WHO ชี้โอมิครอนแพร่เชื้อเร็วกว่าเดลตา-ลดประสิทธิภาพวัคซีน

แฟ้มภาพ Getty Images

องค์การอนามัยโลกระบุ ข้อมูลเบื้องต้นถึงขณะนี้ชี้ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอมิครอนสามารถแพร่เชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลตาและลดประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อ แต่ก่ออาการป่วยไม่รุนแรงเท่า

เอเอฟพีรายงานอ้างคำแถลงองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) จากนครเจนีวาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2564 ว่าไวรัสก่อโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่มีรายงานการตรวจพบครั้งแรกที่ประเทศแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พบแพร่กระจายไปยัง 63 ประเทศแล้ว นับข้อมูลถึงวันที่ 9 ธันวาคม โดยมีรายงานการแพร่เชื้อที่เร็วขึ้นในแอฟริกาใต้ ที่สายพันธุ์เดลตาไม่ใช่สายพันธุ์หลัก และที่อังกฤษ ที่สายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดมากที่สุด

กระนั้น คำแถลงย้ำว่า การขาดแคลนข้อมูลทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่า อัตราการแพร่เชื้อของโอมิครอนนั้นเป็นเพราะการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันจากวัคซีนลดลง หรือความสามารถในการแพร่เชื้อโอมิครอนสูงกว่า หรือปนกันทั้งสองปัจจัย แต่หลักฐานเบื้องต้นบ่งชี้ว่า โอมิครอนทำให้ "ประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อและการแพร่เชื้อลดลง"

"จากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน มีแนวโน้มว่าโอมิครอนจะแซงหน้าสายพันธุ์เดลตาในที่ที่เกิดการแพร่เชื้อชุมชน" รายงานสรุปทางเทคนิคของดับเบิลยูเอชโอกล่าว

ถึงบัดนี้โอมิครอนทำให้เกิดอาการป่วย "เล็กน้อย" หรือไม่แสดงอาการ แต่ดับเบิลยูเอชโอกล่าวว่า ข้อมูลยังไม่เพียงพอที่จะระบุถึงความรุนแรงทางคลินิกของสายพันธุ์นี้

เมื่อสัปดาห์ก่อน บริษัทไฟเซอร์และไบออนเทคกล่าวว่า การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 3 โดสยังมีประสิทธิภาพในการต้านโอมิครอนได้ และขณะนี้มีหลายประเทศที่มีวัคซีนเพียงพอ อาทิ อังกฤษและฝรั่งเศส ที่รัฐบาลสนับสนุนให้ประชากรฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิต้านทานโดสที่ 3 เพื่อรับมือกับโอมิครอน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หมอกควันไฟป่าฝุ่น pm2.5 ภาคเหนือพุ่งปรี๊ด! เชียงใหม่ ครองที่ 1 โลกต่อเนื่อง

ปํญหาหมอกควันไฟป่าฝุ่น pm2.5 ภาคเหนือยังพุ่งสูงเป็นสถิติทุกวัน เชียงใหม่ AQI ครองที่ 1 โลกต่อเนื่อง PM2.5 เกินมาตรฐานทุกจุด