ประธานาธิบดีรัสเซียปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก หลังจบเหตุการณ์ก่อกบฏของกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ พร้อมชี้ว่ายูเครนและพันธมิตรตะวันตกต้องการเห็นชาวรัสเซียเข่นฆ่ากันเอง
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวแถลงต่อประชาชนผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในกรุงมอสโก เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน หลังสิ้นสุดเหตุการณ์ก่อกบฏของกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ซึ่งทำให้ทั้งประเทศตกตะลึงด้วยการเคลื่อนกำลังพลบุกกรุงมอสโกก่อนยกเลิกไปในที่สุด (Photo by NATALIA KOLESNIKOVA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 27 มิถุนายน 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวแถลงต่อประชาชนผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก หลังสิ้นสุดเหตุการณ์ก่อกบฏของกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ซึ่งทำให้ทั้งประเทศตกตะลึงด้วยการเคลื่อนกำลังพลบุกกรุงมอสโกก่อนยกเลิกไปในที่สุด
ปูตินกล่าวว่าเขาได้ออกคำสั่งให้หลีกเลี่ยงการนองเลือดและนิรโทษกรรมแก่นักรบวากเนอร์ ซึ่งการก่อกบฏครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการปกครองรอบ 2 ทศวรรษของเขา
"ตั้งแต่เริ่มเหตุการณ์ ผมปรึกษากับทุกฝ่ายเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการนองเลือดครั้งใหญ่ในดินแดนของเรา" ปูตินกล่าวในคำปราศรัยทางโทรทัศน์ พร้อมขอบคุณชาวรัสเซียสำหรับ "ความรักชาติ"
"การคุกคามด้วยกองกำลังในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ศัตรูของรัสเซียต้องการ ทั้งพวกนีโอนาซีในเคียฟและผู้สนับสนุนชาวตะวันตก รวมถึงบรรดาผู้ทรยศต่อชาติ คนเหล่านั้นต้องการให้ทหารรัสเซียฆ่ากันเอง" ปูตินกล่าว
ปูตินยังกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเขาสำหรับการทำงานอย่างหนักระหว่างการก่อจลาจลที่มีเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหม เป็นเป้าหมายหลักของการก่อกบฏ
"ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพลเรือนแสดงให้เห็นว่าการขู่กรรโชกและความพยายามใด ๆ ที่จะจัดระเบียบความวุ่นวายภายใน จะต้องล้มเหลว" ปูตินกล่าว
เขาเสริมว่า บรรดานักรบของวากเนอร์มีทางเลือกมากกว่าหนึ่งทาง ทั้งการเข้าร่วมในกองทัพรัสเซีย, ออกเดินทางไปเบลารุส หรือแม้แต่เดินทางกลับถิ่นฐานของตน
"วันนี้คุณสามารถรับใช้รัสเซียต่อไปด้วยการทำสัญญากับกระทรวงกลาโหมหรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ หรือไม่ก็กลับไปหาครอบครัวและคนใกล้ชิดของคุณซะ ส่วนใครก็ตามที่ต้องการไปยังเบลารุส ประตูก็เปิดให้เสมอ" ปูตินกล่าว
ก่อนหน้านี้ เยฟกีนี ปริโกซิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ ได้กล่าวปกป้องปฏิบัติการบุกมอสโกที่ล้มเลิกไปว่าเป็นความพยายามเพื่อรักษาชีวิตและศักดิ์ศรีของเหล่านักรบ รวมทั้งต้องการเปิดโปงความล้มเหลวทางทหารของรัสเซีย แต่ไม่ได้ต้องการท้าทายรัฐบาลหรือผู้นำรัสเซีย
ปริโกซินซึ่งไม่ได้เปิดเผยว่าเขาพูดจากสถานที่ใด กล่าวในข้อความเสียงออนไลน์ว่าการก่อหวอดของเขามีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้กองกำลังวากเนอร์ถูกถอนรากถอนโคน และคุยโวว่าความง่ายดายในการรุกคืบมอสโกนั้นแสดงให้ทั่วโลกเห็นแล้วว่ามี "ปัญหาด้านความปลอดภัยร้ายแรง" ในดินแดนรัสเซีย
แม้สถานการณ์จะสิ้นสุดลงและรัฐบาลมอสโกกับกองกำลังวากเนอร์สามารถตกลงกันได้ แต่ในความขัดแย้งลึกๆ อาจทำให้รัสเซียไม่เชื่อใจและจะไม่ใช้งานวากเนอร์ในแนวหน้าการรบกับยูเครนอีกแล้ว
ถึงอย่างไรก็ดี สำนักงานใหญ่ของวากเนอร์ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กยังคงเปิดทำการปกติ และเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่า ธุรกิจรับจ้างของวากเนอร์จะยังคงเปิดดำเนินการต่อไปเพื่อปฏิบัติการในประเทศมาลีและสาธารณรัฐแอฟริกากลาง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นาโต' เตือนเกาหลีเหนือ กรณีส่งกองทหารช่วยเหลือรัสเซีย
ยูเครนและเกาหลีใต้รายงานว่า มีทหารเกาหลีเหนือมากถึง 12,000 นายเข้าร่วมสงครามช่วยเหลือประธานาธิบดีปูติน จนถึง