ปิดหีบเลือกตั้งอินโดนีเซีย ซูเบียนโตขึ้นนำขาดลอย หลังการนับคะแนนเข้าสู่ช่วงสุดท้าย

ผลการนับคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียปรากฎว่าปราโบโว ซูเบียนโต ขึ้นนำห่างตามคาด และเอ็กซิทโพลชี้ว่าคะแนนจะเกินครึ่งโดยไม่จำเป็นต้องเลือกรอบสอง

ปราโบโว ซูเบียนโต ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย กำลังหย่อนบัตรลงคะแนนในหีบ ที่หน่วยเลือกตั้งในเมืองโบกอร์ จังหวัดชวาตะวันตก เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ (Photo by Yasuyoshi CHIBA / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 กล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่และสมาชิกสภานิติบัญญัติชุดใหม่ของอินโดนีเซียสิ้นสุดลงแล้ว โดยหน่วยงานการเลือกตั้งเริ่มนับคะแนนอย่างเป็นทางการไปแล้วกว่า 70%

ผลสำรวจก่อนการลงคะแนนชี้ว่าปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีกลาโหมซึ่งเคยเป็นผู้บัญชาการทหารในสมัยเผด็จการซูฮาร์โต อยู่บนเส้นทางสดใสที่จะรับได้เสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด และผลเอ็กซิทโพลหลังปิดหีบเลือกตั้งก็ชี้ไปในทิศทางเดียวกัน

แม้ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะยังไม่ประกาศจนกว่าจะถึงเดือนหน้า แต่หน่วยงานสำรวจความคิดเห็นผู้มาใช้สิทธิ์ลงคะแนนอย่างน้อยสองสามรายระบุว่า ซูเบียนโตได้คะแนนไปมากกว่า 55% ในขณะที่การนับคะแนนใกล้สิ้นสุดลงอีกไม่นาน

เอ็กซิทโพลของหน่วยงาน 'Pollster Poltracking' ชี้ว่า ซูเบียนโตได้คะแนนไปแล้ว 59.77% ขณะที่ตัวเลขเอ็กซิทโพลของหน่วยงาน 'Cyrus Network-CSIS' ระบุว่า ซูเบียนโตได้ไป 58.62%

ทั้งนี้ ซูเบียนโตจำเป็นต้องได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 50% ของคะแนนเสียงทั้งหมด รวมทั้งบัตรลงคะแนนอย่างน้อย 1 ใน 5 ที่มาจากกว่าครึ่งหนึ่งของ 38 จังหวัด เพื่อเอาชนะคู่แข่งอย่างอานีส บาสเวดาน และกันจาร์ ปราโนโว

อดีตนายพลทหารวัย 72 ปีรายนี้มีกำหนดจะกล่าวปราศรัยกับผู้สนับสนุนในช่วงเย็นวันพุธ ด้วยตวามคาดหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าจะได้เป็นผู้นำประเทศต่อจากประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ซึ่งยังได้รับความนิยมอย่างมากแม้พ้นจากตำแหน่งไปแล้วและหลายฝ่ายเชื่อว่าเขาแอบสนับสนุนซูเบียนโตในฐานะผู้สืบทอด

ซูเบียนโตเองก็เป็นที่ชื่นชอบของคนส่วนใหญ่ หลังจากรณรงค์หาเสียงด้วยการผสมผสานวาทกรรมประชานิยมเข้ากับคำมั่นสัญญาว่าจะสานต่อนโยบายของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด

ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ซูเบียนโตได้รับความนิยมคือการที่จิบราน รากาบูมิง รากา ลูกชายคนโตของวิโดโด วัย 36 ปี เข้าร่วมเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของเขา หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ที่ห้ามผู้สมัครอายุต่ำกว่า 40 ปีลงสมัครรับตำแหน่งระดับสูงทางการเมือง โดยหัวหน้าผู้พิพากษาของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นพี่เขยของประธานาธิบดีวิโดโด

โจโก วิโดโดได้รับความนิยมอย่างมากจากประชาชน หลังนำพาอินโดนีเซียสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคง และสร้างเสถียรภาพทางการเมืองอย่างแข็งแกร่งในระบอบประชาธิปไตยยุคใหม่ของประเทศ.

เพิ่มเพื่อน