อิหร่านจัดพิธีสวนสนามทางทหารประจำปี พร้อมฉลองความสำเร็จของการโจมตีอิสราเอลด้วยโดรนและขีปนาวุธเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีอิบราฮิม ไรซี ของอิหร่าน เป็นประธานในพิธีสวนสนามร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้บัญชาการทหาร เพื่อเฉลิมฉลองวันกองทัพประจำปี ในกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 17 เมษายน (Photo by ATTA KENARE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 17 เมษายน 2567 กล่าวว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านจัดพิธีสวนสนามประจำปีของกองทัพ พร้อมจัดแสดงยุทโธปกรณ์ทางทหารหลายประเภท รวมถึงโดรนและขีปนาวุธพิสัยไกล ในฐานทัพทหารแห่งหนึ่งชานเมืองเตหะราน
ประธานาธิบดีอิบราฮิม ไรซี ของอิหร่าน ซึ่งเป็นประธานในพิธี กล่าวสุนทรพจน์แก่กองทัพและกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามว่า ปฏิบัติการโจมจีอิสราเอลเมื่อสุดสัปดาห์แสดงให้เห็นว่ากองทัพของเราพร้อมแล้ว
"ปฏิบัติการดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า Honest Promise ได้ทำลายความรุ่งโรจน์ของระบอบไซออนิสต์ (อิสราเอล) จนกลับสู่ธุลีดิน" ไรซีกล่าว
นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวโจมตีบรรดาประเทศที่พยายามเข้าข้างและช่วยเหลืออิสราเอล
"ประเทศเหล่านี้ควรละอายต่อประชาชนของตนเองที่รัฐบาลของชาติประสบความล้มเหลวทางยุทธศาสตร์การปกครองในกรณีอิสราเอล" ไรซีกล่าวประณาม
คำกล่าวของไรซีอาจสื่อถึงชาติตะวันตก รวมทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน และโมร็อกโกที่มีความสัมพันธ์พิเศษกับอิสราเอลตั้งแต่ปี 2563 โดยเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาอับราฮัมที่สหรัฐฯ เป็นตัวตั้งตัวตี ซึ่งถูกปาเลสไตน์วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
ขณะที่อียิปต์และจอร์แดนเองก็เคยลงนามข้อตกลงสันติภาพกับอิสราเอลในปี 2522 และ 2537 ตามลำดับ
ก่อนหน้านี้ ไรซีย้ำเตือนมาตลอดว่าการกระทำของอิสราเอลแม้เพียงเล็กน้อย จะนำไปสู่การตอบสนองที่รุนแรงยิ่งกว่า
ทั้งนี้ อิหร่านเปิดฉากโจมตีโดยตรงด้วยโดรนและขีปนาวุธมากกว่า 300 ลูก ในหลายพื้นที่ของอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ เพื่อตอบโต้การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 เมษายนต่อสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรีย
กองทัพอิสราเอลเผยว่าขีปนาวุธส่วนใหญ่ของอิหร่านถูกสกัดไว้ได้ด้วยความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ และพันธมิตรอื่นๆ และการโจมตีดังกล่าวสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อิหร่านโต้ว่าการโจมตีดังกล่าวจงใจปฏิบัติแบบมีขอบเขตจำกัด และดำเนินการด้วยเหตุผลด้านการป้องกันตัวเอง หลังเป็นฝ่ายถูกโจมตีสถานกงสุลก่อน
การโจมตีดังกล่าว (ของอิสราเอล) ทำให้อาคารกงสุล 5 ชั้นของสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส พังทลายลง และสังหารทหารองครักษ์คณะปฏิวัติไป 7 ราย โดย 2 รายในจำนวนดังกล่าวเป็นนายพล.
