พนักงานธนาคารวัย 23 ปีเปิดฉากกราดยิงในที่ทำงานของตนเองในเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกีของสหรัฐฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 รายและบาดเจ็บอีก 9 คน ก่อนถูกวิสามัญ
พื้นที่เกิดเหตุกราดยิงในธนาคารย่านใจกลางเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 เมษายน มีผู้เสียชีวิต 5 ราย รวมทั้งมือปืนผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิตจากการวิสามัญของตำรวจ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 9 คน (Photo by LEANDRO LOZADA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 11 เมษายน 2566 กล่าวว่า เกิดเหตุกราดยิงในธนาคารแห่งหนึ่งของเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บ 9 คน
ตำรวจได้รับรายงานเหตุกราดยิงด้วยอาวุธปืนในธนาคารโอลด์ เนชันนอล (Old National Bank) เมื่อเวลา 08.38 น. ตามเวลาท้องถิ่น (19.38 น. ตามเวลาประเทศไทย) โดยตำรวจเดินทางถึงที่เกิดเหตุภายใน 3 นาที และมีการยิงตอบโต้กับผู้ก่อเหตุ ท้ายที่สุดผู้ก่อเหตุคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ทำการวิสามัญ
ตำรวจระบุว่ามือปืนสังหารหมู่ครั้งล่าสุดของอเมริกาเป็นชายผิวขาวชื่อคอนเนอร์ สเตอร์เจียน วัย 23 ปี และให้ข้อมูลว่าเขาเป็นพนักงานของธนาคารที่เกิดเหตุ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองของรัฐเคนทักกี และชายผู้ก่อเหตุใช้ปืนไรเฟิลเป็นอาวุธ พร้อมทำการไลฟ์สดระหว่างการสังหารหมู่อีกด้วย
ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 4 ราย เป็นชาย 3 รายอายุ 40 ปี, 63 ปี และ 64 ปี อีก 1 รายเป็นหญิงอายุ 57 ปี ขณะผู้บาดเจ็บ 9 คนอยู่ในอาการสาหัส รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นายที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจากการยิงปะทะกับผู้ก่อเหตุ
สื่อรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ประสบเหตุบางคนสามารถหลบหนีการกราดยิงไปซ่อนตัวอยู่ในห้องนิรภัยของธนาคารและพยายามติดต่อกับตำรวจจากข้างในห้องนั้น
ตำรวจยังไม่พบแรงจูงใจในการกราดยิงดังกล่าว แต่สันนิษฐานว่ามือปืนอาจอยู่ในภาวะกดดันเพราะกำลังจะตกงาน
ขณะที่เมตา (Meta) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแอพอินสตาแกรม (Instagram) ที่มือปืนกราดยิงใช้ไลฟ์สดระหว่างก่อเหตุ ชี้แจงว่ากำลังดำเนินการลบสตรีมสดของเหตุการณ์โศกนาฏกรรมนี้อย่างเร็วที่สุด
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีประชากรราว 330 ล้านคน แต่มีจำนวนปืนมากกว่า 400 ล้านกระบอก และการกราดยิงที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถือเป็นเรื่องปกติ ในขณะที่กฏหมายควบคุมอาวุธปืนยังเป็นที่ถกเถียงในรัฐสภาระหว่างสองขั้วการเมืองที่คิดเห็นไม่ตรงกัน
เหตุกราดยิงครั้งล่าสุดในหลุยส์วิลล์ ถือเป็นครั้งที่ 146 ของปีนี้ โดยมีผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนไปแล้วกว่า 4,900 ราย ตามข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ Gun Violence Archive ซึ่งนับเฉพาะเหตุการณ์ที่มีผู้ถูกยิงหรือเสียชีวิตตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป ไม่รวมผู้ก่อเหตุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขำไม่ออก! อดีต รมว.กต. โวรัฐบาลอิ๊งค์เจรจาสหรัฐ-จีน กดดันกัมพูชาเคารพข้อตกลงสันติภาพได้สำเร็จ
"มาริษ" แนะดึงจีนร่วมกดดันกัมพูชาให้เคารพข้อตกลง-รักษาสมดุลมหาอำนาจ-สื่อสารสหรัฐฯ โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง
ลั่นไทยไม่ใช่นักเรียนประถม! จวกสหรัฐทำตัวเป็นครูใหญ่ถือไม้เรียวขู่
จวกสหรัฐอเมริกาใช้กำแพงภาษีขู่ไทยเหมือนครูใหญ่คุมเด็กประถม พร้อมชี้ไทยไม่ใช่สนามเด็กเล่นของวอชิงตัน และอธิปไตยไม่ใช่ของแลกผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์กับใครทั้งนั้น
ดร.กิตติธัช มองระงับเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ แค่แสดงอำนาจสไตล์อเมริกา ไม่เกี่ยวปมเขมร
นักวิชาการ มองในเชิงการเมืองระหว่างประเทศจะเห็นได้ชัดว่า สหรัฐฯ จงใจเลือกเล่น "เกมแสดงอำนาจ" ให้เห็นในช่วงเวลาที่ไทยกำลังกระชับสัมพันธ์การทูต
