บรรดาผู้นำชาติอาเซียนกำหนดให้ประเด็นความรุนแรงในเมียนมาเป็นวาระสำคัญที่จะหยิบยกมาหารือร่วมกันในที่ประชุมในอินโดนีเซีย

บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศชาติอาเซียนร่วมถ่ายรูปก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 42 ที่เมืองลาบวน บาโจ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม (Photo by Achmad Ibrahim / POOL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 9 พฤษภาคม 2566 กล่าวว่า การประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนเริ่มขึ้นแล้วที่อินโดนีเซีย โดยประเด็นความรุนแรงที่ยังไม่จบสิ้นในเมียนมาจะถูกหยิบยกมาประเด็นหลักในการหารือ
เมียนมาที่ปกครองโดยรัฐบาลทหาร ตกอยู่ในความวุ่นวายมาตลอดนับตั้งแต่การรัฐประหารของกองทัพต่อรัฐบาลพลเรือนของอองซาน ซูจี เมื่อกว่า 2 ปีที่แล้ว เพราะมีการปราบปรามผู้เห็นต่างด้วยความรุนแรงถึงชีวิต ซึ่งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ใช้การทูตในเวทีระหว่างประเทศเพื่อร่วมแก้ปัญหาดังกล่าว แต่ไม่เคยสัมฤทธิ์ผลเพราะรัฐบาลทหารไม่ให้ความร่วมมือ จนหลายฝ่ายมองว่าเวทีอาเซียนไร้น้ำยาและเป็นเพียงเสือกระดาษ พร้อมเรียกร้องให้อาเซียนดำเนินการให้เด็ดขาดกว่าเดิมเพื่อยุติความรุนแรง
รัฐบาลทหารยังคงเพิกเฉยต่อการวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ และปฏิเสธที่จะเจรจาประณีประณอมกับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งรวมถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติที่ถูกขับไล่, กองกำลังป้องกันประชาชนที่ต่อต้านการรัฐประหาร และชนกลุ่มน้อยติดอาวุธ
เหตุรุนแรงล่าสุดที่มีการรายงานคือ การโจมตีทางอากาศใส่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งถูกระบุว่าเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏเมื่อเดือนที่แล้ว และมีรายงานผู้เสียชีวิตประมาณ 170 คน ก่อให้เกิดเสียงประณามจากทั่วโลก และทำให้ความชอบธรรมของรัฐบาลทหารแย่ลงไปอีก
แรงกดดันของที่ประชุมอาเซียนเพิ่มขึ้นล่าสุด จากกรณีขบวนรถที่บรรทุกนักการทูตและเจ้าหน้าที่ที่ประสานงานด้านการบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมของอาเซียนในเมียนมาถูกยิงโจมตีเมื่อวันอาทิตย์
มีการเปิดเผยรายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวในรัฐฉานทางตะวันออกของเมียนมา โดยนักการทูตต่างประเทศในกรุงย่างกุ้งกล่าวว่า นักการทูตจากสถานทูตอินโดนีเซียและสิงคโปร์อยู่ในกลุ่มผู้ประสบเหตุ ซึ่งสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ประณามและยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ 2 คนจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง อยู่ในขบวนรถที่ถูกโจมตี แต่ไม่ได้รับอันตราย ขณะที่อินโดนีเซียยังไม่ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์
เหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคม บนเกาะฟลอเรสของอินโดนีเซีย ซึ่งบรรดาตัวแทนจากชาติอาเซียนจะพยายามกระตุ้นกระบวนการสันติภาพภายใต้ฉันทามติ 5 ประการที่อาเซียนตกลงกับรัฐบาลทหารเมียนมาเมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากล้มเหลวในการพยายามไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความรุนแรง
"ประเด็นความรุนแรงดังกล่าวยกระดับความเร่งด่วนของเมียนมาให้เป็นประเด็นหารือหลักในการประชุมสุดยอดครั้งนี้อย่างแน่นอน" นักการทูตแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพี
แม้เมียนมายังคงเป็นสมาชิกอาเซียน แต่ก็ถูกกีดกันจากการประชุมสุดยอด เนื่องจากรัฐบาลทหารล้มเหลวในการดำเนินการตามแผนสันติภาพ
เร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ประเทศของเธอกำลังใช้ "การทูตแบบเงียบ" เพื่อพูดคุยกับทุกฝ่ายในความขัดแย้งของเมียนมา และกระตุ้นความพยายามสร้างสันติภาพอีกครั้ง.