กลุ่มบุคคล 4 คนถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมจากการสังหารเด็กชายวัย 15 ปี ท่ามกลางภาวะความรุนแรงในโรงเรียนที่กำลังครอบงำฝรั่งเศสมากขึ้นเรื่อยๆ
ดอกไม้ที่จัดแสดงเพื่อไว้อาลัย ก่อนทางเข้าโรงเรียนมัธยม 'Les Sablons' ในเมืองวีรี-ชาติยง (Viry-Châtillon) ภายหลังการเสียชีวิตของเด็กชายวัย 15 ปีที่ถูกรุมทำร้ายอย่างรุนแรง เมื่อวันที่ 4 เมษายน (Photo by EMMANUEL DUNAND / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 8 เมษายน 2567 กล่าวว่า จากเหตุเยาวชนชายวัย 15 ปีรายหนึ่งถูกกลุ่มคนรุมทำร้ายจนเสียชีวิต ขณะเดินออกจากโรงเรียนมัธยม 'Les Sablons' เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ที่เมืองวีรี-ชาติยง (Viry-Châtillon) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงปารีสไปทางใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร
ล่าสุด ผู้ต้องหา 4 คนถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมจากการสังหารเด็กชายคนดังกล่าวแล้ว
ผู้ต้องหา 1 คนซึ่งเป็นวัยรุ่นอายุ 20 ปีและผู้เยาว์หนึ่งคนถูกจำคุก ในขณะที่ผู้เยาว์อีก 2 คนถูกควบคุมตัวก่อนการพิจารณาคดี ฐานทุบตีนักเรียนชายชื่อเชมเซดดีน วัย 15 ปี ขณะเดินออกจากโรงเรียน ตามการรายงานของสำนักงานอัยการเมือง หลังการพิจารณาคดีข้ามคืน
อัยการกล่าวว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุ เกิดจากข้อพิพาทระหว่างผู้เสียชีวิตกับน้องสาวของพวกผู้ก่อเหตุในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ
"เพื่อปกป้องน้องสาวและชื่อเสียงของครอบครัว พวกเขาจึงสั่งห้ามไม่ให้ผู้เสียชีวิตติดต่อกับน้องสาวพวกเขาอีกต่อไป แต่ดูเหมือนผู้เสียชีวิตจะยังคงดื้อดึงและกล่าวถึงน้องสาวของพวกเขาในทางที่ไม่ดี จนนำมาซึ่งการรุมทำร้ายและกลายเป็นการเสียชีวิต" อัยการกล่าว
ในที่เกิดเหตุ ชายสามคนสวมหมวกไหมพรมโจมตีเชมเซดดีน ขณะเดินออกจากโรงเรียนในเมืองวีรี-ชาติยง และการทำร้ายนั้นสาหัสจนเชมเซดดีนเสียชีวิตจากบาดแผลในเวลาต่อมา
จากนั้น ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 5 คน ได้แก่ เด็กอายุ 17 ปี 3 คน, เด็กอายุ 15 ปี 1 คน และวัยรุ่นอายุ 20 ปี 1 คน แต่ท้ายที่สุดผู้ต้องสงสัยวัย 15 ปีได้รับการปล่อยตัว
นับเป็นเหตุโจมตีนักเรียนเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังเพิ่งมีกรณีที่เด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งถูกทำร้ายนอกโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองมงต์เปลลิเยร์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนผู้ก่อเหตุ 3 คนถูกจับกุมในข้อหาพยายามฆ่าผู้เยาว์ โดยมีข้อมูลว่าหนึ่งในผู้ก่อเหตุเป็นนักเรียนหญิงโรงเรียนเดียวกัน
เหตุการณ์ทั้งสองเกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้น หลังมีกรณีการทำร้ายนักเรียนบ่อยครั้งในระยะหลัง ตามมาด้วยการส่งข้อความข่มขู่ไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วฝรั่งเศส จนทางการต้องเฝ้าระวังและสั่งการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพิ่มกระบวนการรักษาความปลอดภัย
ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ และกล่าวว่าโรงเรียนจำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากความรุนแรงทุกรูปแบบ เพราะโรงเรียนควรเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับลูกหลาน, สำหรับครอบครัว และสำหรับครูด้วยเช่นกัน.
