ประเมินว่ามีชาวอเมริกันมากกว่า 100 ล้านคนกำลังเดินทางในช่วงเทศกาลคริสต์มาสถึงปีใหม่ ถึงแม้ว่าสหรัฐกำลังเผชิญการระบาดของโอมิครอน ที่ทำให้หลายสายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบินรวมหลายร้อยเที่ยว
รายงานเอเอฟพีเมื่อวันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2564 กล่าวว่า นักเดินทางจำนวนหลายพันคนกำลังได้รับผลกระทบจากการประกาศยกเลิกเที่ยวบินอย่างกะทันหันของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์, เดลตาแอร์ไลน์ และอะแลสกาแอร์ไลน์ในวันเดียวกันนี้ สืบเนื่องจากการระบาดของโควิด-19
ยูไนเต็ดแอร์ไลน์อ้างว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วประเทศทำให้ต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินราว 120 เที่ยวในวันศุกร์ ส่วนเดลตาแจ้งลูกค้าว่าได้ยกเลิก 90 เที่ยวบิน อะแลสกาแอร์ไลน์ยกเลิกแล้ว 17 เที่ยวบินเพราะพนักงานบางคนอาจติดเชื้อไวรัส และมีความเป็นไปได้ที่จะมีเที่ยวบินยกเลิกเพิ่มเติมด้วย
รอยเตอร์อ้างข้อมูลจากเว็บไซต์ FlightAware ว่ายูไนเต็ดยกเลิกเที่ยวบินรวมแล้ว 169 เที่ยวในวันคริสต์มาสอีฟ และเดลตายกเลิก 127 เที่ยวบิน บวกกับอีก 50 เที่ยวบินที่ยูไนเต็ดยกเลิกในวันคริสต์มาส และ 89 เที่ยวบินของเดลตาในวันคริสต์มาส
บริษัทบริการข้อมูลติดตามเที่ยวบินแห่งนี้กล่าวด้วยว่า จำนวนเที่ยวบินที่ยกเลิกทั่วโลกในวันคริสต์มาสอีฟมีทั้งสิ้น 2,029 เที่ยวบิน ในจำนวนนี้ 448 เที่ยวบินอยู่ในสหรัฐ
ด้านสมาคมยานยนต์อเมริกาประเมินว่า จะมีผู้คน 109 ล้านคนในสหรัฐ ออกเดินทางบนท้องถนน, ขึ้นเครื่องบินโดยสาร และใช้ระบบคมนาคมอื่นๆ ในการเดินทางระยะ 80 กิโลเมตร หรือไกลกว่านั้น ระหว่างวันที่ 23 ธันวาคม ถึง 2 มกราคม ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% จากปี 2563
สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์กล่าวว่า กำลังให้บริการเที่ยวบินวันละ 5,000 เที่ยวระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม ถึง 1 มกราคม เทียบเท่ากับ 86% ของตารางบินช่วงก่อนโควิดระบาดในปี 2562
คาดกันว่าช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในสหรัฐพุ่งสูงขึ้นอีก ในช่วงยามที่โอมิครอนกลายเป็นสายพันธุ์หลักโดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 90% ในบางภูมิภาคแล้ว และโรงพยาบาลหลายแห่งกำลังอยู่ในภาวะตึงมือ
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Covid Act Now เผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในสหรัฐเฉลี่ยรอบ 7 วันเตรียมแซงหน้าจำนวนผู้ติดเชื้อที่เคยพุ่งสูงสุดในเมื่อเดือนกันยายนช่วงที่เดลตาระบาดหนัก
ขณะที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลในหลายพื้นที่ของสหรัฐมีอัตราการครองเตียงมากกว่า 90% แล้ว
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐประกาศแนวทางใหม่เพื่อแก้ปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลน โดยอนุญาตให้ผู้ปฏิบัติงานที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการป่วย กลับเข้าทำงานได้หลังจากแยกกักตัวนาน 7 วัน ลดลงจากที่เคยให้กักตัวนาน 10 วัน นอกจากนี้คนทำงานยังไม่จำเป็นต้องกักตัวหากเสี่ยงสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ถ้าพวกเขาฉีดวัคซีนแล้ว
เมื่อวันพฤหัสบดี องค์การอาหารและยาของสหรัฐ (เอฟดีเอ) เพิ่งอนุมัติแคปซูลรักษาโควิดที่พัฒนาโดยบริษัท เมอร์ค สำหรับการใช้แบบฉุกเฉินในการรักษาผู้ป่วยโควิดวัยผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูง เพิ่มเป็นชนิดที่ 2 ต่อจากยาเม็ดของไฟเซอร์ที่ได้รับการอนุมัติหนึ่งวันก่อนหน้านั้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอธีระวัฒน์' แจง 5 ข้อ พูดเรื่องผลกระทบการวัคซีนโควิดทำไม ในเมื่อมันผ่านไปแล้ว
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า
อาจารย์หมอ ห่วงป่วยโควิดเพิ่ม นอนรักษาตัวรพ. พุ่งขึ้น 18.26% ต่อเนื่อง 6 สัปดาห์
คาดประมาณจำนวนคนติดเชื้อใหม่ต่อวันอย่างน้อย 7,172-9,961 ราย เมื่อเปรียบเทียบระหว่างปีนี้ และปีก่อน
‘หมอมนูญ’ เตือนโควิดหลังสงกรานต์เปลี่ยนไป ใครมีอาการแบบนี้รีบตรวจ ATK
อาการของโรคโควิดเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่เป็นอาการของทางเดินหายใจส่วนบน คอ จมูก มากกว่าทางเดินหายใจส่วนล่าง หลอดลม และปอด
‘หมอมนูญ’ เผยผลติดตามสถานการณ์ 5 โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ
ข้อมูลของโรงพยาบาลวิชัยยุทธที่ติดตามโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไรโนไวรัส (Rhinovirus) อาร์เอสวี (RSV) และ ฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส Human metapneumovirus (hMPV)
‘หมอยง’ ย้ำโควิดยังสายพันธุ์โอมิครอน JN.1 ไม่รุนแรง หายไข้-ไอมาก 1 วัน ใส่แมสทำงานได้
โควิด 19 ได้เปลี่ยนแปลงลดความรุนแรงลง จนปัจจุบันความรุนแรงเท่ากับโรคไข้หวัดใหญ่ RSVและเป็นการระบาดตามฤดูกาล
อาจารย์หมอ วิเคราะห์การระบาดโควิด มาจาก โอมิครอน สายพันธุ์ JN.1 เป็นหลัก
แม้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยจะเป็นขาลง แต่จำนวนคนที่ติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันยังมีจำนวนไม่น้อย จึงควรใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท