนแสดงการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง พร้อมก่อความวุ่นวายอยู่เรื่อยๆ จนล่าสุดบุกยึดสถานที่ราชการสำคัญ พร้อมทุบทำลายจนเสียหาย รวมทั้งปล้นทรัพย์สินราชการ

การบุกป่วนอาคารรัฐสภาในบราซิลทำให้หวนนึกถึงฉากบุกโจมตีอาคารรัฐสภาของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 โดยผู้สนับสนุนของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นความป่าเถื่อนแบบฟาสซิสต์

ในขณะเดียวกัน อดีตประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ทวีตประณาม "การปล้นสะดมและการรุกรานอาคารสาธารณะ" ของบรรดาผู้สนับสนุน พร้อมปฏิเสธคำกล่าวหาของประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ที่ว่าเขาเป็นผู้ยุยงให้เกิดการโจมตี และปกป้องสิทธิของบรรดาผู้สนับสนุนในการประท้วงอย่างสันติ

ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ซึ่งติดภารกิจเยี่ยมชมพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยอยู่ในเมืองอารารากัวร์รา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศและไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงในช่วงเวลาเกิดเหตุ ได้ลงนามในกฤษฎีกาประกาศการแทรกแซงของรัฐบาลกลางในกรุงบราซิเลีย โดยให้อำนาจพิเศษแก่รัฐบาลของเขาเหนือกองกำลังตำรวจท้องถิ่น เพื่อควบคุมสถานการณ์และฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในเมืองหลวง

กองกำลังความมั่นคงเข้าปะทะกับบรรดาผู้ก่อจลาจล โดยใช้แก๊สน้ำตา, ระเบิดช็อตไฟฟ้า และปืนฉีดน้ำแรงดันสูง จนกระทั่งปราบปรามลงได้ในที่สุด พร้อมจับกุมผู้ก่อเหตุและเข้ายึดคืนอาคารรัฐสภา, ทำเนียบประธานาธิบดี และศาลฎีกา กลับมาได้

ประธานาธิบดีลูลาเดินทางกลับไปยังกรุงบราซิเลียและได้ตรวจสอบความเสียหายที่ทำเนียบประธานาธิบดีและศาลฎีกา

เจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลกลางกล่าวว่า มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 300 คนจากการก่อความไม่สงบ

ในขณะเดียวกัน สำนักงานอัยการสูงสุดเรียกร้องให้เปิดการสอบสวนโดยทันที เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เกี่ยวข้องทุกคนต้องได้รับผิดชอบการกระทำที่ก่อไว้

ความโกลาหลเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มผู้ประท้วงแต่งกายด้วยชุดลายพรางทหารสีเขียวและสีเหลืองของธงชาติบราซิลรวมตัวกันเต็มพื้นที่จัตุรัส Three Powers ในกรุงบราซิเลีย ก่อนเคลื่อนขบวนเข้าบุกรุกพื้นที่รัฐสภา, ทำลายอาคารศาลฎีกา และทำเนียบประธานาธิบดี

ภาพจากสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นผู้ก่อการจลาจลพังประตูและหน้าต่างเพื่อเข้าไปในอาคารรัฐสภา ก่อนเปิดทางให้กลุ่มคนที่เหลือทำลายห้องทำงานของสมาชิกสภานิติบัญญัติและเวทีปราศรัยของวุฒิสภา

ผู้ประท้วงได้ทำลายงานศิลปะ, วัตถุทางประวัติศาสตร์, เฟอร์นิเจอร์ และของประดับตกแต่งหลายรายการ ขณะที่พวกเขาก่อการจลาจลไปทั่วอาคาร รวมทั้งการทำร้ายเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าว ตามรายงานของสื่อบราซิล

รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะค้นหาและจับกุมผู้ที่วางแผนและสนับสนุนการโจมตีทั้งหมด

ขณะที่สำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวว่า ได้ขอให้ศาลฎีกาออกหมายจับเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งหมดที่ละเว้นและบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการยับยั้งการกระทำซึ่งนำไปสู่ความไม่สงบ นอกจากนี้ยังขอให้ศาลอนุญาตให้ใช้กองกำลังรักษาความปลอดภัยสาธารณะทั้งหมด เพื่อสลายการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ.

เพิ่มเพื่อน