เลขาธิการสหประชาชาติออกมายอมรับว่าล้มเหลวในการหยุดยั้งสงครามไม่ให้ปะทุขึ้นในซูดาน โดยสองฝ่ายตั้งหน้าตั้งตาแย่งชิงอำนาจจนไม่เคารพการเจรจา ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ในความพยายามยุติการสู้รบ

ควันไฟพวยพุ่งระหว่างการสู้รบอย่างต่อเนื่องในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดาน เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม (Photo by AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2566 กล่าวว่า อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งปฏิบัติภารกิจอยู่ที่กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวและยอมรับว่า เขาประหลาดใจเป็นอย่างมากกับความขัดแย้งในซูดาน ทั้งๆที่องค์กรโลกและหน่วยงานอื่นๆได้พยายามประสานให้มีการตกลงเจรจา แต่สองฝ่ายที่ขัดแย้งกลับไม่ให้ความสนใจข้อตกลงและพร้อมห้ำหั่นกันต่อไปอย่างเอาเป็นเอาตาย
"เราได้ดำเนินการทุกอย่างในขอบเขตที่ทำได้แล้ว และหวังว่าผลลัพธ์จะออกมาดี แต่ไม่เลย หลายฝ่ายไม่คาดคิดว่าการสู้รบจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้จะรับปากหยุดยิงกันแล้วก็ตาม ตอนนี้เราคงต้องยอมรับว่า เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว ซูดานกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่หนักหนาสาหัส จากการต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างคนสองคน" เลขาธิการสหประชาชาติกล่าว
คำพูดของเขาเกิดขึ้นหนึ่งวันให้หลังที่มาร์ติน กริฟฟิธส์ เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมระดับสูงของสหประชาชาติ เดินทางไปยังซูดาน ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 7 วันของคู่ขัดแย้งในสงคราม
การปะทะรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนที่แล้ว โดยนายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัลบุรฮาน ผู้บัญชาการกองทัพซูดาน กับนายพลโมฮัมเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล ผู้บัญชาการกองกำลังกึ่งทหารของซูดาน คือสองฝ่ายที่เป็นตัวการของสงครามกลางเมืองที่ทวีความดุเดือดในขณะนี้
มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 550 ราย และบาดเจ็บอีก 4,926 คน ตามตัวเลขโดยประมาณล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขซูดาน
มีผู้ลี้ภัยมากกว่า 100,000 คนหลบหนีออกจากซูดานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการอพยพครั้งใหญ่ที่อาจนำมาซึ่งหายนะด้านมนุษยธรรมที่มีผลกระทบต่อทั้งภูมิภาค
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มาร์ติน กริฟฟิธส์เดินทางถึงเมืองพอร์ตซูดานในทะเลแดงซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ในภารกิจเร่งด่วนเพื่อค้นหาวิธีบรรเทาทุกข์ให้กับชาวซูดานหลายล้านคนที่ไม่สามารถหลบหนีออกจากประเทศได้
กริฟฟิธส์เรียกร้องให้มีการรับประกันความปลอดภัย "ในระดับสูงสุด" เพื่อการส่งความช่วยเหลือที่จำเป็นอย่างยิ่งไปยังพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากสงครามในประเทศ
กริฟฟิธส์ยังกล่าวอีกว่า โครงการอาหารโลกของสหประชาชาติแจ้งว่ารถบรรทุก 6 คันที่นำความช่วยเหลือไปยังภูมิภาคดาร์ฟูร์ทางตะวันตกของประเทศ ถูกปล้นระหว่างทาง แม้จะมีการรับประกันความปลอดภัยจากทั้งสองฝ่ายแล้วก็ตาม
เมื่อวันอังคาร กระทรวงการต่างประเทศของประเทศซูดานใต้ที่อยู่ใกล้เคียง ประกาศว่า กองทัพซูดานและกองกำลังกึ่งทหารของซูดานได้ตกลงในหลักการสำหรับการหยุดยิงเป็นเวลา 7 วันตั้งแต่วันที่ 4-11 พฤษภาคม
ทั้งนี้ สองฝ่ายที่ทำสงครามได้ประกาศหยุดยิงมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีใครปฏิบัติได้จริงตามข้อตกลง ยังคงมีการละเมิดและโจมตีกันดังเดิม
แม้จะมีความพยายามสงบศึกตามข้อตกลง แต่พยานรายงานว่ามีเครื่องบินรบอยู่เหนือเมืองหลวงของซูดานในวันพุธ และมีการปะทะกันอย่างรุนแรงใกล้กับสำนักงานใหญ่ของสถานีโทรทัศน์ของรัฐในเมืองออมเดอร์มาน ซึ่งเป็นเมืองคู่แฝดกับกรุงคาร์ทูม
สหประชาชาติระบุล่าสุดว่า โรงพยาบาลในกรุงคาร์ทูมคงเหลือเพียง 16% เท่านั้นที่ยังคงใช้งานได้ตามปกติ ขณะที่พลเรือนเกือบ 450,000 คนต้องอพยพออกจากถิ่นที่อยู่ และกว่า 115,000 คนขอลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้าน
นอกเหนือจากเมืองหลวงคาร์ทูมแล้ว ความรุนแรงยังแผ่ขยายไปยังภูมิภาคดาร์ฟูร์ซึ่งเคยมีบาดแผลจากสงครามในอดีตเมื่อปี 2546 โดยปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 99 รายแล้วจากการสู้รบ ตามการระบุของสหภาพแพทย์ของซูดาน
จากจำนวนผู้พลัดถิ่นกว่า 330,000 คนในซูดาน มีรายงานว่ามากกว่า 70% มาจากรัฐทางตะวันตกและทางใต้ของดาร์ฟูร์ ตามรายงานขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อานนท์' นอนคุกยาว ศาลฎีกายังไม่ให้ประกัน แม้ยกความเห็น UN กังวลการใช้ ม.112
เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความว่า ศาลฎีกายังไม่ให้ประกัน “อานนท์” แม้ยกความเห็น UN กังวลการใช้ ม.112
'วราวุธ' สรุปผล ร่วมประชุม กมธ.ว่าด้วยสถานภาพสตรี ที่ UN แลกเปลี่ยนประสบการณ์ หลายประเทศชื่นชม พม.-ขอนำตัวอย่างไปขยายผล
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงผลการนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรีสมัยที่ 69 (Commission on the Status of Women) หรือการประชุม CSW 69 ซึ่งปี 2568 เป็นวาระครบรอบ 30 ปี ปฏิญญาปักกิ่ง ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (UN) นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ตอก 'ยูเอ็น' จุ้นไม่เข้าเรื่อง เสนอให้ไทยยกเลิกม.112
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ยูเอ็นอย่าเ .อก มีรายงานลอยๆไม่มีที่มาที่ไป