คณะลูกขุนของสหรัฐมีคำตัดสินเมื่อวันจันทร์ว่า เอลิซาเบธ โฮล์มส์ อดีตซีอีโอหญิงที่เป็นมหาเศรษฐีพันล้านอายุน้อยที่สุดในโลกผู้ก่อตั้งบริษัท เธรานอส มีความผิด 4 กระทงจาก 11 กระทง ฐานฉ้อโกงนักลงทุนที่ทุ่มเงินลงธุรกิจสตาร์ตอัพอุปกรณ์ตรวจเลือดลวงโลกของเธอ ศาลยังไม่นัดวันพิพากษาโทษ
รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันอังคารที่ 4 มกราคม 2565 กล่าวว่า คดีของโฮล์มส์เป็นคดีตัวอย่างที่พบได้น้อยมากของการดำเนินคดีกับผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีอนาคตไกลจากซิลิคอนแวลลีย์ ซึ่งเต็มไปด้วยบริษัทขายฝันถึงอนาคตกำไรก้อนโต แต่สุดท้ายกลับเจ๊งกันระนาว คดีนี้ยังขับเน้นให้เห็นเส้นแบ่งอันเลือนรางระหว่างความเร่งรีบที่เป็นเอกลักษณ์ของอุตสาหกรรมนี้ กับความไม่ซื่อสัตย์ที่เป็นความผิดทางอาญา
โฮล์มส์ วัย 37 ในปัจจุบัน เริ่มก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ เธรานอส (Theranos) เมื่อปี 2547 ตอนนั้นเธออายุเพียง 19 ปี โดยมีสตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัท แอปเปิล เป็นแรงบันดาลใจ เธอยังแต่งตัวและปรับบุคลิกให้คล้ายคลึงกับจ็อบส์ รวมถึงชอบสวมเสื้อคอเต่า เธอดึงดูดนักลงทุนผู้มั่งคั่งให้เข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพเครื่องตรวจเลือดของเธอ ที่เธอคุยว่าจะปฏิวัติวงการตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยโรคต่างๆ ด้วยเลือดจากปลายนิ้วเพียงไม่กี่หยด
นักลงทุนและผู้มีชื่อเสียงจำนวนมากเชื่อมั่นในคำโฆษณาสรรพคุณ และร่วมลงทุนหรือมีส่วนร่วมในคณะกรรมการบริหารของบริษัทนี้ระหว่างปี 2553-2558 ซึ่งรวมถึงรูเพิร์ต เมอร์ด็อก เจ้าพ่อสื่อ, เฮนรี คิสซินเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และจิม แมททิส อดีตรัฐมนตรีกลาโหม รายหลังมาร่วมเป็นพยานฝ่ายโจทก์ด้วย การเติบโตอย่างก้าวกระโดดทำให้โฮล์มส์เป็นมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ในชั่วพริบตา โดยฟอร์บส์ประเมินว่าเธอมีทรัพย์สิน 4,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2558
ปีเดียวกันนั้นเอง หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลเผยแพร่บทความหลายชิ้น ขุดคุ้ยความไม่ชอบมาพากลของเธรานอส ที่บ่งชี้ว่าเครื่องตรวจเลือดมีข้อบกพร่องและไม่แม่นยำ โดยอ้างอิงจากคำกล่าวของอดีตผู้บริหารและพนักงานของเธรานอส ท้ายที่สุดบริษัทนี้พังครืน โฮล์มส์ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีฉ้อโกงในปี 2561 ร่วมกับราเมศ "ซันนี" บัลวานี อดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (ซีโอโอ) คนรักเก่าของเธอที่อายุมากกว่าร่วม 20 ปี ทั้งคู่ปฏิเสธคำกล่าวหา บัลวานีมีกำหนดขึ้นศาลหลังจากนี้
การพิจารณาคดีของโฮล์มส์ที่เมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย เริ่มต้นเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา อัยการใช้เวลา 11 สัปดาห์ในการเรียกพยานกว่า 24 ปากขึ้นให้การ ซึ่งรวมถึงอดีตลูกจ้างและผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากความบกพร่องของอุปกรณ์ตรวจเลือด โดยอัยการพยายามชี้ให้ลูกขุนเชื่อว่า โฮล์มส์รู้ว่าเทคโนโลยีของเธอใช้งานไม่ได้จริง และจงใจชักนำให้นักลงทุนและผู้ป่วยเข้าใจผิด
หลังจากคณะลูกขุนใช้เวลาปรึกษาหารือไตร่ตรองนาน 7 วัน ก็ได้ข้อสรุปในวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า โฮล์มส์มีความผิด 4 ข้อหา จาก 11 ข้อหา ที่ได้แก่ การฉ้อโกงนักลงทุนและคบคิดล่อลวงให้นักลงทุนทุ่มเงินลงทุนในระบบที่เธออ้างว่าเป็นการปฏิวัติการตรวจเลือดของเธอ และตัดสินให้เธอพ้นความผิดจาก 3 ข้อหาที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงคนไข้ที่ซื้อเครื่องตรวจเลือดจากเธรานอสและข้อหาคบคิดอีก 1 ข้อหา ที่เหลืออีก 3 ข้อหาคณะลูกขุนหาความเห็นที่เป็นเอกฉันท์ไม่ได้
โฮล์มส์ ซึ่งสวมชุดสูทสีเทา มีท่าทีสงบเมื่อฟังคำตัดสิน ผู้พิพากษาเอ็ดเวิร์ด ดาวิลา ยังไม่ได้นัดวันพิพากษาโทษ โดยแต่ละกระทงมีโทษสูงสุดจำคุกกระทงละ 20 ปี แต่เป็นไปได้ว่าผู้พิพากษาอาจจะลงโทษจำคุกเธอไม่ถึง 80 ปี ขณะนี้โฮล์มส์ยังเป็นอิสระและมีกำหนดขึ้นศาลเพื่อไต่สวนคำขอประกันสัปดาห์หน้า และเป็นไปได้ที่เธอจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ออสเตรีย เตรียมส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวซีเรียกลับประเทศ
หลังจากการล่มสลายของผู้นำบาชาร์ อัล-อัสซาดในซีเรีย รัฐบาลออสเตรียได้ประกาศแผนการส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวซีเรียกลับประเทศของตน “โครงการส่งก