อิสราเอลยังคงทิ้งระเบิดใส่ฉนวนกาซาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะที่ตัวแทนจากสหรัฐฯวีโต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่เรียกร้องให้มีการหยุดยิงในดินแดนปาเลสไตน์ เพื่อระงับวิกฤตด้านมนุษยธรรม
เด็กๆ ชาวปาเลสไตน์มองไปที่สุสานในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ท่ามกลางการสู้รบที่ดำเนินอยู่ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส (Photo by SAID KHATIB / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 กล่าวว่า วิกฤตด้านมนุษยธรรมยังคงดำเนินต่อไปในฉนวนกาซา ท่ามกลางการโจมตีไม่หยุดยั้งของกองทัพอิสราเอล ในขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงไม่ได้รับการตอบรับจากคู่ขัดแย้ง
รัฐบาลของหลายชาติที่พยายามหาทางออกของวิกฤตดังกล่าว ได้ใช้ช่องทางสากลผ่านสหประชาชาติทั้งการลงมติและการฟ้องร้องต่อศาลโลก
จนถึงขณะนี้ ผู้ไกล่เกลี่ยยังไม่ประสบผลสำเร็จในการผลักดันให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง แต่ข้อเสนอหยุดยิงอีก 2 ฉบับได้รับการเสนอต่อสหประชาชาติแล้ว
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาได้คัดค้านข้อเสนอหยุดยิงฉบับแรกซึ่งร่างโดยแอลจีเรีย ที่มีเนื้อหาเรียกร้องให้ดำเนินการหยุดยิงตามหลักมนุษยธรรมทันทีและปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดที่ถูกลักพาตัวไปตั้งแต่การโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม "อย่างไม่มีเงื่อนไข"
โดยลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ วิจารณ์ข้อเสนอนี้ว่า ปรารถนาดีแต่ไร้ความรับผิดชอบ
กลุ่มฮามาสกล่าวว่า การยับยั้งของสหรัฐฯ เท่ากับเป็นการเปิดไฟเขียวให้อิสราเอลก่อเหตุสังหารหมู่ต่อไป
การใช้สิทธิ์ยับยั้งดังกล่าวทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากประเทศต่างๆ เช่น จีน, รัสเซีย, ซาอุดีอาระเบีย และแม้แต่พันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ อย่างฝรั่งเศสและสโลวีเนีย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังเผชิญกับแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามาเพื่อให้สหรัฐลดการสนับสนุนอิสราเอล รัฐบาลวอชิงตันจึงเสนอร่างมติทางเลือกเกี่ยวกับฉนวนกาซา โดยสนับสนุนการหยุดยิงชั่วคราวในฉนวนกาซาอย่างด่วนที่สุด
ในขณะที่ช่องทางการทูตยังคงหาบทสรุปไม่ได้ กองทัพอิสราเอลเดินหน้าโจมตีฉนวนกาซาทั้งทางอากาศและทางภาคพื้นดิน ซึ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปทั้งหมด 103 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามการระบุของกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่
กระทรวงฯกล่าวว่า การโจมตีของอิสราเอลยังคงดำเนินต่อไปจนถึงคืนวันอังคาร โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 รายที่บ้านแห่งหนึ่งในเดอีร์ อัล-บาลาห์ ทางตอนกลางของฉนวนกาซา รวมทั้งเมืองราฟาห์ทางใต้สุดก็ถูกทิ้งระเบิดเช่นกัน
สหประชาชาติส่งเสียงเตือนหลายครั้งเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมอันเลวร้ายของฉนวนกาซา และเตือนว่าการขาดแคลนอาหารอาจนำไปสู่การเสียชีวิตของเด็กจำนวนมหาศาล
ที่ผ่านมา ความช่วยเหลือจากโครงการอาหารโลกต้องเผชิญกับกระสุนปืน, ความรุนแรง, การปล้นสะดม และการทำร้ายเจ้าหน้าที่จากผู้คนไม่ทราบฝ่ายในพื้นที่ ทำให้จำเป็นต้องระงับการดำเนินการชั่วคราวและเรียกร้องให้มีการหยุดยิงโดยเร็วเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย
การสู้รบอย่างไม่หยุดยั้งตลอดระยะเวลากว่า 4 เดือนได้ส่งผลให้ชาวกาซา 2.2 ล้านคนตกอยู่ในภาวะอดอยาก และทำให้พลเมืองจำนวน 3 ใน 4 กลายเป็นผู้พลัดถิ่น ตามการคาดการณ์ของสหประชาชาติ
ปัจจุบันชาวปาเลสไตน์ประมาณ 1.4 ล้านคนพักพิงอยู่ในเมืองราฟาห์ โดยหลายคนอาศัยอยู่ในเต็นท์ชั่วคราว
เมืองที่แออัดยัดเยียดและเป็นเมืองสุดท้ายที่กองทหารภาคพื้นดินของอิสราเอลยังไม่ได้แตะต้อง เป็นจุดเริ่มต้นหลักในการรับสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่จำเป็นอย่างยิ่งผ่านทางอียิปต์ที่มีพรมแดนติดกัน
แม้จะมีแรงกดดันจากนานาชาติ แต่อิสราเอลก็ยืนกรานว่าปฏิบัติการภาคพื้นดินในเมืองนี้เป็นสิ่งจำเป็นในการทำลายล้างกลุ่มฮามาส
ผู้นำกลุ่มมนุษยธรรมทั่วโลกกล่าวเมื่อวันอังคารว่า การโจมตีในราฟาห์อาจทำให้เมืองนี้กลายสภาพเป็น "สุสาน" พร้อมเตือนว่าผลที่ตามมาจากการโจมตีเต็มรูปแบบนั้นอาจเลวร้ายเกินจินตนาการ
อิสราเอลเคยกล่าวไว้ว่า จะรุกต่อไปในช่วงเดือนศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม รวมถึงในราฟาห์ด้วย เว้นแต่ว่าตัวประกันชาวอิสราเอลทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัวก่อนเริ่มต้นรอมฎอนในวันที่ 10 หรือ 11 มีนาคม
เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วที่อิสราเอลรวมศูนย์ปฏิบัติการทางทหารไว้ที่เมืองข่าน ยูนิส ซึ่งเป็นบ้านเกิดของยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาส ซึ่งถูกกล่าวหาว่าบงการเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ทหารยังคงปฏิบัติการอย่างเข้มข้นในเมืองนี้ต่อไป และได้สังหารผู้ก่อการร้ายไปหลายสิบรายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
องค์การอนามัยโลกระบุเมื่อวันอังคารว่า ได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยอาการวิกฤต 32 คนออกจากโรงพยาบาลนัสเซอร์ในกาซา ซึ่งกองทหารอิสราเอลบุกโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีรายงานผู้ป่วย 7 รายเสียชีวิตจากการถูกปิดล้อมตั้งแต่วันศุกร์ เนื่องจากไฟดับทำให้ขาดออกซิเจน
แต่อิสราเอลปฏิเสธว่า ไม่มีผู้ป่วยรายใดเสียชีวิตนับตั้งแต่กองทัพเริ่มปฏิบัติการ.
