ประธานาธิบดีเปรูขอให้สภาคองเกรสเลื่อนการเลือกตั้งเร็วขึ้นจากเดิมให้ทันภายในปีนี้

ประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต ของเปรู ร้องขอให้สภาคองเกรสเลื่อนการเลือกตั้งให้เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม เพื่อยุติความวุ่นวายจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลไม่จบไม่สิ้น

ผู้ประท้วงหญิงคนหนึ่งถือกระดาษแผ่นใหญ่ที่มีข้อความว่า "ฆาตกรดีนา ลาออกไปซะ" ต่อหน้าแผงกั้นโล่ห์ตำรวจระหว่างการเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต ในกรุงลิมา ประเทศเปรู เมื่อวันที่ 26 มกราคม (Photo by Lucas AGUAYO / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต แถลงต่อสภาคองเกรสขอให้เลื่อนการเลือกตั้งทั่วไปให้เร็วขึ้น โดยกำหนดเดิมจะจัดในช่วงเดือนเมษายน 2567 ให้เปลี่ยนมาจัดขึ้นในเดือนธันวาคมปีนี้ เพื่อยุติการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทั่วประเทศที่ไม่มีแนวโน้มว่าจะสงบลงได้เลย และหากปล่อยให้นานไปจะยิ่งส่งผลเสียต่อประเทศ

เปรูพัวพันกับวิกฤตการเมืองจากการเดินขบวนประท้วงของประชาชนเกือบทุกวัน นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีเปโดร กัสติโย ผู้นำคนก่อนถูกถอดถอนและจับกุมเมื่อต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

กลุ่มผู้ประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเรียกร้องให้โบลูอาร์เตลาออกและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว โดยกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีกัสติโย ได้ก่อความวุ่นวาย, ใช้ความรุนแรง, รวมตัวปิดถนนทางหลวง และพยายามบุกรุกสถานที่สำคัญ พร้อมปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและตำรวจอยู่บ่อยครั้ง เป็นเหตุให้สูญเสียชีวิตผู้คนไปแล้วเกินครึ่งร้อย และกระตุ้นให้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ซึ่งถูกโจมตีด้วยความรุนแรง

ก่อนหน้านี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติของเปรูได้ลงมติเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม เห็นชอบร่างกฎหมายที่โบลูอาร์เตเสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งมาจัดเร็วขึ้น จากกำหนดเดิมในปี 2569 ให้เป็นปี 2567

แต่เมื่อเผชิญกับการประท้วงด้วยความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โบลูอาร์เตจึงเรียกร้องให้สภาคองเกรสเลื่อนการเลือกตั้งมาจัดขึ้นในเดือนธันวาคมปีนี้แทน เช่นเดียวกับพรรคฝ่ายค้านที่เห็นชอบให้ดำเนินการดังกล่าว

การประท้วงด้วยการปิดถนนทางหลวงนานหลายสัปดาห์ สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับชาวเปรูเอง เพราะการคมนาคมขนส่งสำคัญไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างสะดวก ทำให้เกิดความขาดแคลนในหลายพื้นที่ ทั้งอาหาร, เชื้อเพลิง และยารักษาโรค

ทั้งนี้ความรุนแรงที่เลวร้ายที่สุดและมียอดผู้เสียชีวิตสูงสุดเกิดขึ้นเมื่อผู้ประท้วงพยายามบุกโจมตีสนามบินทางตอนใต้ของประเทศและปะทะหนักกับฝ่ายความมั่นคง

ภาคใต้ของเปรูที่มีประชากรพื้นเมืองจำนวนมากเป็นศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวประท้วง จนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญของเปรู

นอกจากการปิดกั้นถนนทางหลวงหลายสิบสายและบังคับให้ปิดสนามบินหลายแห่งแล้ว ผู้ประท้วงยังได้วางก้อนหินบนรางรถไฟที่ทำหน้าที่เป็นทางคมนาคมเพียงทางเดียวที่เข้าถึง 'มาชูปิกชู' อดีตป้อมปราการของชาวอินคาและอัญมณีแห่งการท่องเที่ยวเปรู ทำให้นักท่องเที่ยวติดค้างจำนวนมาก และภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเสียหาย.

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต แถลงต่อสภาคองเกรสขอให้เลื่อนการเลือกตั้งทั่วไปให้เร็วขึ้น โดยกำหนดเดิมจะจัดในช่วงเดือนเมษายน 2567 ให้เปลี่ยนมาจัดขึ้นในเดือนธันวาคมปีนี้ เพื่อยุติการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทั่วประเทศที่ไม่มีแนวโน้มว่าจะสงบลงได้เลย และหากปล่อยให้นานไปจะยิ่งส่งผลเสียต่อประเทศ

เปรูพัวพันกับวิกฤตการเมืองจากการเดินขบวนประท้วงของประชาชนเกือบทุกวัน นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีเปโดร กัสติโย ผู้นำคนก่อนถูกถอดถอนและจับกุมเมื่อต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

กลุ่มผู้ประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเรียกร้องให้โบลูอาร์เตลาออกและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว โดยกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีกัสติโย ได้ก่อความวุ่นวาย, ใช้ความรุนแรง, รวมตัวปิดถนนทางหลวง และพยายามบุกรุกสถานที่สำคัญ พร้อมปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและตำรวจอยู่บ่อยครั้ง เป็นเหตุให้สูญเสียชีวิตผู้คนไปแล้วเกินครึ่งร้อย และกระตุ้นให้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ซึ่งถูกโจมตีด้วยความรุนแรง

ก่อนหน้านี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติของเปรูได้ลงมติเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม เห็นชอบร่างกฎหมายที่โบลูอาร์เตเสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งมาจัดเร็วขึ้น จากกำหนดเดิมในปี 2569 ให้เป็นปี 2567

แต่เมื่อเผชิญกับการประท้วงด้วยความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โบลูอาร์เตจึงเรียกร้องให้สภาคองเกรสเลื่อนการเลือกตั้งมาจัดขึ้นในเดือนธันวาคมปีนี้แทน เช่นเดียวกับพรรคฝ่ายค้านที่เห็นชอบให้ดำเนินการดังกล่าว

การประท้วงด้วยการปิดถนนทางหลวงนานหลายสัปดาห์ สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับชาวเปรูเอง เพราะการคมนาคมขนส่งสำคัญไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างสะดวก ทำให้เกิดความขาดแคลนในหลายพื้นที่ ทั้งอาหาร, เชื้อเพลิง และยารักษาโรค

ทั้งนี้ความรุนแรงที่เลวร้ายที่สุดและมียอดผู้เสียชีวิตสูงสุดเกิดขึ้นเมื่อผู้ประท้วงพยายามบุกโจมตีสนามบินทางตอนใต้ของประเทศและปะทะหนักกับฝ่ายความมั่นคง

ภาคใต้ของเปรูที่มีประชากรพื้นเมืองจำนวนมากเป็นศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวประท้วง จนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญของเปรู

นอกจากการปิดกั้นถนนทางหลวงหลายสิบสายและบังคับให้ปิดสนามบินหลายแห่งแล้ว ผู้ประท้วงยังได้วางก้อนหินบนรางรถไฟที่ทำหน้าที่เป็นทางคมนาคมเพียงทางเดียวที่เข้าถึง 'มาชูปิกชู' อดีตป้อมปราการของชาวอินคาและอัญมณีแห่งการท่องเที่ยวเปรู ทำให้นักท่องเที่ยวติดค้างจำนวนมาก และภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเสียหาย.

เพิ่มเพื่อน