สถานการณ์ไฟป่าในหลายภูมิภาคของโลก

ไฟป่ารุนแรงยังคงลุกลาม สร้างความอลหม่านให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัย ประชาชน และนักท่องเที่ยว ทั้งบนเกาะเตเนริเฟ ในกรีซ และแคนาดา กระทั่งไม่สามารถคาดเดาขอบเขตของไฟได้เลย

หลังจากเกิดเหตุไฟป่ารุนแรงในฮาวายซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 114 ราย หน่วยบริการฉุกเฉินในหลายพื้นที่ ในหลายประเทศยังคงต่อสู้กับไฟป่า โดยเฉพาะบนเกาะเตเนริเฟ-หนึ่งในเจ็ดเกาะของแคว้นกานาเรียส ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของสเปน รวมทั้งในกรีซ และในหลายจังหวัดของแคนาดา

บนเกาะเตเนริเฟ เปลวเพลิงได้ปกคลุมพื้นที่ป่าธรรมชาติไปแล้วประมาณ 120 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับสนามฟุตบอลถึง 16,000 สนาม หรือเกือบร้อยละ 6 ของพื้นที่เกาะกลางแอตแลนติกของสเปน ในขณะที่กรีซและแคนาดาเริ่มมีความหวังว่าสถานการณ์เลวร้ายจะคลี่คลายในไม่ช้า

หัวหน้าหน่วยดับไฟป่าแจ้งความคืบหน้าในการต่อสู้กับไฟป่าที่รุนแรงบนเกาะเตเนริเฟเมื่อเช้าวันจันทร์ว่า ยังพอมีความเป็นไปได้ว่าไฟจะลดลง เปโดร ซานเชซ-นายกรัฐมนตรีสเปนเดินทางไปที่เกาะในวันจันทร์เพื่อรับทราบสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งจนถึงตอนนี้ได้อพยพผู้คนราว 13,000 คนออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะแล้ว และมีรายงานว่าประชาชนราว 2-300 คนสามารถเดินทางกลับไปบ้านได้เมื่อวันอาทิตย์

ที่กรีซ การต่อสู้กับไฟป่าในพื้นที่กว้างยังคงดำเนินต่อไปในวันจันทร์ ไฟไหม้ครั้งใหม่เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนในเขตโบเอโอเทีย ทางฟากตะวันตกของกรุงเอเธนส์ มีการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ไปยังเมืองชายหาดของปาราเลีย ซารันติในเช้าวันจันทร์ จากข้อมูลของหน่วยงานป้องกันพลเรือนของกรีซระบุว่า ระดับอันตรายจากไฟป่าสูงสุดมีผลต่อภูมิภาคอัตติกา ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงเอเธนส์ และภูมิภาคใกล้เคียง ที่นั่นมีลมพายุพัดในตอนเช้าและคาดว่าจะยังดำเนินการดับไฟต่อไปอีกสอง-สามวันข้างหน้า

“ลมเป็นศัตรูตัวฉกาจของเรา” โฆษกของหน่วยดับไฟป่ากล่าวกับสถานีข่าว ERT ของกรีซ เนื่องจากไม่มีฝนตกในบางพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมานานหลายเดือน พืชพันธุ์ไม้แห้งกรอบจึงเป็นเชื้อไฟอย่างดี หากพุ่มไม้หรือต้นไม้ติดไฟ ลมจะพัดพาเปลวไฟไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนแทบไม่มีโอกาสดับไฟตั้งแต่ตอนแรก ใกล้เมืองท่าอเล็กซานโดรโปลิส ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรีซ ที่ก่อนหน้านี้เคยถูกไฟป่าคุกคามอย่างหนัก ขณะนี้สามารถควบคุมได้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเสี่ยงอันตรายอยู่

ในภาคตะวันตกของแคนาดา กระแสลม ความแห้งแล้ง และความร้อนยังคงเป็นสาเหตุของไฟป่ารุนแรงอยู่ โดยเฉพาะในเขตเวสต์เคโลว์นา ริมทะเลสาบโอคานากัน ทางตอนใต้ของรัฐบริติชโคลัมเบีย ได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ แต่หัวหน้าหน่วยดับเพลิงท้องถิ่นแจ้งกับสถานีข่าว CBC ว่าสถานการณ์ยามนี้ “กำลังดีขึ้น” ไม่มีบ้านเรือนในชุมชนได้รับความเสียหายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอีก นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดประกาศว่าจะส่งทหารและอุปกรณ์บรรเทาภัยไปยังพื้นที่ดังกล่าวโดยเร็ว

เจ้าหน้าที่ประเมินเมื่อวันอาทิตย์ ไฟป่าขนาดใหญ่ที่คุกคามเวสต์เคโลว์นาและพื้นที่อื่นๆ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 110 ตารางกิโลเมตร ห่างออกไปทางเหนือราว 150 กิโลเมตรไฟป่าสองครั้งได้รวมตัวกันเมื่อวันเสาร์ ทำให้มีพื้นที่เสียหายรวมกว่า 410 ตารางกิโลเมตร และพื้นที่รอบทะเลสาบชูสวาปได้รับผลกระทบหนักสุด

ไฟป่าเป็นเรื่องปกติในหลายภูมิภาคของแคนาดา อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังเผชิญกับฤดูกาลที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าไฟป่าที่รุนแรงเป็นผลมาจากวิกฤตสภาพอากาศ อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พื้นดินแห้งแล้ง.