เกาหลีใต้-จีน-ญี่ปุ่นให้คำมั่นว่าจะเพิ่มความร่วมมือเพื่อความสงบของคาบสมุทร

ผู้นำเกาหลีใต้, จีน และญี่ปุ่น ยืนยันเป้าหมายร่วมกันต่อประเด็นคาบสมุทรเกาหลีเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ระหว่างการประชุมสุดยอดที่มุ่งกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

(จากซ้ายไปขวา) นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น, ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้ และนายกรัฐมนตรีหลี่เฉียง ของจีน เข้าร่วมการประชุมสุดยอดทางธุรกิจที่หอการค้าและอุตสาหกรรมเกาหลีในกรุงโซล เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม (Photo by Chung Sung-Jun / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่า การประชุมสุดยอดสามผู้นำของเกาหลีใต้, จีน และญี่ปุ่น จัดขึ้นในกรุงโซล โดยเป็นการเจรจาไตรภาคีครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี

ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพในการต้อนรับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน และนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ในการหารือที่มุ่งกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

แม้ว่าประเด็นสันติภาพและความมั่นคงของคาบสมุทรเกาหลีที่สั่นคลอนจากอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือไม่ได้อยู่ในวาระการประชุมอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ แต่การที่รัฐบาลเปียงยางประกาศว่าเร็วๆ นี้พวกเขาจะส่งดาวเทียมสอดแนมอีกดวงขึ้นสู่วงโคจร ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ ทำให้ในงานแถลงข่าวร่วมกัน ผู้นำเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการปล่อยขีปนาวุธ โดยชี้ว่าการกระทำเหล่านั้นเป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในระดับภูมิภาคและระดับโลก

ผู้นำเกาหลีใต้ยังเรียกร้องให้นานาชาติตอบโต้อย่างเด็ดขาด หากคิมจองอึนเดินหน้าปล่อยดาวเทียมดังกล่าวเป็นครั้งที่ 4 โดยได้รับความช่วยเหลือจากสิ่งที่รัฐบาลโซลเชื่อว่าเป็นความช่วยเหลือด้านเทคนิคของรัสเซียเพื่อแลกกับการที่เกาหลีเหนือส่งอาวุธให้รัฐบาลมอสโกใช้ในการรบกับยูเครน

แต่จีนซึ่งเป็นทั้งพันธมิตรที่สำคัญที่สุดและผู้อุปถัมภ์ทางเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ ยังคงนิ่งเงียบในประเด็นนี้ โดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงไม่ได้เอ่ยถึงประเด็นนี้ในระหว่างการบรรยายสรุป

อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ร่วมสามฝ่ายที่เปิดเผยหลังการเจรจา ทั้งสามชาติยืนยันความมุ่งมั่นของพวกเขาในความต้องการให้มีการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี โดยเสริมว่าสันติภาพจะเป็นทั้งประโยชน์ต่อทุกฝ่ายและเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่ายเช่นกัน

ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จีนเคยประณามการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และสนับสนุนการคว่ำบาตรที่มีเป้าหมายเพื่อควบคุมการพัฒนาอาวุธของรัฐบาลเปียงยาง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกิดช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐถดถอยลง ทำให้จีนใช้สิทธิ์ขัดขวางความพยายามที่นำโดยรัฐบาลวอชิงตันในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดยิ่งขึ้นต่อเกาหลีเหนือ

จีนเรียกร้องให้มีการปลดอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดในคาบสมุทรเกาหลีมาโดยตลอด ขณะเดียวกันก็ตำหนิการฝึกซ้อมร่วมทางทหารระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ว่าเป็นการเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคเช่นกัน เพราะสหรัฐเป็นฝ่ายนำอาวุธนิวเคลียร์เข้ามาสู่ภูมิภาคผ่านการซ้อมรบร่วมดังกล่าว

ด้านประเด็นเศรษฐกิจ ทั้งสามประเทศประกาศว่าพวกเขาจะหารือต่อไปเพื่อเร่งการเจรจาเรื่องเขตการค้าเสรีไตรภาคี

นายกรัฐมนตรีของจีนกล่าวว่า พวกเขาตกลงที่จะไม่ทำให้ปัญหาทางเศรษฐกิจและการค้ากลายเป็นเกมการเมืองหรือเรื่องความมั่นคงระหว่างกัน และจีนขอปฏิเสธการกีดกันทางการค้าทุกรูปแบบ

ขณะที่ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้กล่าวว่า สามผู้นำได้ตัดสินใจที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่โปร่งใสและคาดการณ์ได้สำหรับการค้าและการลงทุน เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงในภูมิภาคที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของจีน แต่ก็กระตือรือร้นที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้าและปรารถนาที่จะลดความตึงเครียดกับรัฐบาลปักกิ่งด้วย

"ระบบความร่วมมือไตรภาคีควรมีความเข้มแข็งและมั่นคง ดังนั้นพวกเราจึงได้ตัดสินใจที่จะจัดการประชุมสุดยอดไตรภาคีอย่างสม่ำเสมอ" ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวทิ้งท้าย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ดึงสติ โลกกำลังเตรียมสงครามใหญ่ แต่ไทยหลงละเลิงหาที่สร้างกาสิโน

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง ภัยกำลังจะมาถึงตัว มีเนื้อหาดังนี้