พายุทอร์นาโดพัดถล่มแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ขณะที่สภาพอากาศเลวร้ายยังคงดำเนินต่อไป

พายุทอร์นาโดพัดถล่มเมืองทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย พัดหลังคาอาคารปลิวว่อนและรถกระเด็นไปรอบๆ ขณะที่สภาพอากาศในฤดูหนาวที่กำลังดำเนินอยู่กลับเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม

สภาพต้นไม้ที่หักโค่นจากฤทธิ์ของพายุทอร์นาโดที่พัดถล่มเมืองมอนเตเบลโล ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม (Photo by MARIO TAMA / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม 2566 กล่าวว่า เกิดพายุทอร์นาโดในเมืองมอนเตเบลโลและคาร์พินเทเรียใกล้กับลอสแองเจลิส สร้างความเสียหายให้อาคารบ้านเรือน, รถยนต์, ต้นไม้ และถนนหนทาง ทำให้ชาวเมืองต้องอพยพออกนอกพื้นที่ชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย

กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า พายุที่เกิดขึ้นเรียกว่า "พายุทอร์นาโดกำลังอ่อน" ซึ่งเป็นพายุที่มีกำลังแรง, มีวงแคบ และมีแรงหมุนแตะพื้น

ทอร์นาโดถือเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดในธรรมชาติ มีความสามารถในการกักเก็บกระแสลมได้สูงถึง 300 ไมล์ (480 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง และสามารถพัดผ่านพื้นที่ใกล้เคียงได้ในไม่กี่วินาที

การประมาณการเบื้องต้นของกรมอุตุนิยมวิทยาฯ บ่งชี้ว่า พายุทอร์นาโดกำลังอ่อนที่เกิดขึ้นในสองเมืองของแคลิฟอร์เนียมีความเร็วลมสูงถึง 85 ไมล์ต่อชั่วโมง และพัดเข้าสู่พื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่, สร้างความเสียหายอย่างชัดเจน และอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บของผู้คน

ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่จะเกิดพายุทอร์นาโดตามฤดูกาลในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งการมาอย่างปัจจุบันทันด่วนทำให้ต้นไม้หักโค่นจำนวนมากและทำให้หลายแสนครัวเรือนขาดแคลนไฟฟ้าเพราะเสาไฟเสียหาย มิหนำซ้ำยังต้องเผชิญฝนและหิมะตกหนักในช่วงเดียวกัน

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ทำให้สภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงขึ้น เป็นเหตุให้ช่วงฤดูแล้งก็แห้งแล้งหนักและช่วงผฟฝฤดูฝนก็มีฝนตกชุกมากขึ้นและเกิดพายุบ่อยครั้ง.

เพิ่มเพื่อน