พรรคอนุรักษนิยมของมิตโซทาคิส ชนะการเลือกตั้งกรีซอย่างถล่มทลาย

นายกรัฐมนตรีกรีซคนปัจจุบันนำพรรคอนุรักษนิยมชนะการเลือกตั้งระดับชาติด้วยคะแนนเสียงข้างมากอย่างท่วมท้น และคว้าโอกาสในการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ไว้ได้ พร้อมให้คำมั่นว่าจะนำการปฏิรูปครั้งใหญ่มาเปลี่ยนแปลงประเทศ

คีรีอาคอส มิตโซทาคิส นายกรัฐมนตรีกรีซคนปัจจุบันและหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ โบกมือให้ผู้สนับสนุนหลังทราบผลการเลือกตั้งทั่วไปที่พรรคของเขาได้รับชัยชนะท่วมท้นและสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเพื่อบริหารประเทศต่อไปได้อีก 4 ปี ในกรุงเอเธนส์ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน (Photo by Louisa Gouliamaki / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2566 กล่าวว่า คีรีอาคอส มิตโซทาคิส นายกรัฐมนตรีกรีซคนปัจจุบันและหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษนิยม ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์

การเลือกตั้งล่าสุดนี้ถือเป็นรอบชี้ขาด หลังจากกรีซจัดการเลือกตั้งใหญ่ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม และพรรคประชาธิปไตยใหม่ของมิตโซทาคิส ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 40.8% จากที่นั่ง ส.ส. 146 ที่นั่ง ทิ้งห่างพรรคไซรีซาของอดีตนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ที่ตามมาอันดับ 2 ที่ได้คะแนน 20%

ภายใต้ระบบการเลือกตั้งใหม่ของกรีซ พรรคประชาธิปไตยใหม่ได้ที่นั่ง ส.ส. 146 ที่นั่งจากทั้งหมด 300 ที่นั่ง ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากพรรคเดียว ซึ่งจะต้องได้ ส.ส. 151 ที่นั่ง อีกทั้งมิตโซทาคิสปฏิเสธการจัดตั้งรัฐบาลผสมเนื่องจากหวั่นเกรงว่ารัฐบาลจะไม่มีเสถียรภาพพอที่จะบริหารประเทศไปได้ตลอดรอดฝั่งอีก 4 ปี จึงทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้งในอีก 1 เดือนถัดมา ก่อนมิตโซทาคิสชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในรอบนี้ และเพียงพอจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว


คณะกรรมการการเลือกตั้งทำการนับคะแนนเกือบทั้งหมดแล้วในรอบนี้ซึ่งจะใช้เกณฑ์คำนวณจำนวนส.ส แบบตัวแทนกึ่งสัดส่วนต่างจากรอบก่อนหน้า และพรรคประชาธิปไตยใหม่ได้รับคะแนนมากกว่า 40.5% ซึ่งจะทำให้ได้รับจำนวนที่นั่งส.ส.เป็นโบนัสเพิ่มอีก 50 ที่นั่งทันทีจากชัยชนะอย่างเด็ดขาด เพราะทิ้งห่างอันดับ 2 ซึ่งได้แก่พรรคไซรีซาของอดีตนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ที่ได้คะแนนเสียงลดลงในรอบนี้เหลือเพียง 18%

ส่วนต่างที่ขาดลอยที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี ทำให้ฝ่ายอนุรักษนิยมคว้าจำนวนที่นั่งส.ส.มากพอจะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว (ประมาณ 152 ที่นั่ง) ถือเป็นรางวัลที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมอบให้แก่พวกเขาสำหรับความสำเร็จในการฟื้นสภาพเศรษฐกิจของกรีซหลังวิกฤตหนี้

"ประชาชนให้เสียงข้างมากอย่างปลอดภัยแก่เรา ดังนั้นการปฏิรูปครั้งใหญ่จะได้รับการดำเนินการอย่างรวดเร็ว" มิตโซทาคิสกล่าว พร้อมเสริมว่าเขามีเป้าหมายที่จะพลิกโฉมประเทศให้ได้ต่อจากนี้

แม้ว่ามิตโซทาคิส วัย 55 ปี สามารถบริหารประเทศจนฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งสองปีติดต่อกัน แต่รัฐบาลของมิตโซทาคิสต้องรับมือกับเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการดักฟังโทรศัพท์, การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19, วิกฤตค่าครองชีพและเหตุรถไฟชนกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจต่อสาธารณชน และการกลับมาได้รับความไว้วางใจอย่างท่วมท้นถือเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความประหลาดใจไม่น้อย

คีรีอาคอส มิตโซทาคิส ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งแรกในปี 2562 โดยเอาชนะอเล็กซิส ซีปราส นายกฯคนก่อนหน้าไปได้ และให้คำมั่นว่าจะนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจอันหนักหนาที่สุดในรอบทศวรรษ

การเลือกตั้งครั้งนั้นถือเป็นครั้งแรกหลังหมดวาระการรับความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป ในเวลาที่ภาคธุรกิจและแรงงานพังทลายภายใต้ภาระภาษีจำนวนมากที่รัฐบาลชุดก่อนเรียกเก็บเพื่อใช้บริหารงบประมาณแบบเกินดุลตามความต้องการของเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ

ในช่วง 4 ปีของมิตโซทาคิส ภาระภาษีได้ผ่อนคลายลง และแม้ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ทำลายรายได้จากการท่องเที่ยวที่สำคัญของกรีซ แต่ประเทศก็ฟื้นตัวกลับมาด้วยอัตราการเติบโต 8.3% ในปี 2564 และ 5.9% ในปีที่แล้ว

มิตโซทาคิสประกาศว่า ในการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ของเขา รัฐบาลจะเน้นการลดภาษีและเพิ่มผลผลิตในประเทศ รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2518 ซึ่งอาจเป็นนโยบายที่สร้างความหวังให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการเป็นหนี้ของกรีซมานานหลายปี อันเป็นสาเหตุของอัตราการว่างงานสูง, ภาวะเงินเงินเฟ้อ และการล่มสลายขององค์กรธุรกิจ.

เพิ่มเพื่อน