ไฟไหม้บ้านพักตากอากาศในฝรั่งเศส ทำให้กลุ่มผู้ใหญ่ซึ่งมีความบกพร่องทางการเรียนรู้เสียชีวิต 11 ราย
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงตรวจสอบอาคารบ้านพักตากอากาศที่ถูกไฟไหม้ในวินต์เซนไฮม์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม มีผู้เสียชีวิต 11 ราย (Photo by Sebastien BOZON / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 9 สิงหาคม 2566 กล่าวว่า เกิดเหตุไฟไหม้ในบ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งในชุมชนวินเซนต์ไฮม์ แคว้นกร็องแต็สต์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส จนมีผู้เสียชีวิตและสูญหาย กลายเป็นเหตุการณ์ที่ประธานาธิบดีมาครงใช้คำว่า "โศกนาฏกรรม"
เปลวไฟเริ่มปะทุในช่วงกลางดึกของวันอังคาร และลุกลามอย่างรวดเร็วเพราะตัวอาคารสร้างด้วยไม้ ทำให้ผู้พักอาศัยที่กำลังหลับไม่สามารถตอบสนองได้เร็วพอที่จะหลบหนีออกมา
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงท้องถิ่นพยายามดับไฟและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างเร่งด่วน แต่ผู้พักอาศัย 28 คนในบ้านหลังดังกล่าวถูกพบเป็นศพ 11 ราย ขณะที่หน่วยกู้ภัยสามารถอพยพอีก 17 คนออกมาได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางความยากลำบาก เนื่องจากมีเศษหินและอิฐจำนวนมากเป็นอุปสรรค
มีรายงานว่า บรรดาผู้ที่เข้าพักในบ้านตากอากาศหลังดังกล่าวมีส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีปัญหาในการเรียนรู้ ซึ่งเดินทางมายังพื้นที่ภูเขาที่งดงามในช่วงวันหยุด
ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เขียนถึงเหตุดังกล่าวผ่านทางโซเชียลมีเดีย มีใจความว่า "ในวินเซนต์ไฮม์ เปลวเพลิงได้เผาผลาญที่พักซึ่งรองรับผู้ทุพพลภาพและเพื่อนของพวกเขา ในการเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ผมขอส่งกำลังใจไปยังผู้สูญเสีย, ผู้บาดเจ็บ และคนที่พวกเขารัก"
ผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่พักที่ชั้นล่างของอาคาร จึงสามารถออกจากสถานที่ได้อย่างรวดเร็ว แต่ผู้เสียชีวิตทั้งหมดไม่สามารถออกมาได้เพราะพักที่ชั้นบนของอาคาร
ล่าสุดยังไม่พบสาเหตุของไฟไหม้ในทันที แต่จะมีการเปิดการสอบสวนโดยอัยการของภูมิภาคหลังเสร็จสิ้นภารกิจค้นหา
ทั้งนี้ บ้านพักตากอากาศหลังดังกล่าวเปิดให้บริการในรูปแบบเกสต์เฮ้าส์ และเปิดดำเนินการมาหลายปีโดยไม่มีปัญหาใดๆ
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกล่าวว่า อาคารกึ่งไม้หลังดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยบริเวณหลังคาถูกไฟเผาผลาญ จนไหม้เกรียม เช่นเดียวกับบริเวณชั้นล่างบางส่วนที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังที่ยังคงมีควันขาวจากความร้อนพวยพุ่งให้เห็น
อัคคีภัยล่าสุดที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุดฤดูร้อนของประเทศ ถือเป็นเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสนับตั้งแต่เหตุเพลิงไหม้ที่บาร์แห่งหนึ่งทางตอนเหนือของเมืองรูอ็อง เมื่อปี 2559 ที่คร่าชีวิตผู้คนไป 14 ราย.
