สหรัฐฯ หวังเกิดการหยุดยิงในฉนวนกาซาสัปดาห์หน้า

การหยุดยิงครั้งใหม่ระหว่างอิสราเอลและฮามาสอาจเริ่มต้นได้ในวันจันทร์หน้า รวมทั้งข้อตกลงที่จะปล่อยตัวประกันหลายสิบคนที่ถูกคุมขังในฉนวนกาซาด้วย

มุมมองทางอากาศในเมืองไรม์ ทางตอนใต้ของอิสราเอล แสดงให้เห็นญาติและผู้สนับสนุนของตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซานับตั้งแต่การโจมตีของกลุ่มติดอาวุธฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม กำลังเดินขบวนประท้วง 4 วันไปยังกรุงเยรูซาเลม เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวตัวประกันดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ (Photo by Jack GUEZ / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ แสดงความมั่นใจว่าการหยุดยิงครั้งใหม่ระหว่างอิสราเอลและฮามาสอาจเริ่มต้นได้ในวันจันทร์หน้า เช่นเดียวกับข้อตกลงปล่อยตัวตัวประกันหลายสิบคนที่ถูกคุมขังในฉนวนกาซาด้วย

บรรดาผู้ไกล่เกลี่ยจากอียิปต์, กาตาร์ และสหรัฐอเมริกากำลังทำงานอย่างหนักในการยื่นข้อเสนอต่อคู่สงคราม โดยการเจรจายังคงดำเนินอยู่

พวกเขากำลังหาทางให้เกิดการพักรบเป็นเวลา 6 สัปดาห์ และปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอลทั้งหมดที่ถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซา รวมถึงการปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนที่อิสราเอลควบคุมตัว เป็นการแลกเปลี่ยน

"ความหวังของผมคือวันจันทร์หน้าเราจะมีการหยุดยิง" ไบเดนกล่าวเพื่อตอบคำถามว่าการหยุดยิงจะเริ่มเมื่อใด และเสริมว่า "แต่ก็ยังเหลือขั้นตอนก่อนจะไปถึงจุดนั้น"

เขากล่าวในเวลาต่อมาว่า ตามหลักการร่วมกัน ข้อตกลงสงบศึกชั่วคราวจะกินเวลาผ่านเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 10 หรือ 11 มีนาคม ขึ้นอยู่กับปฏิทินจันทรคติ

"มีข้อตกลงจากฝั่งอิสราเอลเช่นกันว่า พวกเขาจะไม่ปฎิบัติภารกิจทางทหารในช่วงรอมฎอน เพื่อให้มีช่วงเวลาปลอดภัยในการนำตัวประกันทั้งหมดออกไปจากพื้นที่กาซา" ไบเดนกล่าว

ล่าสุด ประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะเป็นเจ้าภาพในการหารือประเด็นดังกล่าวในกรุงปารีส ร่วมกับประมุขแห่งกาตาร์ และอิสมาอิล ฮานิเยห์ หัวหน้ากลุ่มฮามาสในโดฮา เพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงโดยทันทีและถาวร

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลเน้นย้ำว่า การหยุดยิงใดๆ เป็นไปเพื่อการชะลอปฎิบัติการเท่านั้น แต่จะไม่สามารถหยุดยั้งการบุกภาคพื้นดินทางตอนใต้สุดของฉนวนกาซาได้ ซึ่งเขากล่าวว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเอาชนะอย่างเด็ดขาดต่อกลุ่มฮามาส

ที่ผ่านมามีแรงกดดันจากนานาชาติอย่างสูง รวมทั้งจากสหรัฐฯ ให้อิสราเอลระงับการส่งทหารไปยังเมืองราฟาห์ ซึ่งพลเรือนชาวปาเลสไตน์ประมาณ 1.4 ล้านคนได้ขอลี้ภัยจากการสู้รบ แต่อิสราเอลยืนยันว่าได้เตรียมแผนการอพยพพลเรือนออกจากราฟาห์ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าผู้พลัดถิ่นเหล่านั้นจะถูกย้ายไปที่ใด

ก่อนการบุกภาคพื้นดิน อิสราเอลได้โจมตีทางอากาศใส่เมืองราฟาห์หลายต่อหลายครั้ง

กลุ่มฮามาสระบุว่า อิสราเอลได้โจมตีมากกว่า 52 ครั้ง โดยมีเมืองราฟาห์และข่าน ยูนิส ทางตอนใต้ เป็นเป้าหมายหลัก เช่นเดียวกับพื้นที่ใจกลางฉนวนกาซา

ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 29,782 รายในฉนวนกาซา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ตามการระบุของกระทรวงสาธารณสุขในดินแดนที่ปกครองโดยกลุ่มฮามาส

ขณะที่การโจมตีของกลุ่มฮามาสที่ก่อให้เกิดสงคราม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,160 รายในอิสราเอล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ตามรายงานของเอเอฟพีที่อิงจากตัวเลขของทางการ

กลุ่มติดอาวุธยังจับตัวประกันชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติได้ประมาณ 250 คน โดย 130 คนยังคงอยู่ในฉนวนกาซา ในจำนวนนี้คาดว่ามีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 31 ราย ตามการระบุของอิสราเอล

เนทันยาฮูกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากสาธารณะ เกี่ยวกับชะตากรรมของตัวประกันที่ยังคงถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซา และจากขบวนการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง

สถานการณ์ปัจจุบัน ความช่วยเหลือในกาซาลดลงไปกว่าเดือนก่อนหน้า เนื่องจากรถบรรทุกช่วยเหลือส่วนใหญ่ถูกระงับ ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องหันไปกินอาหารสัตว์หรือใบไม้ทดแทน

UNRWA ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของสหประชาชาติในการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ กล่าวว่า ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่เข้ามาในฉนวนกาซาได้ลดลงครึ่งหนึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ เพราะฝั่งอิสราเอลกลับประสบปัญหาขัดข้องภายในดินแดนดังกล่าว จนความข่วยเหลือไม่สามารถดำเนินการได้เต็มที่.

เพิ่มเพื่อน