ฮ่องกงตั้งข้อหา บก.และอดีต บก.ของ "สแตนด์นิวส์" สื่ออิสระหนุนประชาธิปไตยที่ปิดตัวลงแล้ว ฐานคบคิดเผยแพร่เนื้อหาปลุกระดมต่อต้านรัฐเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะรัฐบาลจีนโต้สหรัฐ-อียู-แคนาดาอ้างเสรีภาพสื่อบังหน้าวิจารณ์การบังคับใช้กฎหมายของฮ่องกง "แบบไม่รับผิดชอบ"

รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม 2564 กล่าวว่า สำนักข่าวไม่แสวงกำไร "สแตนด์นิวส์" โดนตำรวจที่ยกกำลังมามากกว่า 200 นาย บุกตรวจค้นสำนักงานเมื่อวันพุธ และบรรณาธิการ, อดีตบรรณาธิการ และอดีตคณะกรรมการบริหาร รวม 7 คน ถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ยังยึดโทรศัพท์, คอมพิวเตอร์, เอกสารและเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
ในวันพฤหัสบดี อัยการฮ่องกงได้ตั้งข้อหาแพทริก แลม รักษาการบรรณาธิการที่โดนจับใส่กุญแจมือออกจากสำนักงานเมื่อวันพุธ, ชุง พุยกวน อดีตบรรณาธิการ และบริษัทแม่ของสแตนด์นิวส์ ฐานคบคิด "ร่วมกันและร่วมกับบุคคลอื่นๆ เผยแพร่และ/หรือทำซ้ำสิ่งพิมพ์ปลุกระดม"
ข้อกล่าวหาตามเอกสารของศาลกล่าวถึงการกระทำผิดของพวกเขาว่า รวมถึงการส่งเสริมความเกลียดชัง หรือดูหมิ่น หรือกระตุ้นให้เกิดความไม่พอใจต่อรัฐบาล และยุยงให้บุคคลใช้ความรุนแรง
ด้านสำนักงานประสานงานของรัฐบาลจีนในฮ่องกงกล่าวถึงการจับกุมบุคคลเหล่านี้ว่า เป็นกระบวนการยุติธรรม ที่คนร้ายได้รับสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเสรีภาพของสื่อ และว่า สแตนด์นิวส์ยุยงการแบ่งแยกดินแดน
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนในกรุงปักกิ่งตอบโต้รัฐบาลสหรัฐ, แคนาดา และสหภาพยุโรป ที่ประณามการบุกค้นจับกุมและปราบปรามเสรีภาพสื่อในฮ่องกง โดยจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวง แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี โจมตีว่า พลังจากภายนอกวิจารณ์การบังคับใช้กฎหมายในฮ่องกงอย่าง "ไม่รับผิดชอบ" โดยอ้างเสรีภาพสื่อบังหน้า "แต่เสรีภาพสื่อและเสรีภาพในการแสดงความคิดไม่สามารถเป็นเกราะป้องกันการทำผิดอาญาได้"
รัฐบาลจีนยังได้คว่ำบาตรพลเมืองอเมริกัน 5 คน โดยอายัดทรัพย์สินของพวกเขาในจีน และห้ามพลเมืองและองค์กรของจีนเกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้ เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐวิจารณ์เรื่องเสรีภาพที่เสื่อมถอยในฮ่องกง
ก่อนหน้านั้น แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การบุกค้นและการปราบปรามเสรีภาพสื่อโดยจีนและทางการท้องถิ่นบั่นทอนความน่าเชื่อถือและความอยู่รอดของฮ่องกง "การสื่อสารมวลชนไม่ใช่การปลุกระดม" เขากล่าว และว่า รัฐบาลที่มั่นใจไม่หวาดกลัวความจริงจะเปิดกว้างต่อเสรีภาพสื่อ
แคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ตอบเสียงวิจารณ์ของบลิงเคนว่า เธอเห็นด้วยว่าการสื่อสารมวลชนไม่ใช่การปลุกระดม แต่พฤติกรรมปลุกระดมต่อต้านรัฐไม่อาจให้อภัยได้ภายใต้ฉากบังหน้าของการรายงานข่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขำไม่ออก! อดีต รมว.กต. โวรัฐบาลอิ๊งค์เจรจาสหรัฐ-จีน กดดันกัมพูชาเคารพข้อตกลงสันติภาพได้สำเร็จ
"มาริษ" แนะดึงจีนร่วมกดดันกัมพูชาให้เคารพข้อตกลง-รักษาสมดุลมหาอำนาจ-สื่อสารสหรัฐฯ โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง
กระแสชื่นชม สมเด็จพระราชินี จากชาวจีนสะท้อนอะไร
ความคิดเห็นของชาวจีนจำนวนมากพูดตรง ๆ เลยว่า “งดงาม สง่างาม มีความสูงศักดิ์” และ “ดูจริงใจ ไม่ใช่การแสดง”
'นักวิชาการ' ชี้นายกฯป้องอธิปไตย ไม่ทำไทยเสี่ยง 'รัฐบริวาร'
รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไทยไม่ใช่ “รัฐบริวาร”!
ไม่พลาด ‘สว.นันทนา’ ฟาดนายกฯฝึกงานสื่อสารจนพังไปทั้งประเทศ!
น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า “นายกฝึกงาน” สื่อสารจนพังไปทั้งประเทศ
โบว์ เตือนแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ต้องใช้เหตุผลรอบคอบทุกมิติ ไม่ใช่ตามกระแสอารมณ์
โบว์ ชี้การคิดเอาเองว่าประธานาธิบดีสหรัฐเข้าข้างกัมพูชา ประธานอาเซียนก็เข้าข้างกัมพูชา เป็นความคิดแบบมโนไปเอง


